กระแสความเคลื่อนไหวเข้าสู่ตลาดร่วมยุโรปอย่างแท้จริงที่ใกล้เข้ามาทุกขณะนั้น
เป็นตัวกระตุ้นให้ภาคธุรกิจบริการการเงินตื่นตัวเด่นชัดที่สุดในช่วงหลังมานี้
ในส่วนของธนาคารที่มีการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศอยู่แล้วต่างถือว่าหลังปี
1992 เป็นต้นไปสภาพภายในอีซีเป็นเครื่องช่วยปกป้องตลาดให้ตนได้เป็นอย่างดี
เพราะขณะสภาพการเป็นตลาดร่วมช่วยให้แบงก์ต่าง ๆ เข้าตลาดต่างประเทศในกลุ่มอีซีด้วยกันได้ง่ายขึ้นนั้น
มันก็เป็นความท้าทายสำหรับยุทธศาสตร์ในประเทศด้วย โดยเฉพาะสำหรับแบงก์ขนาดเล็กแล้ว
หัวใจหลักของพวกเขาไม่ได้อยู่ที่ว่า จะสามารถเข้าไปช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดในต่างประเทศได้อย่างไร
แต่เป็นการพยายามป้องกันส่วนแบ่งตลาดในประเทศของตนไว้ไม่ให้ถูกคู่แข่งต่างชาติหน้าใหม่เข้ามาช่วงชิงไปได้สำเร็จมากกว่า
ฮิลารี่ เพย์น นักวิเคราะห์ประจำศูนย์ข่าวกรองธุรกิจบริษัทเอสอาร์ไออินเตอร์เนชั่นแนล
พูดถึงแนวโน้มสำคัญที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของอุตสาหกรรมการธนาคารธุรกิจรายย่อย
(RETAIL BANKING INDUSTRY) ไปแล้วหลายอย่างและยิ่งเมื่อถึงปี 1992 ก็จะยิ่งเป็นตัวเร่งหรือทำให้เกิดการปฏิรูปในด้านต่าง
ๆ เหล่านี้
การก้าวสู่ความเป็นแบงก์สากล
เป็นแนวโน้มระดับชาติที่มีการทลายกำแพงขีดคั่นระหว่างธุรกิจวาณิชธนกิจ
(INVESTMENT BANKING) กับธนาคารพาณิชย์ลงเรียบร้อยแล้ว กรณีนี้ให้ผลดีในแง่ในโอกาสของการขายบริการข้ามพรมแดนหรือการกระจายต้นทุนและความเสี่ยงได้ดีขึ้น
แต่อาจเจอปัญหาหลายอย่างที่รวมถึงการคุ้มครองสิทธิผู้ถือหุ้นรายย่อย (CONFLICTS
OF INTEREST) การรักษาความชำนาญของสต๊าฟเอาไว้ และความซับซ้อนเกี่ยวกับการบริหารใหม่
ๆ
แปรรูปรัซวิสาหกิจ
ฝรั่งเศสและอังกฤษเริ่มสร้างความแข็งแกร่งให้กิจการรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้อยู่รอดได้ท่ามกลางภาวะการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นด้วยโครงการแปรรูปรัฐวิสาหกิจขนานใหญ่
แม้เหตุการณ์ "แบล็กคมันเดย์" เมื่อปี 1987 ที่ดัชนีราคาหุ้นดาวโจนส์ตกลงรวดเดียวกว่า
500 จุดและส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ถึงตลาดหุ้นในทั่วโลกรวมทั้งทำให้รัฐบาลฝรั่งเศสต้องชะลอโครงการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
3 กิจการใหญ่นั้นแบงก์ฝรั่งเศสก็ยังได้ชื่อว่าเป็นแบงก์ระดับยักษ์ใหญ่ของยุโรปอยู่ดี
