แอบซอบบาร์ ปักธงบุกตลาดเสื้อผ้า-เครื่องใช้เด็ก หลังโละกลุ่มสกินแคร์ทิ้งกระทบยอดขายไตรมาสแรกพลาดเป้า 5% ปูพรมส่งนวัตกรรมใหม่เครื่องนอนคอลลาเจน ทะลวงแม่ลูกอ่อนสมัยใหม่ พร้อมเปิดตัวเสื้อผ้าเด็กระเบิดตลาดมูลค่า 8,000 ล้านบาท ลั่นตุลาคมจ่อคิวปรับราคาสินค้าขึ้น 2% หลังกัดฟันแบกรับต้นทุนพุ่งไม่ไหว สิ้นปีโต 25% กวาด 600 ล้านบาท
นางสาวมณฑาทิพ ไทรทอง ผู้บริหารฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์ เครื่องแต่งกายสำหรับเด็กแอบซอบบาร์ เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทแม่ได้ยกเลิกผลิตภัณท์กลุ่มสกินแคร์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับแผนหันมามุ่งในกลุ่มสินค้า ประเภท เครื่องใช้และเครื่องแต่งกาย โดยออกสินค้าเดือน 4-5 คอลเลกชันต่อเดือน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ เด็กอ่อนตั้งแต่แรกเกิด - 2 ปี และกลุ่มเด็กโตอายุ 2-5 ขวบ และกลุ่มเครื่องนอน เป็นต้น
ล่าสุดเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ "คอลลาเจน" เข้ามาผสมผสานในการแปรรูปเสื้อผ้า ทำให้เกิดความยืดหยุ่นในตัวสินค้า และมีความเบาสบายมากกว่า ผ้าโดยทั่วไป ซึ่งทาง "แอบซอบบาร์" ได้ส่งสินค้าหมวดเครื่องนอนนำร่องลงตลาดไปแล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 800 บาท เมื่อเทียบกับสินค้าในเดียวกันราคาสูงกว่า 10 บาท จะเริ่มวางจำหน่ายเดือนสิงหาคม นี้ และเตรียมเปิดตัวเสื้อผ้าเด็กคอลลาเจนลงสู่ตลาดเสื้อผ้าเด็กมูลค่า 8,000 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราการเติบโต 10% ทั้งนี้เพื่อสร้างความแตกต่างในตลาด
นอกจากนี้ยังเตรียมแผนขยายพื้นที่ขายเพิ่มขึ้น 3 แห่งจับพื้นที่โมเดิร์นเทรด ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเซ็น , เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ และ เซ็นทรัล พัทยา โดยสิ้นปีทางบริษัทคาดจะมีทั้งสึ้น 76 แห่งทั่วประเทศ เฉลี่ยพื้นที่ระหว่าง 20-30 ตร.ม อย่างไรก็ตามขณะนี้วัตถุดิบการผลิตมีแนวโน้มว่าจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเส้นใยที่นำมาแปรรูปเป็นผ้าที่มีการขึ้นราคา 3% ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ต้นทุนการขนส่งสินค้าจึงปรับเพิ่มขึ้น
ดังนั้นทางบริษัทได้ทยอยปรับราคาสินค้าในกลุ่มเสื้อผ้าเด็กไปแล้ว 3 ครั้ง เฉลี่ยครั้งละ 1-2 % และก็ได้ปรับไปอีกเมื่อต้นเดือนมิถุนายน นี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับอีกระลอกในเดือนตุลาคม นี้ ซึ่งจะปรับขึ้นอีก 2 % บริษัทมั่นใจว่าการปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะไม่ส่งผลต่อกำลังซื้อผู้บริโภคโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพ โดยพบว่าอัตราการซื้อต่อของคนกรุงเทพฯ ราว 3,000-5,000 บาทต่อคนต่อครั้ง ส่วนต่างจังหวัด 2,000 บาทต่อคนต่อครั้ง
ทั้งนี้จากการดำเนินการตลาดในเชิงรุก หลังจากผลประกอบการไตรมาสแรกมีอัตราการเติบโต 20% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5% เนื่องจากยกเลิกสินค้ากลุ่มสกินแคร์ไป โดยบริษัทคาดว่าการเปิดตัวสินค้าใหม่และขยายสาขาผลักดันให้ผลประกอบการแอบซอบบาร์มีอัตราการเติบโต 25% หรือ 600 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้เสื้อผ้า 85 % เครื่องนอน 15 %
|