|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ตลาดไม้พื้นลามิเนตส่งสัญญาณหดตัวตามอสังหาฯ กลาง-ล่าง ลีโอวูดขยายฐานรุกตลาดบน เดินหน้ารวบมาร์เก็ตแชร์รายย่อย ชูสินค้านวัตกรรมใหม่ไม้จริงกันปลวก พร้อมรับประกันคุณภาพ 5 ปี
เมื่อต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงขึ้น บวกกับการแข่งขันในตลาดวัสดุก่อสร้างที่รุนแรง หลังจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ลีโอวูด ผู้ผลิตพื้นไม้ต้องเผชิญกับภาวะกำไรที่หดตัวลงถึง 50% จากภาวะต้นทุนที่ปรับสูงขึ้นจากเดิม 15% ทั้งจากต้นทุนค่าขนส่ง รวมถึงค่าเงินบาทที่เริ่มอ่อนตัวลงในระยะสั้น ทำให้ต้นทุนในการนำเข้าไม้สูงขึ้น จึงถึงเวลาที่จะต้องกลับมาปรับกลยุทธ์ในการทำตลาด จากเดิมที่มีสินค้าประเภทพื้นไม้ลามิเนต ซึ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับกลางในสัดส่วนมากถึง 60%
ในปีนี้จึงเร่งปรับตัวหันมาขยายฐานลูกค้า ขยับขึ้นไปรุกตลาดบนมากขึ้น เป็นการปรับตัวล่วงหน้า หลังจากมองว่าในปีนี้ตลาดไม้พื้นลามิเนตที่เคยเติบโตตามตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง มีการแข่งขันสูง และคาดการณ์ว่าในปีหน้าตลาดจะเริ่มหดตัวอย่างชัดเจน ยอดการใช้น่าจะลดลงประมาณ 10% จากการลงทุนอสังหาริมทรัพย์โครงการใหม่ที่ลดลง เช่น คอนโดมิเนียมระดับกลาง รวมทั้งบางโครงการเปลี่ยนสเปคไปใช้กระเบื้อง ซึ่งมีราคาถูกกว่าแทน เพื่อเป็นการลดต้นทุน
ในครึ่งปีหลังลีโอวูดจะใช้สินค้าประเภทไม้จริงที่เคยทำตลาดอยู่แล้วเป็นหัวหอกรุกตลาดบน ซึ่งเป็นตลาดที่มีดีมานด์ในการใช้ไม้จริงอยู่แล้ว ซึ่งสมานชัย อธิพันธุ์อำไพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีโอวูด อินเตอร์เทรด จำกัด กล่าวว่า ตลาดไม้จริงส่วนใหญ่เป็นไม้นำเข้าจากต่างประเทศ เป็นสินค้าไม่มีแบรนด์ ส่วนใหญ่จำกัดอยู่ในกลุ่มร้านค้าไม้ทั่วไปที่เป็น Traditional Trade ซึ่งลีโอวูดจะรุกเข้ากินรวบมาร์เก็ตแชร์จากตลาดนี้มากขึ้น เปลี่ยนพฤติกรรมของลูกค้าให้มาซื้อลีโอวูดแทน โดยชูจุดขายเรื่องคุณภาพของสินค้า และการรับประกัน ซึ่งแตกต่างจากร้านค้าทั่วไป และเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด เพราะเป็นสินค้าราคาแพง ผู้บริโภคจะเลือกซื้อกับรายใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถือมากกว่า โดยปัจจุบันมีสัดส่วนลูกค้าโครงการ 65% ลูกค้าที่ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายและโมเดิร์นเทรด 35% นอกจากนี้จะรุกตลาดเมืองท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งเป็นตลาดที่ตอบรับสินค้าประเภทพื้นไม้จริงมากกว่า และมีแผนจะมีการตั้งศูนย์บริการลูกค้าเพิ่มที่สมุยในปีหน้า
ล่าสุดลีโอวูดได้เปิดตัว LeoDura พื้นไม้จริงกันปลวกและมอด ที่ใช้ระบบสุญญากาศพร้อมอัดน้ำยากันปลวกในขั้นตอนการผลิต ทั้งแบบพื้นไม้จริงเทคนิคเอนจิเนียร์ และแบบพื้นไม้จริงชนิดแข็งจากไม้กว่า 13 ชนิด 24 ลวดลาย พร้อมรับประกันคุณภาพ 5 ปี ราคาขายปลีก 2,000-3,500 บาทต่อตร.ม. ราคาขายลูกค้าโครงการ 1,200-2,000 บาทต่อตร.ม. โดยตั้งเป้ายอดขายของสินค้ารุ่นนี้ไว้ที่ 100 ล้านบาท หรือ 50,000 ตร.ม. ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายทั้งปีให้เติบโต 20% ตามเป้า 600 ล้านบาทที่ตั้งเอาไว้ได้
สมานชัยกล่าวว่า ภาวะต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้น พบว่ามีผู้รับเหมาที่ทำสัญญากับบริษัทไว้ตัดสินใจทิ้งงานก่อสร้างไปแล้ว 2 ราย เนื่องจากไม่สามารถเจรจาขอขึ้นราคากับเจ้าของโครงการได้ ทำให้ยอดขายมูลค่ากว่า 40 ล้านบาทต้องเลื่อนไปรับรู้ในเดือน ก.ย. แทน โดยในลูกค้ากลุ่มที่ทำสัญญาก่อนกลางปี 2550 จะได้รับผลกระทบ เพราะเป็นการคำนวณราคาจากต้นทุนเก่า หากยังไม่เซ็นสัญญาบริษัทฯ จะเจรจาขอขึ้นราคาตามความเป็นจริง
|
|
|
|
|