|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บริษัททัวร์กระอัก ธุรกิจรอวันตาย เร่งรัดเข็มขัดองค์กร เฉือนกำไรพยุงธุรกิจ เหตุ พิษเศรษฐกิจ การเมืองพ่นใส่คนไทยหมดอารมณ์เที่ยว ทีทีเอเอระบุตลาดคนไทยเที่ยวนอกวูบคาดสิ้นปีติดลบ 8% เหตุค่าเซอร์ชาร์จน้ำมัน ดันราคาแพกเกจทัวร์ขึ้น50% ด้านตลาดต่างประเทศ แนะ ททท.จีบสมาคมชาวจีนเข้ามาจัดประชุมในประเทศไทย
นายเอนก ศรีชีวะชาติ ประธานที่ปรึกษาสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว หรือ ทีทีเอเอ กล่าวว่า สถานการณ์คนไทยเดินทางท่องเที่ยวขณะนี้อยู่ในภาวะถดถอย ทั้งการเดินทางท่องเที่ยวไปต่างประเทศ และ การเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ทั้งนี้สาเหตุหลักมาจากวิกฤตพลังงาน โดยราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ บริษัทนำเที่ยวจำต้องปรับขึ้นราคาแพกเกจทัวร์อีกราว 20-30% โดยเฉพาะในกลุ่มที่เดินทางด้วยเครื่องบิน เพราะจากการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมภาษีน้ำมันส่งผลให้ราคาตั๋วเครื่องบินที่รวมภาษีมีราคาสูงขึ้นอีก 40-50%
ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่า ภาพรวมตลาดคนไทยเดินทางเที่ยวต่างประเทศถึงสิ้นปีนี้น่าจะติดลบ 5-8% จากปี 2550 ที่มีคนไทยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศราว 3.5 ล้านคน ทั้งที่ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ตลาดนี้จะเติบโตราว 5-10% ทุกปี
ทั้งนี้ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัททัวร์ ต้องปรับราคาขายแพกเกจทัวร์ แต่ก็ไม่เท่ากับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น โดยยอมแบกรับภาระต้นทุนไว้ส่วนหนึ่ง เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็จะยิ่งทำให้ลูกค้ายกเลิกการซื้อทัวร์ เนื่องจากการท่องเที่ยว คือการนำเงินเก็บออกมาให้กำไรชีวิต แต่ทุกวันนี้ ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้บางคนอาจไม่มีเงินเหลือพอที่จะเดินทางท่องเที่ยว จึงงดหรือชะลอการท่องเที่ยวออกไปก่อน
"ยอมรับว่า ธุรกิจทัวร์ ต้องปรับตัวเอง หาวิธีลดต้นทุนบริหารจัดการภายในองค์กร และ ยอมทำธุรกิจแบบกำไรลดลง เพื่อประคองธุรกิจให้อยู่รอดในสถานการณ์เช่นนี้ หลายบริษัททัวร์ขณะนี้เริ่มลดพนักงาน ลดค่าใช้จ่ายการลงโฆษณาโดยเฉพาะทัวร์ที่ขายหน้าร้าน เพราะไม่คุ้มกับค่าใช้จ่าย หากเป็นเช่นนี้ คาดว่า อีก 5 เดือน จะเห็นชัดว่า ธุรกิจทัวร์ จะเหลือรอดมากน้อยแค่ไหน"
แนะททท.จับตลาดสมาคมชาวจีน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดอินบาวนด์ หรือ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวประเทศไทย ได้เสนอแนวทางแก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เพื่อเสาะหานักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ เช่น กลุ่มเยาวชน เดินทางมาเรียนรู้ภาษาและประสบการณ์ช่วงปิดภาคเรียน และ ตลาดคนจีนในตระกูลแซ่ต่างๆ ซึ่งตลาดนี้อาจร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ สสปน. และ สมาคมตระกูลแซ่ต่างๆ ที่อยู่ในประเทศไทย เจาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่อาศัยอยู่ในประเทศต่างๆทั่วโลก ได้เข้ามาใช้ประเทศไทยในการประชุมสัมมนา ที่ประเทศไทย
"ชาวจีนที่มีแซ่เดียวกัน จะถือเป็นคนในตระกูลเดียวกัน โดยจะรวมกันตั้งเป็นสมาคมอยู่ในแต่ละประเทศ ทุกปีจะนัดมาพบปะสังสรรค์ และเจรจาธุรกิจกัน แต่ละครั้งเขารวมตัวกันที่เป็นหลักพันคนขึ้นไป หาก ประเทศไทย สามารถเชิญสมาคมเหล่านั้นเข้ามาจัดงานในประเทศไทย โดยให้อินเซนทีฟเป็นแรงจูงใจ ก็จะช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ ซึ่งกลุ่มนี้เป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง และ หากเขาเกิดความประทับใจ ก็จะกลับไปชักชวนเพื่อฝูงให้เข้ามาเที่ยวประเทศไทยได้อีก" นายเอนก กล่าว
ทัวร์เข้าตาจนกำไรหัวละ50บาท
ทางด้านนาวสาวมัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวยอมรับว่า ขณะนี้สถานการณ์ซื้อทัวร์ท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทยเกิดภาวะชะลอตัวถึงหยุดชะงัก ทำให้ กิจการของธุรกิจบริษัทนำเที่ยวซบเซาอย่างหนัก แต่ละบริษัทต้องประคองตัวเอง บ้างก็ต้องยอมขาดทุน หรือ คิดกำไรเพียง 50 บาท ต่อลูกค้า 1 คน เพื่อให้มีงานและมีเม็ดเงินหมุนเวียนเข้ามาในบริษัท ถึงสิ้นปีก็คงต้องวัดกันว่า สายป่านใครจะยาวกว่ากัน ทนแบกรับสภาวะได้มากแค่ไหน สาเหตุหลักมาจากความไม่มั่นในสถานการณ์ทางการเมือง ภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งถ้าทุกอย่างยังไม่นิ่ง คนไทยก็ยังไม่มีอารมณ์ท่องเที่ยว
|
|
|
|
|