|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ผู้ประกอบการอสังหาฯ รับสภาพดอกเบี้ยขาขึ้น กระทบการตัดสินใจซื้อบ้าน เพิ่มภาระการผ่อนของลูกค้า แต่ไม่น่ากลัวเท่า “ราคาวัสดุก่อสร้างผันผวน” คำนวณต้นทุนยาก ด้านพฤกษาฯ ชี้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวให้ทันเหตุการณ์ ชี้ขายคอนโดฯมันมืออาจไม่คุ้ม
ในสถานการณ์ที่อัตราเงินเฟ้อมีการเร่งตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจัยสำคัญเกิดจากต้นทุนทางด้านพลังงานเชื้อเพลิง ที่ทำให้ราคาสินค้า ค่าขนส่งต่างๆ มีต้นทุนขยับสูงขึ้น ส่งผลให้ตัวเลขดัชนีราคาสินค้าในเดือนมิ.ย.51 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้น 8.9% เป็นอัตราสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี แรงกดดันที่มีอย่างต่อเนื่องของอัตราเงินเฟ้อ ได้ทำให้ทางธนาคารแห่งประเทศไทย โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กำลังตัดสินใจต่อทิศทางของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในวันที่ 16 มิ.ย.นี้
แต่สิ่งที่จะต้องจับตามองเพิ่มขึ้น คือ “ค่าเงินบาท” ที่เริ่มอ่อนค่าลง (วันจันทร์เงินบาทประมาณ 33.30 บาทต่อดอลลาร์) ทำให้ไทยต้องมีต้นทุนในการนำเข้าเชื้อเพลิงสูงขึ้น และอาจจะลุกลามไปถึงต้นทุน และเงินเฟ้อในระยะข้างหน้าได้
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำตลาดคอนโดมิเนียม กล่าวยอมรับว่า ปัจจัยเสี่ยงข้างต้น จะทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงนี้อยู่ในระยะไม่ปกติ รวมถึงตลาดการเงินที่ได้รับผลกระทบเงินเฟ้อด้วย
ซึ่งแน่นอนว่า ผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว จะส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ และความสามารถในการผ่อนของผู้บริโภคที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยทุกประเภท ทั้งนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทุกๆ 1% ของจำนวนเงิน 1 ล้านบาท จะทำให้ผู้บริโภคต้องมีภาระในการผ่อนส่งค่างวดเพิ่มขึ้น 500 บาทต่อเดือน แต่สิ่งผู้บริโภคกังวลมากที่สุดในขณะนี้ คือ ปัญหาการผันผวนของราคาน้ำมัน ( มีผลต่อค่าครองชีพที่สูงขึ้น ) จนส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตทำให้ไม่สามารถประมาณการ หรือ คำนวณราคาที่เหมาะสมได้ แต่ถ้าหากทุกอย่างมีความชัดเจนแล้วเชื่อว่า ปัญหาการปรับขึ้นของต้นทุน การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปัญหาต่างๆ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคแน่นนอน
สำหรับ ผลกระทบจากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของกนง. ต่อผู้ประกอบการอสังหาฯในขณะนี้ มีอยู่ 2 ด้าน คือ ผลกระทบด้านต้นทุนการก่อสร้าง และผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนทางการเงิน แต่ ทั้ง2 ปัจจัยดังกล่าว ยังไม่น่ากลัวมากนัก เมื่อเทียบกับการปรับตัวของราคาวัสดุก่อสร้าง ที่มีแนวโน้มปรับราคาสูงขึ้น
“ในระยะสั้น ผู้บริโภคที่ได้รับข่าวการปรับอัตราดอกเบี้ย อาจจะชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยออกไปบ้าง แต่ถ้าโครงการของผู้ประกอบการ ตั้งบนทำเลที่ดี มีรูปแบบการก่อสร้าง การออกแบบ ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ก็เชื่อว่าจะสามารถขายได้อย่างต่อเนื่อง”
ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัท แอล.พี.เอ็น.ฯ แม้ว่าตลาดโดยรวมจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ แต่เมื่อมาพิจารณายอดขายเฉลี่ยของบริษัทในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ยังมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 51 บริษัทฯมียอดขายเฉลี่ยต่อสัปดาห์อยู่ที่ 154 ยูนิต เทียบกับปี50 ที่ผ่านมา ยอดขายเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 150 ยูนิต
“ ยอดขายเฉลี่ยในช่วงครึ่งปีแรก สะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในตลาดยังมีอยู่ต่อเนื่อง ในภาวะที่มีปัจจัยลบเข้ามากระทบต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคก็ตาม ”
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS กล่าวว่า สิ่งสำคัญของผู้ประกอบการในขณะนี้ คือ ต้องรู้จักปรับตัวให้เข้าและทันกับสถานการณ์ เพราะมีปัจจัยเสี่ยงหลายด้านเข้ามากระทบ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ในส่วนของบริษัทพฤกษาฯได้ชะลอการพัฒนาโครงการคอนโดฯแล้วหันมาบุกโครงการแนวราบ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีโอกาสสร้างความเติบโต ลดความเสี่ยง และสามารถส่งมอบบ้านให้ลูกค้าได้เร็ว ขณะที่โครงการคอนโดฯอาจได้รับความเสี่ยงจากต้นทุนผันผวน
|
|
|
|
|