"โฟร์พัฒนา" ยอมรับกำไรสุทธิปีนี้ต่ำสุดในรอบ 10 ปี เหตุราคาวัสดุก่อสร้างปรับขึ้น แค่ครึ่งปีเพิ่มไปแล้ว 11.2% เดินหน้าปรับแผนรับมือหวังรักษากำไรทั้งปีไว้ที่ 7% จัดแพ็คเก็จสร้างบ้านพร้อมตกแต่ง ช่วยลูกค้าประหยัด 10% ลดสัญญาก่อสร้างจาก 3 สัญญาเหลือ 1 ร่นเวลาก่อสร้างได้อีก 20%

นายปราโมทย์ ธีรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฟร์พัฒนา จำกัด เปิดเผยถึงสถานการณ์ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาว่า เป็นช่วงที่ยากลำบากสำหรับธุรกิจรับสร้างบ้านรวมไปถึงธุรกิจอื่นๆ แต่เมื่อผ่านมาได้แล้วอีก 6 เดือนที่เหลือจะต้องต่อสู้กันต่อไป และที่เป็นปัญหามากที่สุดคือ ต้นทุนก่อสร้างที่ปรับขึ้นสูงมาก เพียง 6 เดือนแรกของปีปรับขึ้นโดยเฉลี่ยแล้ว 11.2% ทำให้ผลกำไรของธุรกิจนี้ลดน้อยลงไปอย่างมาก โดยในส่วนของโฟร์พัฒนากำไรต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี โดยอยู่ที่ประมาณ 5% เท่านั้น จากที่ปกติจะอยู่ที่ประมาณ 10%

ทั้งนี้ ตลาดที่มีการชะลอตัวสูงสุดคือบ้านราคา 5-10 ล้านบาท ส่วนบ้านต่ำกว่า 4 ล้านบาทเป็นที่นิยมมาก รวมไปถึงบ้านที่มีราคาสูงกว่า 10 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสแรกตลาดมีการชะลอตัวสูงสุด และเริ่มดีขึ้นในไตรมาส 2 โดยเฉพาะเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทสามารถปิดการขายได้ถึง 10 ยูนิต จากปกติเพียงเดือนละ 3-4 ยูนิตเท่านั้น เนื่องจากลูกค้าเกรงว่าราคาค่าก่อสร้างจะปรับขึ้นสูงในช่วงครึ่งปีหลัง

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เตรียมแผนต่างๆไว้รองรับ เพื่อให้สามารถลดค่าใช้จ่ายและรักษาระดับกำไรสุทธิทั้งปีไว้ที่ 7% ให้ได้ โดยเริ่มจากการลดระยะเวลาในการเจรจาลูกค้า เร่งการก่อสร้างให้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมไปถึงการเจรจากับคู่ค้าวัสดุก่อสร้าง เพื่อให้ซื้อได้ราคาถูกว่าท้องตลาดทั่วไป

สำหรับการลดระยะเวลาในการเจรจากับลูกค้านั้น บริษัทได้จัดแพ็คเก็จ Full finished ออกแบบ-ตกแต่งภายในประกอบด้วยเฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน ดวงโคม จัดสวน จนถึงประตูรั้ว เจ้าของเพียงหิ้วกระเป๋าก็สามารถเข้าไปอยู่ได้ทันที และได้ส่วนลดทันที 10% โดยลูกค้าจะต้องลดสัญญาจาก 3 สัญญาเหลือเพียง 1 สัญญา เพื่อที่บริษัทจะสามารถสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์ได้ล่วงหน้า รวมถึงการลดระยะเวลาในการเจรจาลงไปได้ ซึ่งนอกจากลูกค้าจะได้ส่วนลดแล้ว บริษัทยังสามารถสร้างบ้านได้เร็วขึ้นประมาณ 20% หรือจาก 19-20 เดือนเหลือ 14 เดือน

นอกจากนี้ บริษัทยังได้เจรจากับคู้ค้าวัสดุก่อสร้างในการขายสินค้าในราคาพิเศษ ทั้งวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ รวมไปถึงการสั่งซื้อวัสดุล่วงหน้าป้องกันการขึ้นราคา โดยล่าสุด สุขภัณฑ์อเมริกันสแตนดาร์ดได้ล็อคราคาสินค้าให้แก่บริษัทนานถึง 2 ปีโดยจะไม่มีการปรับขึ้นแต่อย่างใด

ส่วนผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก รายได้ทั้งกลุ่ม 237 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปี 505 ล้านบาท ส่วนโครงการบ้านบุษบาซึ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรรที่ร่วมทุนกับพันธมิตรอีกจำนวน 45 ล้านบาท

"ไม่ห่วงยอดขายเท่าไหร่ เพราะยอดขายตอนนี้มีอยู่ในมือแล้วกว่า 300 ล้านบาทจะทำอย่างไรที่จะส่งมอบได้ทันสิ้นปี เพื่อปิดงบได้เท่านั้น ส่วนยอดขายในครึ่งปีหลังนี้ จะสามารถไปรับรู้ได้ประมาณปี52เป็นส่วนใหญ่ แต่ที่ห่วงตอนนี้คือห่วงกำไรมากกว่า จะทำอย่างไรให้สามารถรักษาผลกำไรไว้ได้"

นายปราโมทย์ กล่าวต่อว่าการตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะจัดงาน Fourpattana Golden Week คือ 2 สัปดาห์ 2 ทำเล คือ ระหว่างวันที่ 10-16 ก.ค. จัดที่เซ็นทรัล ปิ่ลเกล้า บริเวณชั้น G ส่วนวันที่ 22-28 ก.ค. จัดที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว ชั้น G เช่นกัน โดยตั้งเป้ายอดขายในงานและผลที่จะได้รับลูกค้าตามมา 100 ล้านบาท