ข้อมูลผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยงวดไตรมาสแรก สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2551 ที่ผ่านมาได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ เรียบร้อยแล้ว

โดยภาพรวม บริษัท 440 กว่าบริษัทมีรายได้ไตรมาสแรกของปีนี้รวม 1,924,162.03 ล้านบาท มีกำไรสุทธิรวม 166,800.77 ล้านบาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานตลอดปี 2550 ซึ่งบริษัททั้งหมดมีรายได้รวม 5,937,293.55 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 409,555.52 ล้านบาท รายได้ไตรมาสแรกปีนี้คิดเป็น 32.41% ของรายได้รวมตลอดทั้งปี 2550 และกำไรสุทธิไตรมาสแรก คิดเป็น 40.73% ของกำไรสุทธิรวมปี 2550

เป็นการเปรียบเทียบในเชิงสัดส่วน หากเปรียบเทียบแบบงวดต่องวด กำไรสุทธิไตรมาสแรก ของปีนี้เพิ่มขึ้น 14.55% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิไตรมาสแรกของปี 2550 ซึ่งบริษัททั้งหมดมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 145,608.82 ล้านบาท

เมื่อแยกเฉพาะบริษัทที่มีรอบบัญชีเริ่มต้นตั้งแต่ 1 มกราคมสิ้นสุดเดือนธันวาคม โดยตัดบริษัทที่อยู่ในกลุ่มที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการออกไป ในจำนวน 418 บริษัทที่นำมาเปรียบเทียบ พบว่า บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการ กลั่น เป็นบริษัทที่มีสัดส่วนรายได้ไตรมาสแรก เมื่อเทียบกับรายได้รวมปี 2550 มากที่สุด คิดเป็น 2,014.89% โดยในงบการเงินปี 2550 ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น มีรายได้รวม 3,521.30 ล้านบาท และรายได้ไตรมาสแรกปีนี้ ได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 70,950.20 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในกรณีของ ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่นนั้น เนื่องจากเพิ่งเป็นบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวมกิจการกันระหว่างบริษัทอะโรเมติกส์ (ประเทศไทย) กับบริษัท โรงกลั่นน้ำมันระยอง ดังนั้นตัวเลขรายได้ที่ปรากฏในงบการเงิน ปี 2550 จึงเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาประมาณ 1 ไตรมาสเท่านั้น เมื่อเทียบกับตัวเลขผลประกอบการจริงที่เริ่มมีผลในปีนี้ จึงดูแตกต่างกันมาก กรณีคล้ายคลึงกันคือกรณีของบริษัทการบินไทย ซึ่งหาก เทียบตัวเลขรายได้ไตรมาสแรกปีนี้กับรายได้รวมในงบการเงิน ปี 2550 จะพบว่าไตรมาสแรกปีนี้ การบินไทยมีสัดส่วนรายได้ รวมสูงถึง 102.69% เมื่อเทียบกับรายได้ในปี 2550 เนื่องจากการบินไทยเพิ่งปรับรอบบัญชีจากเดิมเริ่มต้น 1 ตุลาคม สิ้นสุด 30 กันยายน มาเป็นเริ่มต้น 1 มกราคม สิ้นสุด 31 ธันวาคม โดยเริ่มต้นจากงบการเงินปี 2550 ที่เริ่มนับตัวเลขวันที่ 1 ตุลาคม 2550 ดังนั้นตัวเลขที่ปรากฏในงบการเงินปี 2550 จึงเป็นตัวเลขที่เกิดจากผลการดำเนินงานเพียง 1 ไตรมาสเท่านั้น

ขณะที่ด้านกำไร ปรากฏว่าบริษัทเอสทีพี แอนด์ ไอ เป็นบริษัทที่มีอัตราส่วนกำไรไตรมาสแรก เมื่อเทียบกับผลกำไร ตลอดปี 2550 มากที่สุดถึง 4,739.61% ในทางตรงกันข้ามบริษัทซีเฟรช อินดัสตรี้ เป็นบริษัทที่มีสัดส่วนการขาดทุนในไตรมาสแรก เมื่อเทียบกับผลกำไรขาดทุนตลอดปี 2550 มากที่สุดถึง 340.11%

และบริษัทไทยโทเรเท็กซ์ไทล์มิลลส์ เป็นบริษัทที่มีกำไรเพิ่มขึ้นสูงที่สุด 13,000% เมื่อเทียบกับผลกำไร (ขาดทุน) ที่เกิดขึ้นในงวดเดียวกันของปี 2550 ส่วนบริษัทที่มีผลขาดทุน เพิ่มขึ้นมากที่สุดในไตรมาสนี้ เมื่อเทียบกับผลกำไร (ขาดทุน) ในงวดเดียวกันของปีก่อนคือบริษัทตรังผลิตภัณฑ์อาหารทะเล ที่ขาดทุนเพิ่มขึ้นถึง 9,894.64% สำหรับรายละเอียดการเปรียบเทียบผลการดำเนินงาน ไตรมาสแรกปีนี้เทียบกับผลการดำเนินงานปี 2550 สามารถดูได้จากตาราง รวมทั้งข้อมูลผลการดำเนินงานของบริษัทที่มีรอบบัญชีที่ไม่ได้สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม ที่ได้แยกออกมาแสดง ให้เป็นการเฉพาะ