|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
โค้ก ชี้วิกฤติเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน กระทบทุกอุตสาหกรรมเดี้ยง แนะพลิกโฉมครั้งใหญ่ เร่งการจัดการบริหารพื้นฐาน ด้านสายการบินอ่วม ส่วนผู้ประกอบการน้ำอัดลม กระอักราคาน้ำตาล ค่าขนส่ง จวกกรมการค้าภายในเข้ามายุ่งกลไกตลาดมากไป สินค้าปั่นป่วน ระบบเริ่มพัง
นายพรวุฒิ สารสิน รองประธาน บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมโค้ก น้ำดื่มน้ำทิพย์ เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่สูงขึ้นถึง 8.5% ประกอบกับต้นทุนการผลิตปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อทุกอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่แข็งแรงก็แย่ หรือกระทั่งบริษัทที่ไม่แข็งแรงก็ยิ่งลำบาก ดังนั้นทุกบริษัทต้องกลับมาดูด้านการบริการจัดการพื้นฐานต่างๆ และต้องพลิกโฉมการตลาดอีกมาก
ขณะนี้พบว่าธุรกิจการบินได้รับผลกระทบมาก เพราะราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นไม่คุ้มกับต้นทุน ซึ่งมีบางสายการบินเริ่มตัดเส้นทางบิน ส่วนสายการบินต้นทุนต่ำกำลังเผชิญปัญหาขาดทุนอย่างหนัก ซึ่งคาดว่าราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ธุรกิจการบินถึงจุดเปลี่ยน โดยการปรับราคาขึ้น ซึ่งจะทำให้ราคาคงไม่ได้ถูกเหมือนเช่น 30-40 ปีที่ผ่านมาอีกแล้ว
สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องดื่มน้ำอัดลมมูลค่า 30,000 ล้านบาท เกิดภาวะช็อกในเรื่องของค่าขนส่ง ราคาน้ำตาลปรับเพิ่ม 37-38% ตลอดจนวัตถุดิบการผลิตที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันทั้งหมด ได้แก่ กระป๋อง แก้ว เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพเศรษฐกิจขณะนี้บริษัทจำเป็นต้องตัดงบในส่วนที่ไม่สร้างยอดขาย แต่ก็ยังไม่มีนโยบายชัดเจนออกมารองรับ เพียงแต่ใช้การแก้ปัญหาทีละจุดก่อน
ทั้งนี้ความเคลื่อนไหวในตลาดน้ำอัดลม หลังจากราคาน้ำตาลปรับเพิ่มขึ้น 37-38% หรือ 5 บาทต่อกิโลกรัม โดยราคาขายปลีกเพิ่มขึ้น 23.50 บาท ส่งผลให้ผู้ประกอบการเตรียมยื่นปรับราคาน้ำอัดลมเพิ่มขึ้นในปีนี้อีกครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ทั้งสองฝ่าย โดยก่อนหน้านี้น้ำอัดลมได้ปรับราคาขึ้น 1 บาท เมื่อปี 2549 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้น
นายพรวุฒิ กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจหากไม่มีความจำเป็น ไม่มีผู้ประกอบการรายใดต้องการขึ้นราคา ในทางกลับกันอยากขายราคาถูกด้วยซ้ำ เพราะเป็นสินค้ากลุ่มแมส เน้นขายเอาปริมาณมากกว่า ซึ่งที่ผ่านมากรมการค้าภายในแก้ผิดจุดตลอด เพราะสุดท้ายผู้บริโภคเป็นคนตัดสินใจเอง ไม่ว่าจะเป็น รสชาติ กระป๋อง ความเย็น
“กรมการค้าภายในเข้ามายุ่งมากเกินไป ทำงานผิดหน้าที่ ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่สิ่งที่ควรทำกลับไม่ทำ ทำให้ทุกอย่างมั่วกันไปหมด ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดพังทั้งระบบ ควรจะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ไม่ใช่ให้สินค้าปั่นป่วนอยู่ในขณะนี้”
อัด200ล.ลุยซีเอสอาร์สร้างอิมเมจ
นายพรวุฒิ กล่าวว่า บริษัทได้ทุ่มงบ 200 ล้านบาท ภายใต้การทำตลาดรับผิดชอบต่อสังคม (Coporate Socail Reponsibility :CSR) เปิดตัวแคมเปญ “รักน้ำ เพื่อชุมชนยั่งยืน” ในช่วง 2 ปี โดยการจับมือร่วมกับพันธมิตร เพื่อดำเนินกิจกรรมมุ่งเน้นการอนุรักษ์และการจัดการน้ำในชุมชน ทั้งนี้คาดว่ากิจกรรมดังกล่าวสนับสนุนและส่งเสริมประชาชนกว่า 2.5 ล้านคนทั่วประเทศเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการ
“ที่ผ่านมาเราทำการตลาดรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง แต่ครั้งนี้ดำเนินการให้ชัดเจนมากขึ้น เราไม่ได้ทำเพื่อโปรโมตแบรนด์หรือกระตุ้นยอดขาย แต่เป็นเรื่องของจิตสำนึกขององค์กร ซึ่งจากการทำซีเอสอาร์ก็น่าจะส่งผลในแง่บวกแก่องค์กร คือ สามารถสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับองค์กร และในระยะยาวกลุ่มลูกค้าจะสนับสนุนสินค้าของเราและกลายเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจผู้บริโภค”
|
|
|
|
|