แม้ว่าช่วงเดือนมีนาคม บรรยากาศในบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์จะคุกรุ่น หลังจากที่ ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารได้ยื่นใบลาออก ทำให้ช่วงนั้นบริษัทแห่งนี้ค่อนข้างจะปั่นป่วน หลังจากมีข่าวลือมากมายว่าเกิดความขัดแย้งขึ้นภายใน ในที่สุด บล.ไทยพาณิชย์ก็ได้ผู้บริหารคนใหม่ คือ บุญชัย ศรีปรัชญาอนันต์ เข้ามารับตำแหน่งเป็น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ตำแหน่งได้ว่างเว้นไปหนึ่งเดือน

ภาพงานแถลงข่าวเปิดตัวบุญชัยอย่างเป็นทางการเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร และกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ หยกพร ตันติเศวตรัตน์ รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริหารความเสี่ยง ธนาคารไทยพาณิชย์ มาร่วมงานครั้งนี้

ยังมีทีมงานเดิมที่ทำงานร่วมกับ ม.ล.ชโยทิต อีก 3 คน กฤษฎา สวามิภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย และบังอร สุทธิพัฒนกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ มาร่วมงาน การขนทีมงานมาร่วมเปิดตัวบุญชัย ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นการสยบข่าวลือได้ อีกส่วนหนึ่งเพื่อสร้างภาพความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ซึ่งวิชิตเองได้ตอกย้ำในงานแถลงข่าวว่า ตัวเขาเชื่อมั่นในทีมผู้บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ในปัจจุบัน ที่มีบุญชัยและผู้บริหารจะสามารถนำพา บริษัทแห่งนี้ให้เป็นผู้นำในตลาดทุนภายในเวลา 3 ปี

วิชิตเชื่อมั่นในประสบการณ์ของบุญชัย ที่อยู่ในวงการวาณิชธนกิจ และบริษัทหลักทรัพย์มานาน 16 ปี และมีส่วนร่วมในธุรกิจใหญ่ๆ อาทิ ผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท เป็นที่ปรึกษาแปรรูปรัฐวิสาหกิจเกือบทุกรายในตลาดหุ้นไทย บมจ.ปตท. บมจ.ปตท.สผ. บริษัทการบินไทย บมจ.ท่าอากาศยานไทย และ บมจ.อสมท.

บุญชัยมีประสบการณ์ร่วมงานกับ บล.ภัทร ร่วม 14 ปี เริ่มทำงานในยุคของวิโรจน์ นวลแข เป็นกรรมการผู้จัดการ ทำงานบล.เคทีบี และก่อนที่จะตัดสินใจมารับตำแหน่งผู้บริหารใน บล.ไทยพาณิชย์ได้ทำงานร่วมกับ บล.กิมเอ็ง 3 เดือน (กุมภาพันธ์-เมษายน 2551) วิชิตคาดหวังใน บล.ไทยพาณิชย์เป็นอย่างมาก หลังจากที่ได้ บุญชัยเข้ามาช่วยเป็นแม่ทัพ และมีทีมงานเดิมที่ช่วยเป็นแรงหนุน และ บล.แห่งนี้จะต้องเป็นบริษัทชั้นนำ และต้องยิ่งใหญ่ แข็งแรง มีความสำเร็จมากกว่านี้ เพราะภาพใหญ่ของธนาคารไทยพาณิชย์มีการ เปลี่ยนแปลงมาแล้ว 3-4 ปี ฉะนั้นวิชิตต้องการเห็น บล.ไทยพาณิชย์ในฐานะบริษัทลูกต้องมีความก้าวหน้า

สิ่งที่วิชิตได้กล่าวแสดงให้เห็นว่า ตลอดระยะหลายปีที่ผ่านมา ผลงานที่ บล.ทำยังไม่น่าพึงพอใจเท่าไหร่นัก!!! บุญชัยเป็นความหวังของวิชิตที่จะมาช่วยสนับสนุนยุทธศาสตร์ ของธนาคารไทยพาณิชย์ที่ยกระดับให้เป็น SCB Premier เพื่อเป็นผู้นำธนาคารที่ให้บริการครบวงจรและมีระดับ

เขายังได้ย้ำอีกว่า ธนาคารจะไม่สามารถเป็น SCB Premier ได้ หาก บล.ไทยพาณิชย์ไม่สามารถเป็นผู้นำในธุรกิจตลาดทุน บุญชัยเองก็มองว่า โอกาสที่เขาได้รับจากวิชิตนั้นเป็นความท้าทายเป็นอย่างมาก และงานแรกที่เขาต้องทบทวน คือปรับปรุงแผนธุรกิจเดิมภายใน 3 เดือน และต้องมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่ง ให้ได้ภายใน 3 ปี จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาด 5.04 เปอร์เซ็นต์ หรือมีรายได้รวม 741 ล้านบาท กำไร 442 ล้านบาทในปี 2550 นับว่าเป็นทั้งความท้าทายและความกดดันของบุญชัยไปพร้อมๆ กัน ต้องรอดูต่อไปว่า บุญชัยจะรับมืออย่างไร และจะสานต่อความฝันของวิชิตไปให้ได้ไกลเพียงใด หลังจากที่วิชิตสวมบทป๋าดันสุดฤทธิ์?