|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บอร์ดแบงก์ทหารไทยมีมติเป็นเอกฉันท์ตั้ง "บุญทักษ์ หวังเจริญ" นั่งเก้าอี้ CEO 14 ก.ค. นี้ โดยมีวาระ 4 ปีครึ่ง พร้อมวัดผลการดำเนินงาน มี.ค. 52 เปิดช่อง CEO ใหม่จัดทีมใหม่ได้ตามเหมาะสม ส่วนภาระกิจเร่งด่วนคือการวางแผนงานเพื่อขึ้นแท่นเป็นธนาคารชั้นนำ ขณะที่ "สุภัค ศิวะรักษ์" ไขก๊อกก่อนกำหนด 14 ก.ค.นี้เช่นกัน
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เปิดเผยว่า ที่คณะกรรมการธนาคาร ครั้งพิเศษ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2551 ได้มีมติรับทราบการลาออกจากการเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารและการเป็นกรรมการธนาคารของนายสุภัค ศิวะรักษ์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 2551 พร้อมทั้งอนุมัติแต่งตั้งนายบุญทักษ์ หวังเจริญ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO)โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 2551
สำหรับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการนั้น คงจะต้องมีการหารือกันอีกครั้งว่าจะยังคงให้มีตำแหน่งนี้หรือไม่ เนื่องจากโดยหลักสากลของอเมริกานั้นจะใช้แค่ตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารเท่านั้นหรือเลือกตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งมาใช้ อีกทั้งข้อกำหนดของธนาคารก็มีกรรมการได้ 12 คน ซึ่งปัจจุบันก็มีกรรมการจากคลังแล้ว 5 คน และจากกลุ่มไอเอ็นจีอีก 5 คน จากผู้บัญชาการทหารบกอีก 1 คน และ CEO อีก 1 คน รวมเป็น 12 คน จึงไม่สามารถตั้งกรรมการผู้จัดการได้อีกแล้ว
"ขอปฏิเสธข่าวความเห็นที่ไม่ตรงกันของการเลือกนายบุญทักษ์มาดำรงตำแหน่งดังกล่าวระหว่างกระทรวงการคลังและไอเอ็นจี เพราะการแต่งตั้งนี้เป็นเรื่องที่ตกลงด้วยความเห็นพ้องต้องกัน และคณะกรรมการของแบงก์เห็นชอบเป็นเอกฉันท์ที่ให้แต่งตั้งนายบุญทักษ์มาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการหารือกับตัวแทนของไอเอ็นจี กระทรวงการคลังและตัวแทนและฝ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทุกฝ่ายก็มีความเห็นทางเดียวกันตลอด โดยการเลือกคุณบุญทักษ์นี้ไม่ได้เป็นความเห็นของผู้ถือหุ้นฝ่ายได้ฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นความคิดเห็นที่ทำร่วมกัน ส่วนของคุณสุภัคก็ถือว่าได้ทำงานอย่าเข้มแข็งมาโดยตลอด ทั้งการดำเนินการจนได้ไอเอ็นจีมาเป็นผู้ถือหุ้นและร่วมวางนโยบายและผลักดันแบงก์จนสำเร็จ "
ทั้งนี้ วาระในการทำงานของนายบุญทักษ์ คือ 4 ปีครึ่ง และจะมีการวัดผลการทำงานในเดือนมีนาคม 2552 โดยธนาคารได้มีดัชนีชี้วัดที่กำหนดไว้ในการวัดผลการทำงาน (KPI) ของนายบุญทักษ์ 4 ด้าน คือ 1. ด้านผลกำไร 2. งบการเงิน 3. ทุน และ 4.ราคาหุ้น ซึ่งหากไม่สามารถงานทำได้ตามดัชนีชี้วัดก็จะไม่มีการจ่ายโบนัส ส่วนเกณฑ์การวัดความสำเร็จของงานนั้นนายชวนชัย อัชนันท์ ประธานคณะกรรมการสรรหาจะเป็นผู้กำหนดเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนค่าตอบแทนของนายบุญทักษ์เป็นไปตามที่คณะกรรมการสรรหากำหนด ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้
ในส่วนของทีมงานทางคณะกรรมการก็ให้อำนาจในการแต่งตั้งเป็นของ CEO เป็นผู้คัดสรรและนำเสนอคณะกรรมการให้รับอนุมัติต่อไป และธนาคารคาดหวังว่าการแต่งตั้งนายบุญทักษ์จะนำธนาคารไปสู่ความเป็นสากล เพราะนายบุญทักษ์เป็นผู้ที่มีประสบการณ์เคยกำกับดูแลสายงานบรรษัทธุรกิจ สายงานธุรกิจลูกค้า และผู้ประกอบการ รวมถึงสายงานธุรกิจตลาดทุน โดยภาระกิจเร่งด่วนต่อไปนี้ก็คือการทำแผนธุรกิจใหม่ร่วมกัน พร้อมสร้างทีมงานที่ครบถ้วน เพื่อให้ธนาคารเป็นธนาคารชั้นนำ และขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว
ส่วนการลาออกของนายสุภัค ซึ่งจะมีผลในวันที่ 14 ก.ค.เป็นต้นไปถือว่าเป็นการออกก่อนครบกำหนด ซึ่งธนาคารก็จะมีการชดเชยตามสัญญาที่ได้กำหนดไว้ตั้งแต่เริ่มทำงาน ซึ่งธนาคารไม่สามารถจะเปิดเผยได้ แต่อย่างไรก็ตามทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายแรงงาน
ด้านนายชวนชัย อัชนันท์ ในฐานะกรรมการสรรหา ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า คณะกรรมการสรรหาคัดเลือกนายบุญทักษ์โดยดูจากวิสัยทัศน์ที่นายบุญทักษ์ยอมรับคำท้าทายในการบริหารธนาคาร อีกทั้งคณะกรรมการต้องการบุคคลมาทำงานโดยเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในแวดวงธนาคาร และเป็นผู้ที่มีวัยวุฒิเหมาะสม และคิดว่าธนาคารก็ไม่ได้อยู่ในสภาพแย่จนไม่สามารถทำอะไรได้ ซึ่งทางธนาคารก็จะมีการกำหนดนโยบายในการทำงานร่วมกับนายบุญทักษ์ต่อไป
"เราต้องการคนที่คร่ำหวอดในวงการแบงก์ และไม่แก่มาก เดี๋ยวจะทำงานไม่ไหว และที่ตัดสินใจเลือกคุณบุญทักษ์เพราะว่าเขายอมรับคำท้าทาย ซึ่งความท้าทายของแบงก์เราก็คือผลการดำเนินงาน 12 เดือนที่ผ่านมาไม่ดีเลย ไม่ตั้ง CEO มานานตั้ง 6 เดือน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก และเราต้องการหาคนที่เหมาะสมและเขารับคำท้าที่จะทำงานให้".
|
|
|
|
|