และสามารถขยายอิทธิพลออกไปอีกถ้ากลายเป็นกิจการที่ปลอดจากความควบคุมของรัฐบาล
แนวโน้มตลาดและสินค้า
จากความเคลื่อนไหวโดยเฉพาะในอังกฤษเมื่อไม่นานมานี้ ในการขยายตัวสินค้าคือบริการทางการเงินให้หลากหลายออกไปนั้น
ย่อมเป็นข้อพิสูจน์ถึงความสำคัญของธุรกิจการเงินในแง่ของสถาบันระดับชาติ
ขณะเดียวกันธุรกิจธนาคารภาคเอกชนที่มีการพัฒนาเป็นธุรกิจะหว่างประเทศมาแล้วนั้น
ก็สามารถเติบโตต่อไปได้อย่างต่อเนื่องในสภาพตลาดร่วมอย่างแท้จริงของยุโรป
การพัฒนาตลาดผู้บริโภค
แม้ว่ากลุ่มผู้บริโภคระดับรายได้สูงจะเริ่มมีพฤติกรรมซับซ้อนขึ้นเรื่อย
ๆ ในส่วนของธุรกิจบริการการเงินแต่แนวโน้มของผู้บิรโภคกลุ่มนี้ก็ยังโดดเด่นจนศึกาาได้ไม่ยากนัก
นอกจากนี้การที่ผู้บริโภคยังคงความเป็นอนุรักษ์นิยมเอาไว้ ทำให้การเข้าไปตั้งสำนักงานของแบงก์ต่างชาติไม่เป็นที่นิยมเท่าวิธีเข้าไปร่วมมือกับเครือข่ายในประเทศที่มีอยู่เดิมในที่สุดแล้ว
การทำกิจการแบบมีเครือข่ายระดับชาติพร้อมภาพพจน์ระดับท้องถิ่น แล้วเสริมด้วยความยิ่งใหญ่ของกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ของยุโรปก็จะสามารถทำให้กิจการนั้น
ๆ น่าสนใจในสายตาของนักลงทุนรายย่อยจนได้
ระบบการโอน
จากภาวะความกดดันของการธนาคารธุรกิจรายย่อยที่เผชิญกับส่วนต่างกำไรลดลงขณะเดียวกับที่ระบบการโอนก็เป็นภาระต้นทุนถึง
2 ใน 3 ของต้นทุนในส่วนที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย ทำให้สถาบันแบงก์ทุกแห่งต้องพิจารณาปรับโครงสร้างระบบเครือข่ายกันยกใหญ่
บางแบงก์ถึงกับตั้งปัญหากับตัวเองว่า การมีแบงก์สาขานั้นจำเป็นแค่ไหน ตัวอย่างเช่นแบงก์
COMPAGNIE BANCAIRE ซึ่งใช้วิธีระดมเงินทุนทางตลาดเงิน และประกอบธุรกิจผ่านทางแบงก์ที่เป็นพันธมิตรกัน
หรือไม่ก็บริษัทปล่อยสินเชื่อเพื่อการบริโภคและไดเร็กต์มาร์เก็ตติ้ง
แม้ว่าปัจจุบันการสร้างเครือข่ายแบงก์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วยุโรปจะล่าข้าไม่คืบหน้าเท่าที่ควร
แต่การให้บริการด้วยบัตรเป็นหลักจะยังรุดหน้าต่อไปโดยในปี 1988 ที่เริ่มมีการเคลื่อนไหวไปสู่การชำระเงินด้วยระบบเดียวทั่วยุโรป
โดยมี 40 แบงก์รวมตัวกันลงนามในข้อตกลงเพื่อระบบแลกเปลี่ยนด้วยบัตรเป็นหลัก
ซึ่งจะนำไปสู่การทำให้ระบบสำคัญ ๆ ในยุโรปได้รวมตัวกัน ขั้นแรกจะเริ่มที่ระบบเอทีเอ็มก่อนแต่เป้าหมายสูงสุดที่วางไว้คือระบบ
EFT-POS
การพัฒนาในส่วนที่ไม่ใช่การธนาคาร
