Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน4 กรกฎาคม 2551
บลจ.ชี้ศก.ทรงตัวมั่นใจกนง.ขึ้นดบ             
 


   
search resources

Economics
วิชชุ จันทาทับ




ผู้บริหารบลจ.ประเมินเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังยังทรงตัว แม้ปัญหาราคาน้ำมัน เงินเฟ้อ และการเมือง โหมรุมเร้าตั้งแต่ช่วงต้นปี เหตุตัวเลขการส่งออกด้านอาหารช่วยรองรับ พร้อมมั่นใจกนง.มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแน่ ส่วนตลาดหุ้นรอวันฟ้าเปิด หรือภาพรวมตลาดในภูมิภาคปรับตัวดีขึ้น คาดทั้งปีดัชนีอยู่ที่ 900 - 950 จุด

นาย วิชชุ จันทาทับ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการลงทุนตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด ได้กล่าวถึง แน้วโน้มเศรษฐกิจของประเทศไทยในช่วงครึ่งปีหลังว่า ส่วนตัวมีความเป็นห่วงในเรื่องของราคานํ้ามันกับภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยหลักที่เศรษฐกิจของไทยกำลังประสบอยู่ขณะนี้ เพราะราคานํ้ามันที่สูง รวมทั้งปัญหาเงินเฟ้อนั้น ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่จะลดกำลังการใช้จ่ายของประชาชน รวมทั้งการลงทุนของนักลงทุนด้วย

ขณะเดียวกัน ในส่วนของตลาดหุ้นไทยก็ได้รับผลกระทบไปในทิศทางเดียวกับเศรษฐกิจของประเทศที่ชะตัวลง แต่เศรษฐกิจของไทยยังได้รับผลดีจากการส่งออกสินค้าประเภทอาหาร ทำให้เศรษฐกิจของไทยไม่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงเหมือนกับประเทศอื่นๆ ดังนั้นเศรษฐกิจของไทยในช่วงครึ่งปีหลังยังคงในระดับทรงตัว

ส่วนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อนั้น ส่วยตัวมองว่าเป็นแก้ปัญหาที่ได้ผลในช่วงสั้นเท่านั้น แต่ถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจริง การขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลกระทบไปถึงบรรดาธนาคารต่างๆในเรื่องของการปล่อยเงินกู้ เพราะเป็นการทำให้ลูกหนี้ต้องแบกรับภาระเงินกู้ที่มีดอกเบี้ยสูง

นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด (เอวายเอฟ) มองว่า ตลาดหุ้นได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบต่าง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ เงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน หรือแม้กระทั้งการเมือง ที่สำคัญความผันผวนของตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบจากตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียด้วยเช่นกัน จึงเปรียบเหมือนในช่วงฝนตกท้องฟ้าปิด แต่เมื่อผ่านไปอีกสักระยะหนึ่งเมื่อฝนผ่านพ้นไป ท้องฟ้าเปิด จะกลับมาสดใสอีกครั้ง เหมือนกับตลาดหุ้นที่ขณะนี้หุ้นได้ปรับตัวลดลง แต่อีกสักพักก็จะดีขึ้นมาเพราะหุ้นนั้นมีขึ้นมีลง อย่างช่วงที่ผ่านมาหุ้นหายไป 100 จุดภายใน 3 สัปดาห์ โดยปีนี้คิดว่าตลาดหุ้นภายในประเทศอาจจะถึง 900-950 จุด

"การเติบโตของเศรษฐกิจน่าจะอยู่ที่ 3-4% จากการประเมินของหลายฝ่ายมองว่าไตรมาส 2 จะโตต่ำกว่า 6 % โดยที่ไตรมาส 1 โตอยู่ที่ 6% เเต่เมื่อจบไตรมาส 2 เศรษฐกิจมีการเติบโตอยู่ที่ 6 % เพราะการที่สินค้าโภคภัณฑ์มีราคาสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาคชนบทมีการใช้จ่ายมากขึ้น แต่ภาครัฐบาลเองต้องหามาตรการหรือวิธีการส่งเสริมให้เกิดการกระตุ้นการใช้จ่ายมากขึ้น"

