|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
กระแสน้ำท่วมพื้นที่เกษตรกรรมสำคัญทั้งในจีนและอเมริกา ทำพื้นที่เพาะปลูกเสียหาย อุปทานขาดแคลนดันราคาธัญพืช ถั่วเหลือง ข้าวโพด โบรกเกอร์เห็นพ้องหุ้นกลุ่มน้ำมันพืชได้อานิสงส์ ส่งสัญญาณซื้อ
จากเหตุการณ์วาตะภัยน้ำท่วมรุนแรงในพื้นที่การเกษตรกรรมสำคัญของจีนและสหรัฐอเมริกา ส่งผลถึงราคาสินค้าเกษตร ไม่ว่าจะเป็น ข้าวโพด รวมถึง ถั่วเหลือง ได้มีการปรับตัวสูงขึ้นจากอุปทานที่ขาดแคลน โดยน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรสร้างความเสียหายกินบริเวณพื้นที่กว้างถึง 20 มณฑลทางภาคใต้ของจีน ส่วนพื้นที่แถบมิตเวสต์ ของสหรัฐอเมริกา พื้นที่การปลูกข้าวโพดและถั่วเหลืองเสียหายถึง 1 ใน3 ของสหรัฐ จึงถือเป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่อหุ้นกลุ่มผลิตผลทางการเกษตร
โดยบริษัทหลักทรัพย์(บล.)ไซรัส มองว่า ราคาถั่วเหลืองในตลาดโลกจะยังอยู่ในระดับสูงต่อไปแม้ในระยะสั้นจะมีการพักฐาน หรือเปลี่ยนตัวเล่นโดยหันไปเก็งกำไรในสัญญาข้าวโพดแทนเพราะผลผลิตมีแนวโน้มลดลงจากพื้นที่ปลูกที่ได้รับความเสียหาจากน้ำท่วม
โดย บมจ.น้ำมันพืชไทย(TVO) จะเป็นผู้ได้เปรียบผู้ผลิตรายอื่นในด้านของต้นทุนการผลิตที่ต่ำเนื่องจากเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในประเทศและมีการจัดซื้อจัดหาวัตถุดิบจากแหล่งที่มีราคาเหมาะสม
ด้านนักวิเคราะห์จาก บล.ซิกโก้ ประเมินว่าจากสภาวะน้ำท่วม น่าจะส่งผลให้ความต้องการถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น เนื่องจากพื้นที่ปลูกได้รับความเสียหายน่าจะส่งผลดีต่อTVO
สำหรับราคาน้ำมันพืช อาจมีโอกาสได้ปรับราคาอีกตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ขณะนี้ที่ชะลอไปเพราะมีสินค้าหลายรายการที่มีการปรับราคาสูงขึ้น ทั้งนี้เมื่อใดที่ผู้ประกอบการรายเล็กสู้กับต้นทุนไม่ไหว ก็คงจะมีการเรียกร้องขอปรับขึ้นราคา ส่วน TVO มีลูกค้าหลักเป็นอุตสาหกรรม ขณะที่ราคาขายต่ำกว่าขายเป็นขวด แต่มีมาร์จิ้นที่สูงกว่า จึงแนะนำซื้อโดยให้ราคาเป้าหมายที่ 28.18 บาท
ขณะที่นักวิเคราะห์จาก บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) ประเมินว่า เหตุการณ์ที่สหรัฐและจีน น่าจะเป็นผลดีต่อ TVO เพราะสินค้าเกษตรอย่างถั่วเหลืองได้รับความเสียหาย ซึ่งราคาอาจจะมีแนวโน้มปรับขึ้น เนื่องจากผลผลิตอาจจะไม่เพียงพอ หรือไม่ได้คุณภาพ ทำให้ปริมาณการผลิตที่ไม่เพียงพอกับความต้องการ เป็นเหตุให้ต้องมีการนำเข้าได้ในอนาคต
นอกจากนี้แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 น่าจะยังสดใส เนื่องจากราคาที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงแนะนำ ซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 25.80 บาท
ด้าน บมจ.ล่ำสูง(ประเทศไทย)(LST) ไม่น่าจะได้รับผลดีเท่าไร แต่สำหรับ บมจ.สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม (UPOIC) จะได้รับผลดีจากราคาที่จะเพิ่มขึ้นมากกว่า อย่างไรก็ตามหากราคาปรับเพิ่มขึ้น ก็ด้วยต้นทุนที่สูงขึ้น และความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 2 ของ LST คาดว่าจะอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากราคาปาล์มที่ปลูกดี และตั้งแต่ปลายปีที่แล้วก็มีการปรับราคาขายน้ำมันปาล์มมาแล้ว ซึ่งจะช่วยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ดังนั้นจึง แนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 5.20 บาท
ส่วน บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ประเมินว่า แนวโน้มไตรมาส 2 ของ TVO จะยังคงแข็งแกร่ง เพราะปริมาณความต้องการกากถั่วเหลือง จะฟื้นตัวจากความต้องการกากในการเลี้ยงหมูจะกลับมาเป็นปกติ ขณะที่ความต้องการในการเลี้ยงไก่ยังแข็งแกร่ง รวมถึงราคาขายที่เพิ่มขึ้น ทิศทางราคาเมล็ดถั่วเหลืองเริ่มฟื้นตัว
อย่างไรก็ตามการประสบปัญหาฝกตกหนัก ทำให้การปลูกข้าวโพดของเกษตรกรสหรัฐล่าช้า ซึ่งหันไปปลูกถั่วเหลืองแทน และจากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ก็จะยิ่งทำให้ราคาของพืชที่นำมาทำเป็นพลังงานทดแทนได้มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นจึงแนะนำ ซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 28 บาท
|
|
|
|
|