Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน1 กรกฎาคม 2551
นักลงทุนลุ้นตัวเลข "เงินเฟ้อ" ตัวโกร่งวันนี้             
 


   
search resources

Stock Exchange




นักลงทุนต่างชาติ-สถาบันแห่ทิ้งหุ้นไทย ฉุดดัชนีร่วงต่ออีก 7 จุด หวั่นเศรษฐกิจถดถอยหลังราคาน้ำมันพุ่งทำสถิติรอบใหม่กดดันเงินเฟ้อสูงขึ้น บวกกับอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น พร้อมจับตากระทรวงพาณิชย์ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อประจำเดือนมิ.ย. วันนี้ คาดทรงตัวในระดับสูงที่ 8-9% กดดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงต่อ โบรกเกอร์ คาดราคาน้ำมันแตะ 170 เหรียญต่อบาร์เรล-แนะถือเงินสด

ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวานนี้ (30 มิ.ย.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าแต่มีแรงขายทำกำไรออกมาในช่วงบ่ายนักลงทุนกังวลเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น จากราคาน้ำมันดิบทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ กดดัชนีปิดที่ 768.59 จุด ลดลง 7.14 จุด หรือลดลง 0.92% ระหว่างวันดัชนีปรับตัวสูงสุดที่ 781.97 จุด ปรับตัวลดลงต่ำสุดระหว่างวันที่ระดับ 765.51 จุด มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 16,120.78 ล้านบาท

โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,538.74 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 322.73 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 1,861.47 ล้านบาท

นางสาวสุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบี จำกัด เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลดลงตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ แม้ช่วงเช้าดัชนีได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ถึง 6.24 จุด แต่ไม่สามารถทรงตัวอยู่ได้ จากนักลงทุนมีการขายทำกำไรออกมา จากความกังวลในเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้น จากราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ระดับ 140 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล บวกกับอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจมีการชะลอตัว

พร้อมกันนี้ ได้มีแรงเทขายในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ปรับตัวลดง 2.08% อสังหาริมทรัพย์ลดลง 1.92% ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานมีแรงขายออกมานิดหน่อยในช่วงท้ายตลาดหลังจากพยุงดัชนีวันนี้ปรับตัวไม่แรงจากที่ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

"นักลงทุนยังกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้น แม้ว่าแบงก์ชาติได้ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี เนื่องจากการที่ราคาน้ำมันดิบมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดทำสถิติใหม่ที่ 140 เหรียญฯต่อบาร์เรล โดยมีผลทำให้ดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่กดดันให้เศรษฐกิจชะลอตัว" นางสาวสุภากร กล่าวว่า

สำหรับประเด็นที่กระทรวงพาณิชย์จะมีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ ประจำเดือนมิถุนายน ในวันนี้ (1ก.ค.) ที่คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับประมาณ 8-9% ได้ส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลและขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง กดดันให้ดัชนีปรับตัวลดลง และมองว่าแนวโน้มราคาน้ำมันจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 150-170 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากการที่ค่าเงินดอลลาร์มีการ่อนค่าลงและปัญหาในเรื่องการผลิตน้ำมันจากปัญหาอิสราเรล

ส่วนแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันพุธ (2 ก.ค.) คาดว่าดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังจากไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุนการลงทุน ขณะที่ยังคงได้รับแรงกดดันจากปัญหาเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตามแนะให้นักลงทุนติดตามทิศทางของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกและทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศ ประกอบด้วย เนื่องจากอาจส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุนโดยประเมินแนวรับที่ระดับ 753-760 จุด แนวต้านที่ระดับ 780-790 จุด

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.บัวหลวง กล่าวว่า ดัชนีปรับลดลงจากความกังวลปัญหาเงินเฟ้อ หลังราคาน้ำมันปรับขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้นักลงทุนมีแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมา เพื่อถือครองเงินสด ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะขาดทุนน้อยกว่าถือหุ้นในช่วงเงินเฟ้อสูงและผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มถดถอยลง

ขณะที่ การทำราคาปิด (Window Dressing) ของกองทุนนั้น ไม่มีผลช่วยสนับสนุน เพราะแม้ว่าเป็นวันสุดท้ายของปิดงวดบัญชีไตรมาส 2/2551 แต่กองทุนไม่จำเป็นต้องมีการทำ Window Dressing หากภาวะตลาดฯ ไม่เอื้ออำนวย การเสี่ยงเข้าทำราคาหุ้นปิดงวดบัญชีช่วงนี้คงไม่ส่งผลดีต่อพอร์ตการลงทุน

ส่วนการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วันนี้ แม้โดยรวมจะออกมาเติบโตดี แต่ได้ส่งสัญญาณว่าระดับเงินเฟ้อยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยง โดยระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเห็นเงินเฟ้อขึ้นไปถึง 2 หลัก หากราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าปัญหาเงินเฟ้อมีน้ำหนักกดดันบรรยากาศการลงทุนในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในวันพุธนี้ (2 ก.ค.51) คาดว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวลงต่อ เพราะความกังวลปัญหาเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งยังเป็นปัจจัยลบที่กดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก ทั้งนี้ราคาพลังงานที่สูงขึ้น ผลักดันให้ต้นทุนการบริโภคของประชาชนเพิ่มขึ้น และลดความสามารถในการใช้จ่าย และเชื่อว่าทางบริษัทหลักทรัพย์ส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะปรับลดประมาณการการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ และปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนลง ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจการลงทุนเข้าสู่ภาวะชะลอตัว โดยบริษัทประเมินแนวรับที่ระดับ 760 จุด แนวต้านที่ระดับ 778 จุด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us