การที่สถาบันอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ธนาคาร เช่น บริษัทประกัน เข้าแข่งขันในตลาดธนาคารด้วย
ทำให้แบงก์ถูกบีบ สู่การขยายแนวธุรกิจขณะเดียวกันบรรดาผู้ค้าปลีกระดับยักษ์อย่างมาร์ค
แอนด์สเปนเซอร์ในอังกฤษ, จีบีอินโน ในเบลเยียมต่างก็พัฒนาแผนกบริการทางการเงินของตนเองขึ้นมาด้วย
อย่างไรก็ตาม 1992 จะไม่เปลี่ยนข้อเท็จจริงที่ว่าการแข่งขันในการธนาคารธุรกิจรายย่อยจะยังเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งอยู่
ทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดต่างยอมรับว่า ตลาดร่วมที่พูดกันนั้นไม่ใช่ตลาดที่มีรูปแบบ
(UNIFORM) เดียวกัน และความเปลี่ยนแปลงอันเป็นผลจากแรงผลักดันของตลาดนั้นอาจต้องใช้เวลาหลายทศวรรษกว่าจะเข้ารูปเข้ารอยได้
นอกจากนี้ยังมีความแตกต่างที่หลากหลายในแง่ความหนาแน่นของการตั้งแบงก์ หรือสาขาแนวโน้มด้านเงินออม
การใช้บัตรเครดิต และขนาดของสถาบันธนาคารในประเทศต่าง ๆ ทั่วยุโรป
เมื่อพิจารณาในแง่ของยุทธศาสตร์เพื่อปี 1992 แล้วจะพบ 2 ยุทธศาสตร์หลักขั้นพื้นฐานสำหรับการเป็นตลาดร่วมคือ
เป็นฝ่ายรุกหรือฝ่ายรับจากนั้นก็จะพบทางเลือกสำหรับยุทธศาสตร์ย่อยตามมามากมาย
เช่น แบงก์ที่มีเงินหนาพอและเต็มใจจะรับความเสี่ยงอันเกิดจากความยุ่งยากในการรวมตัวกัน
และถูกมองว่าเป็นนักล่าเหยื่อก็จะนิยมเข้าไปซื้อเครือข่ายของธุรกิจอื่น หรือสถาบันอื่น
ๆว ก็จะเลือกวิธีการร่วมเป็นพันธมิตรยุทธศาสตร์หรือการถือหุ้นระหว่างกัน
ซึ่งถือว่าเป็นหนทางหลีกเลี่ยงการแข่งขันโดยตรงกับคู่แข่งเจ้าถิ่น และเป็นการเข้าตลาดโดยเสียค่าใช้จ่ายต่ำส่วนแบ่งก์ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ที่ต้องการเป็นพันธมิตรกัน
ก็นิยมวิธีทำข้อตกลงด้านบริการที่ทำให้พวกเขาได้เปรียบในแง่ต้นทุนต่ำ ความยืดหยุ่น
และการเลือกเข้าตลาดโดยแทรกช่องว่างตลาดในส่วนที่คัดเลือกแล้ว วิธีนี้จะมีรูปแบบเป็นทางการน้อยกว่าการร่วมทุนและจำเป็นต้องมีการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดของบุคคลที่สอง
ทางเลือกอื่น ๆ มีความร่วมมือระหว่างกิจการแบงก์และไม่ใช่แบงก์ ซึ่งตามทฤษฎีแล้วผูเป็นหุ้นส่วนจำเป็นต้องกำหนดข้อประนีประนอมให้น้อยกว่าทางเลือกอื่น
ๆ การเริ่มต้นสร้างเครือข่ายขึ้นมาใหม่ ซึ่งต้องอาศัยการควบคุมมากขึ้นแต่ต้นทุนสูง
และการเป็นพันธมิตรระหว่างกิจการเจ้าถิ่นด้วยกันหรือเป็นพันธมิตรเชิงรับ
