D1 ตั้ง" ดราก้อน ไมนิ่ง " ที่อินโดนีเซีย ลุยธุรกิจเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซีย หวังรองรับโรงไฟฟ้าถ่านหินในกัมพูชาและจำหน่าย พร้อมขายเงินลงทุนในไชโย โปรดักชั่นส์ และ วันเน็ต ให้กับบุคคลที่ไม่ใช่รายการเกี่ยวโยงกัน

นายทรงวุธ เวชชานุเคราะห์ กรรมการ บริษัท ดราก้อน วัน จำกัด (มหาชน) ( D1) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 6/2551 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2551ว่าบอร์ด มีมติอนุมัติจัดตั้งบริษัทย่อย เพื่อรองรับการลงทุนธุรกิจเหมืองถ่านหินในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ภายใต้ชื่อ บริษัท ดราก้อน ไมนิ่ง จำกัด ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับผลิต จำหน่าย ให้บริการธุรกิจเหมืองถ่านหิน รวมถึงประกอบธุรกิจอื่น ๆ ที่ เกี่ยวข้อง ด้วยทุนจดทะเบียน 40,000,000 บาท โดย D1 จะเข้าลงทุนในหุ้นสามัญจำนวน 100% ซึ่งจะใช้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัทลงทุนคิดเป็นร้อยละ 13.35 ของมูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน ตามงบการเงินรวม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2551 ซึ่งผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีแล้ว

นอกจากนี้ บอร์ดยังอนุมัติจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท ไชโย โปรดักชั่นส์ จำกัด (Chaiyo) จำนวน 2,150,852 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 17.06 ของทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว ให้แก่ นายสุทธิชัย จรรโลงบุตร (ผู้ซื้อ) ซึ่งมิได้เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท ในราคาหุ้นละ 0.01 บาท รวมเป็นจำนวนเงิน 21,509 บาท ขนาดของรายการจำหน่ายสินทรัพย์นี้คิดเป็นร้อยละ 0.01 ของมูลค่ารวมสิ่งตอบแทน

นอกจากอนุมัติจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท วันเน็ต จำกัด (Onenet) จำนวน 200,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 14.52 ของทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว ให้แก่ บริษัท ออกัสท์ เอเชีย โฮลดิ้งส์ พีทีอี จำกัด และ/หรือบริษัทย่อย (ผู้ซื้อ) ซึ่งมิได้เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท ในราคาหุ้นละ 10 บาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้น รวมเป็นเงิน 2,000,000 บาท ขนาดของรายการจำหน่ายสินทรัพย์นี้คิดเป็นร้อยละ 0.67 ซึ่งรายการดังกล่าวเมื่อนับรวมกับรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา และรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ในข้อ 2. โดยคำนวณขนาดรายการจากเกณฑ์ที่มีมูลค่าสูงสุด ได้แก่ เกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน คิดรวมเป็นร้อยละ 0.68

ทั้งนี้ ขนาดของรายการข้างต้นไม่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนและไม่เข้าข่ายการทำรายการกับบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทจดทะเบียน อย่างไรก็ดี รายการดังกล่าวเข้าข่ายที่ต้องเปิดเผยสารสนเทศตามหลักเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนด

ทั้งนี้ เหมืองดังกล่าวมีปริมาณถ่านหินสำรองอยู่ 60 ล้านตัน ประเมินคร่าวๆ สร้างรายได้สูงสุดถึง 3 แสนล้านบาท ระบุขณะนี้ใกล้บรรลุข้อตกลงก่อนเซ็นเอ็มโอยูในเร็ว ๆ นี้ คาดเปิดเหมืองได้ปลายปีนี้หรืออย่างช้าต้นปีหน้า และเริ่มรับรู้รายได้ในปี 52 และยังมีอีก 4-5 โครงการที่จะเปิดตัวในปีนี้ และเดือนหน้าจะเปิดโครงการใหญ่เป็นธุรกิจใหม่ ซึ่งเงินทุนจะมาจากการเพิ่มทุนเพื่อนำไปลงทุนโครงการต่างๆ

โดยการลงทุนเข้าซื้อเหมืองถ่านหินเพื่อรองรับโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินที่กัมพูชา ที่บริษัทได้สัญญาสัมปทาน 25 ปี ซึ่งต้องใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงประมาณ 35-40 ล้านตันตลอดอายุสัมปทาน ส่วนที่เหลือจะนำออกส่งออกขายในประเทศต่างๆ