สำหรับ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ที่ประชุมกันทุกๆ 2 เดือน ประเมินว่าจะทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยเฉลี่ยรวมครึ่งปีหลังอยู่ที่ 0.5-1% ขณะที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นเรื่อยนี้จะไม่เป็นปัญหาที่สำคัญอย่างที่ใครหลายคนมอง เนื่องจากตอนนี้ประชาชนเริ่มหันมาใช้พลังงานอื่นทดเเทน รวมทั้งลดการใช้พลังงานมากขึ้น

ด้านรศ.ดร. วรากรณ์ สามโกเศศ กล่าวถึงเเนวโน้มเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังว่า ประเทศไทยยังคงต้องเจอกับปัญหาทั้งเรื่องอัตราเงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน เเละปัญหาเรื่องการเมืองที่ยังรุมเร้าให้เศรษฐกิจไทยยังชะลอตัว โดยประเทศไทยถือเอาเรื่องเง้นเฟ้อเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งตามจริงแล้ว เงินเฟ้อเป็นการทำร้ายคนทุกระดับไม่ว่าจะรวยหรือจน เเต่คนที่โดนทำร้ายมากกว่าคือคนจน เพราะเงินเฟ้อครั้งนี้จะเป็นเงินเฟ้ออันเกิดจากต้นทุนราคาน้ำมัน เเละราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งหลาย ซึ่งการจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ กนง. ถือเป็นการเเก้ปัญหาที่ค่อนข้างล่าช้า เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยไปบ้างเเล้ว

สำหรับมาตรการทางภาษีของรัฐบาลนี้ถือว่ามาถูกทางตามหลักเศรษฐศาตร์ โดยวิธีการนี้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจทีดีที่สุดในขณะนี้ ซึ่งเริ่มจะส่งผลให้เกิดการลงทุน การใช้จ่าย เเต่ยังมีต้องจับตาดูเรื่องของการเเจกคูปองคนจน หรือการปล่อยกู้เงิน SME เนื่องจากในหลักการณ์ถือว่าเป็นการช่วยเหลือคนจนได้ดีทีเดียว เเต่สิ่งที่ต้องตามดูก็คือ หลักการณ์ดูดี เเต่วิธีการปฏิบัติยังเป็นปัญหาอยู่นั่นเอง อย่างไรก็ตามคงต้องเฝ้าติดตามดูการเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะราคาน้ำมัน เเละการเมืองของไทย ว่าจะมีทางออกเป็นเช่นไร

สอดคล้องกับ นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ระบุว่า สัญญาณเศรษฐกิจของไทยในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่ชัดเจนทางการเมืองรวมถึงในเรื่องของราคานํ้ามัน และส่งผลไปถึงการบริโภคภายในประเทศที่ลดลง

ขณะเดียวกันธนาคารกลางแห่งประเทศไทยอาจมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ รวมไปถึงในส่วนของธนาครกลางในประเทศสหรัฐฯและยุโรปด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ความตรึงเครียดระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกากับประเทศสอิหร่าน เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าราคานํ้ามันอาจสูงขึ้นอีก

ส่วนทิศทางของตลาดหุ้นในประเทศไทยนั้น นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่ตลาดหุ้นได้รับจากเรื่องของราคานํ้ามันที่สูงขึ้น ซึ่งทิศทางของตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลังนี้คงอยู่ในภาวะทรงตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเดือนมิถุนายน หรือครึ่งปีเเรกของปี 2551 ไปเเล้วสถานการณ์เศรษฐกิจโลกไม่ค่อยจะสู้ดีหนัก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา หรือจีนเอง แล้วได้รับผลกระทบจากปัญหาต่างๆ โดยหลายฝ่ายมองว่าการที่ทั่วโลกต้องประสบปัญหานี้มาจาก จากราคาน้ำมันที่ทำสถิติสูงที่สุดนั่นเอง ที่สำคัญยังไม่นับรวมอัตราเงินเฟ้อที่หลายประเทศกำลังเผชิญอยู่ โดยประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น เช่น เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย ล้วนขึ้นอัตราดอกเบี้ยรับมือกับปัญหาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม คงต้องตามดูว่าการประชุมกนง.ครั้งนี้ จะมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ เนื่องจากหลายฝ่ายมองว่า รัฐบาลอยากให้กนง.ชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปก่อน เพราะรัฐบาลกลัวว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะทำให้ตัวเลขการเติบโตเศรษฐกิจไม่โตตามที่รัฐบาลวางเเผนไว้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us