ซึ่งอาจเน้นการสร้างความแข็งแกร่งที่มีอยู่ให้เป็นที่รู้จัก และการปรับโครงสร้างในวิถีทางที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของกิจการ
เพื่อให้ยืนหยัดเผชิญหน้ากับการแข่งขันจากคู่แข่งหน้าใหม่ที่รุกเข้ามาในบ้านของตัวเองวิธีสุดท้ายนี้จะช่วยให้บริษัทต่าง
ๆ หลีกเลี่ยงปัญหาเงินทุนและการบริหารกระจัดกระจายรวมทั้งความล่าช้าจากการประเมินผลดีของยุทธวิธีนี้ภาพรวมที่จะเกิดขึ้น
เมื่อมีตลาดร่วมยุโรปแล้วก็คือ การมีแบงก์ขนาดใหญ่ขึ้นแต่น้อยรายลง แบงก์ที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้วก็จะยิ่งกร้าวแกร่งยิ่งขึ้น
เพราะได้รับประโยชน์จากการประหยัดต้นทุนตามขนาดกิจการที่ใหญ่ขึ้น การบริหารที่ดีขึ้น
และซับซ้อนขึ้นการมีสินค้าหลากหลายขึ้น และเทคโนโลยีทีเหนือกว่า
ส่วนกิจการที่อ่อนแอก็จะผนวกกัน หรือไม่ก็ถูกคู่แข่งที่มีขนาดใหญ่กว่าซื้อกิจการถ้าเป็นแบงก์ขนาดเล็กแต่มีความชาญฉลาดก็จะหาวิธีแทรกช่องว่างตลาดเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง
สำหรับแบงก์อีกมากมายที่ไม่ใหญ่พอจะมีบทบาทสำคัญในตลาดระหว่างประเทศ ก็จะเลือกร่วมมือกันด้วยหนทางดีที่สุดที่มีอยู่
จนถึงปัจจุบันนี้จะเห็นว่าแบงก์พาณิชย์ระดับน้ำจะมีภาพพจน์การเป็นแบงก์ระหว่างประเทศมากกว่าแบงก์ที่เน้นระดมเงินออมหรือแบงก์สหกรณ์
แต่สถานการณ์ที่เป็นอยู่นี้จะเปลี่ยนไป ถ้าแนวโน้มในปัจจุบันก่อให้เกิดการผนวกกิจการที่ประสบผลสำเร็จ
อาทิการที่กลุ่มแบงก์ระดับท้องถิ่นของเยอรมนีตะวันตกรวมตัวกันยิ่งแบงก์เหล่านี้รวมตัวมากเท่าไร
ก็จะยิ่งทำให้องค์กรที่เกิดขึ้นมีศักยภาพในการขยายตัวสู่เวทีระหว่างประเทศมากขึ้นเท่านั้นพูดกันจริง
ๆ แล้วยุทธวิธีผนวกิจการหรือร่วมมือกันอาจถือว่าดีที่สุดสำหรับเป็นทางเลือกในระยะยาวการเข้าเสนอซื้อกิจการแบบจู่โจมจะมีอยู่น้อยมากในภาคธุรกิจ
การธนาคารที่เจริญก้าวหน้าอยู่ได้เพราะแรงสนับสนุนจากมหาชนยุทธวิธีร่วมทุนระห่างสถาบันการเงินและที่ไม่ใช่สถาบันการเงินมีอยู่บ้างโดยทั่วไป
แต่ก็ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพจริงขณะเดียวกันการร่วมมือด้านบริการดดยไม่มีการตั้งองค์กรในรูปแบบเป็นทางการขึ้นมารองรับนั้น
ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นยุทธวิธีที่มีศักยภาพสูงมาก
และในท้ายที่สุดแล้วการควบคุมการเติบโตจากภายในอาจกลายเป็นรูปแบบของการขยายกิจการที่มีเสถียรภาพสูงสุดวิธีหนึ่ง
เพราะช่วงลดความเสี่ยงระยะสั้นจากการประนีประนอมหรือการรวมตัวกับฝ่ายอื่น
ๆ