|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
นักลงทุนลดพอร์ตลงทุน ฉุดดัชนีตลาดหุ้นร่วงกว่า 12 จุด ต่ำสุดในรอบกว่า 5 เดือน เหตุสถานการณ์ทางการเมืองที่เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลใกล้เข้ามาทุกขณะ โดยเฉพาะคดีใบแดง "ยงยุทธ" วันนี้ ด้านโบรกเกอร์ประเมิน หุ้นไทยดิ่งไม่ใช่ปัจจัยการเมืองเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจหดตัว บวกกับอัตราเงินเฟ้อยังพุ่งสูง แนะลดพอร์ตลงทุน ถือเงินสดแทน
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (7 ก.ค.) ดัชนีปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดการซื้อขายช่วงเช้า สวนทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยลบใหม่ เข้ามาผสมโรงกับปัญหาเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่ยังไม่มีวีแววจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ คือ เรื่องที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งนัดฟังคำสั่งคดีใบแดงของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.สัดส่วน และรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ในวันนี้ (8 ก.ค.) ซึ่งอาจจะนำไปสู่การพิจารณายุบพรรคพลังประชาชนในอนาคต
โดยดัชนีตลาดหุ้นได้เคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน ลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 730.32 จุด สูงสุดที่ 744.98 จุด และปิดการซื้อขายที่ 730.56 จุด ลดลงจากวันก่อนหน้า 12.47 จุด คิดเป็น 1.68% มูลค่าการซื้อขายรวม 9,610.49 ล้านบาท มีนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,378.59 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 370.31 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 1,008.28 ล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า นักลงทุนให้น้ำหนักปัจจัยด้านการเมืองที่จะมีการพิจารณาคดีใบแดงนายยงยุทธ ติยะรัช อดีตประธานสภาผู้แทนวันนี้ (8 ก.ค.) ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์และความชัดเจนก่อน รวมทั้งมีการคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจ โดยเฉพาะดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนมิ.ย. ที่จะประกาศออกมาจะปรับตัวลดลงจากเดือนที่ผ่านมา รวมถึงผลประกอบการไตรมาส 2/51 ของบริษัทจดทะเบียนด้วย
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศนั้น นักลงทุนต่างรอดูผลประกอบการของสถาบันการเงินว่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ซึ่งเป็นปัจจัยที่กดดันต่อตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นเอเชีย แม้ว่าวานนี้ตลาดหุ้นบางแห่งจะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้บ้าง
นอกจากนี้ เป็นไปได้ที่หุ้นหลายตัวจะถูกบังคับขาย หลังจากดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงจากระดับ 887 จุด มาอยู่ที่ 733 จุด ลดลงมาแล้วกว่า 150 จุด คิดเป็น 15-16% ทำให้เกิดมีการบังคับขาย (ฟอร์ซเซลล์) ซึ่งเป็นแรงกดดันหนึ่งทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง
"ดัชนีตลาดหุ้นปิดต่ำสุดในรอบกว่า 5 เดือน และมีมูลค่าการซื้อขายเบาบาง มีแรงขายกระจายไปในหุ้นเกือบทุกกลุ่ม นำโดยกลุ่มพลังงาน อสังหาริมทรัพย์ และธนาคารพาณิชย์ ตามด้วยกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร"
นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า นักลงทุนกังวลปัจจัยด้านการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะช่วงนี้จะมีการพิจารณาคดีทางการเมืองหลายคดี โดยเฉพาะคดีใบแดงของนายยงยุทธ ติยะไพรัช รวมถึงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดการชุมนุม
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ ยังคงต้องติดตามการพิจารณาคดีใบแดงของนายยงยุทธ ประกอบกับทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ โดยมีแนวรับที่ 730 และ 728 ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 745 และ 748 จุด
นางจิตติมา อังสุวรังษี ผู้ช่วยกรรมการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลงกว่าสิบจุดไม่ได้มีสาเหตุมาจากการเมืองเพียงอย่างเดียว เนื่องจากสถานการณ์ในประเทศตอนนี้ยังมีปัจจัยลบอยู่มาก เช่น ปัญหาเงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน อีก
ทั้งขณะนี้ไม่มีปัจจัยบวกที่จะส่งผลดีกับตลาดหุ้น จึงทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงภาวะซบเซา
"การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ใช้แผนดาวกระจายบุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้เป็นปัจจัยหลักในการกดดันดัชนีตลาดหุ้นปิดลดลงกว่า 12 จุด"
ด้านนางสาวปองรัตน์ รัตนะตวณานนท์ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. บัวหลวง กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่องเป็นผลจากนักลงทุนลดพอร์ตการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง รอลุ้นศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตัดสินคดีใบแดงของนายยงยุทธ ซึ่งคาดการณ์ว่า ผลที่ออกมาไม่น่าจะเป็นไปในทางบวก และหากมีความผิดจริงต้องส่งฟ้องต่อและอาจนำไปสู่การยุบพรรคพลังประชาชนตามมา
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ ดัชนียังอยู่ในขาลงต่อไปอีก แต่หากฟื้นตัวทางเทคนิคคงปรับขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนยังหาจังหวะลดพอร์ตการลงทุน เพราะตลาดยังมีปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาการเมืองในประเทศหลายอย่าง โดยเฉพาะช่วงสิ้นเดือน ก.ค.นี้ จะมีการพิจารณาคดีหวยบนดินของ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อีกทั้งตลาดหุ้นไทยเจอปัจจัยลบจากภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ จึงปรับลดลงแรงกว่าตลาดหุ้นในต่างประเทศ โดยมองว่า ดัชนีมีแนวโน้มอ่อนตัวลงไปถึง 700 จุด ด้านกลยุทธ์การลงทุน ให้ทยอยลดพอร์ตลงทุน และถือเงินสดแทน
|
|
 |
|
|