Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน7 กรกฎาคม 2551
ธุรกิจขายหนังแผ่นปรับทิศหนีตายโรสฯเบรกเข้าตลาดหุ้น-ทีวีดาวเทียม             
 


   
search resources

Entertainment and Leisure
โรส มีเดีย แอนด์ เอนเตอร์เทนเม้นท์, บจก.




ธุรกิจขายหนังแผ่นระเห็จ จับช่องทางสร้างรายได้ใหม่ "โรส มีเดีย" พุ่งเป้าเกาะการ์ตูนเอาใจเด็ก เป็นเรือธงสร้างรายได้ พร้อมวางหมากกันคู่แข่ง ลุยซื้อลิขสิทธิ์เพิ่มอีก 50 เรื่องปีนี้ พร้อมเดินหน้าผุดร้านแก็งค์การ์ตูนชอป 6 สาขา ขายวีซีดีการ์ตูน และแอสเซทเซอรี่ต่อยอดรายได้ หวั่นการเมืองไม่มั่นคง ชะลอแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ ชะงักแผนทำทีวีดาวเทียม ขอดูกฏหมายให้ละเอียดก่อน

นายจิรัฐ บวรวัฒนะ รองประธานกรรมการ สายการตลาด บริษัท โรส มีเดีย จำกัด เปิดเผยว่า จากหลายๆปัจจัยที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ การเมือง น้ำมัน ล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจจำหน่ายแผ่นภาพยนตร์วีซีดี และดีซีดี เพราะนอกจากที่กล่าวมาแล้ว ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจนี้ คือ ค่าลิขสิทธิ์ที่ค่อนข้างสูง แต่การละเมิดลิขสิทธิ์ก็มีสูงเช่นกัน ซึ่งเมื่อหักล้างกันแล้ว แทบจะไม่มีกำไร หลายรายในธุรกิจนี้ จึงได้ผันตัวเอง ปรับโพซิชั่นการทำงานกันใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแมงป่อง ที่ผันตัวเองสู่เรื่องของสารคดี หรือแม้แต่ ซีวีดีที่หันมาทำรายการโทรทัศน์

ขณะเดียวกันสำหรับโรสมีเดียเอง จากเดิมในปีก่อนที่ยังมีการสร้างรายได้จากหลายๆส่วน เช่น การจำหน่ายแผ่นวีซีดีภาพยนตร์ คาราโอเกะ และอื่นๆ แต่เนื่องจากได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ดังนั้นตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ทางบริษัทฯจึงได้วางแนวทางในการดำเนินธุรกิจใหม่ โดยมุ่งจับกลุ่มการ์ตูนเป็นหลัก ซึ่งลิขสิทธิ์การ์ตูนที่ได้มา บริษัทฯสามารถต่อยอดธุรกิจได้ทุกช่องทาง จึงมองว่าเป็นการทำธุรกิจที่มาถูกทางแล้ว

ล่าสุดในปีนี้ ทางบริษัทฯ เตรียมรีโนเวต ร้านโรสชอป จำนวน 6 สาขา ให้เป็นร้านแก็งค์การ์ตูนชอป ซึ่งใช้งบประมาณต่อสาขาที่ 4 ล้านบาท ขณะนี้เปิดให้บริการแล้ว 1 สาขา ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อต้นเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา พบว่าได้รับการตอบรับดีมาก เนื่องจากรูปแบบร้านตรงกับกลุ่มเป้าหมาย มีความแปลกใหม่ เพราะเป็นร้านจำหน่ายวีซีดีและดีวีดี เกี่ยวกับการ์ตูนโดยเฉพาะ ทั้งลิขสิทธิ์ของบริษัทฯเองและเรื่องอื่นๆที่นำมาจำหน่ายเพิ่ม รวมทั้งภายในร้านยังมีการจำหน่ายกิ๊ฟชอป จากคาร์เรคเตอร์ตัวการ์ตูนต่างๆ รวมถึงมีมุมไอศกรีมไว้คอยบริการด้วย ส่วนอีก 5สาขานั้น จะทยอยเปิดให้ครบภายในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นที่ภูเก็ต, ขอนแก่น และในกรุงเทพฯ ซึ่งทั้งหมดเป็นสาขาที่เปิดในศูนย์การค้า

ทั้งนี้ในส่วนของร้านโรสชอปที่มีเกือบ 100 สาขา (รวมแก็งค์การ์ตูนชอป) ขณะนี้มีกว่า 40 สาขา ที่ได้มีการนำเอาวีซีดีการ์ตูน และแอทเซทเซอรี่เกี่ยวกับการ์ตูน ไปวางจำหน่าย คิดเป็นสัดส่วน 20% ของสินค้าที่วางจำหน่ายภายในร้าน โดยทางร้านจะคัดสินค้าที่ขายไม่ค่อยได้ออกไปแทน คาดว่าสิ้นปีนี้น่าจะสามารถนำเอาสินค้ากลุ่มการ์ตูนเข้าไปจำหน่ายในโรสชอปได้ครบทุกสาขา

อีกทั้งในปีนี้บริษัทฯยังได้ซื้อลิขสิทธิ์การ์ตูนเพิ่มอีก 50 เรื่อง จากเดิมในปีก่อนที่ซื้อมา 40 เรื่อง ซึ่งสาเหตุที่มุ่งซื้อลิขสิทธิ์การ์ตูนนั้น มองว่าเป็นการสกัดคู่แข่งได้ทางหนึ่ง และที่สำคัญบริษัทฯสามารถนำเอาการ์ตูนเรื่องนั้นๆมาต่อยอดสร้างรายได้เพิ่มได้อีก ไม่ว่าจะเป็นการทำเป็นกิ๊ปชอปต่างๆ ซึ่งคาเรคเตอร์ตัวการ์ตูน ที่สร้างรายได้เพิ่มได้เป็นอย่างดี ได้แก่ เคโรโระ และนารุโตะ อย่างไรก็ตาม จากการที่หันมารุกกลุ่มการ์ตูน เชื่อมั่นว่าสิ้นปีนี้ รายได้จะยังคงเป็นไปตามเป้าที่วางไว้

นายจิรัฐ กล่าวต่อว่า ในส่วนของแผนที่บริษัทฯเตรียมจะเข้าตลาดหลักทรัพย์กลางปีนี้ ขณะนี้ต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้น คาดว่าปลายปีน่าจะดำเนินการแผนดังกล่าวได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับภาวะทางการเมืองที่มองว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นด้วย

ส่วนแผนที่จะทำทีวีดาวเทียม เป็นช่องการ์ตูนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาข้อกฎหมายให้ดีเสียก่อน โดยมีแนวโน้มจะเป็นแบบฟรีทีวี ซึ่งทางบริษัทฯจะมีรายได้จากโฆษณา ทั้งนี้คาดว่าจะใช้เม็ดเงินลงทุนไม่สูงนัก เพราะบริษัทฯมีคอนเท้นต์การ์ตูนอยู่ในมือมากพออยู่แล้ว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us