|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
กลุ่มอักษรานุวัตร สวนกระแสเศรษฐกิจ เปิดคอนโดฯ วิช แอท สามย่าน ราคาเฉลี่ย1แสนบาทต่อตร.ม. มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท คาดปิดการขายภายใน 3 เดือน ระบุนักลงทุนจากสิงคโปร์และไต้หวันเหมา 50 ยูนิต รอผลตอบแทน!! ระบุที่ดินในโครงการยังเหลืออีกเกือบ 1 ไร่ เตรียมผุดช็อปปิงมอลล์ต่อ คาดใช้เงินลงทุนเพิ่ม 200-300 ล้านบาท ส่วนที่ดินย่านเพชรบุรีรอความชัดเจนของกฎหมายก่อนลงมือสร้าง เหตุติดวังสระปทุม
นายธารธร อักษรานุวัตร ผู้จัดการทั่วไป บริษัทสยามนุวัตร จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัทประสบความสำเร็จจากการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแห่งแรกคือ วิช แอท สยาม สามารถปิดการขายภายใน 3 เดือน จากเดิมพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวย่านบางบัวทอง, พุทธมณฑลและกาญจนาภิเษก ล่าสุดบริษัทได้ซื้อที่ดินบริเวณสามย่าน เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม “ วิช แอท สามย่าน” บนเนื้อที่เกือบ 3 ไร่ ในราคา 3.5 แสนบาทต่อตารางวา
โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 ส่วน ในส่วนแรกเป็นโครงการคอนโดมิเนียมสูง 24 ชั้น จำนวน 485 ยูนิต บนเนื้อที่ 2 ไร่ ราคาเริ่มต้น 87,000 บาทต่อตร.ม. หรือราคาเฉลี่ย 1 แสนบาทต่อตร.ม. มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท โดยเริ่มเปิดขายมาตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 20% ในจำนวนดังกล่าวเป็นการขายยกล็อต 50 ยูนิต ผู้ซื้อเป็นชาวสิงคโปร์และไต้หวัน (อนึ่ง ตามกฎหมายอาคารชุด ระบุไว้ว่า ชาวต่างชาติมีสิทธิที่จะซื้อและถือครองห้องชุดได้ในสัดส่วน 49% ของพื้นที่ขาย) ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายใน 3 เดือน เนื่องจากในย่านนั้นไม่มีโครงการคอนโดมิเนี่ยมเปิดใหม่ อีกทั้งตั้งอยู่ในทำเลที่ดี ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเพียง 150 เมตรเท่านั้น
ในส่วนของพื้นที่ที่เหลืออีกเกือบ 1 ไร่ บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาเป็นช็อปปิงมอลล์ขนาดเล็ก คาดว่าจะใช้เม็ดเงินลงทุนอีกประมาณ 200-300 ล้านบาท ซึ่งคอนโดฯจะเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2552 สำหรับเม็ดเงินลงทุน ส่วนหนึ่งเป็นเงินทุนของบริษัท และอีกส่วนจะเป็นการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ซึ่งจะรวมไปถึงการสนับสนุนสินเชื่อให้แก่ลูกค้าด้วย ขณะนี้เจรจาอยู่ 2 ราย คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ฯและธนาคารกสิกรไทยฯ
สำหรับที่ดินบนถนนเพชรบุรี ซึ่งเดิมมีแผนจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม แต่ติดปัญหาที่ดินติดกับเขตพระราชฐาน เนื่องจากอยู่ใกล้วังสระปทุม ดังนั้น ต้องรอความชัดเจนของกฎหมายก่อนว่า จะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากกฎหมายอนุญาตให้ก่อสร้างได้ จะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมสูง 30 ชั้น ราคาขายเริ่มต้นประมาณ 90,000 บาทต่อตร.ม. ทั้งนี้ ที่ดินแปลงดังกล่าวยังไม่ได้ซื้อเข้ามาในบริษัท แต่ได้วางมัดจำแล้ว 10% เท่านั้น
“ เดิมมีแผนที่จะพัฒนาคอนโดฯปีละ 3 โครงการ แต่เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว อีกทั้งการพัฒนาในปัจจุบันสินค้าจะต้องตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมากจริงๆ จึงจะสามารถขายได้ ทำให้บริษัทไม่เร่งเปิดตัวโครงการ แต่จะต้องหาที่ดินที่มีศักยภาพจริงๆ โดยจะต้องตั้งอยู่ใกล้แหล่งงาน ติดรถไฟฟ้า และตอนนี้มีเจรจาซื้ออยู่ 1 แปลงในย่านพญาไทยเป็นที่ดินส่วนบุคคลคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ สำหรับยอดขายในปีนี้ตั้งไว้ที่ประมาณ 650 ล้านบาท”
|
|
|
|
|