Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน26 มิถุนายน 2551
สศค.คงจีดีพี51โต5-6% ลั่นพื้นฐานศก.ไทยปึ๊ก             
 


   
www resources

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

   
search resources

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
พรรณี สถาวโรดม
Economics




สำนักงานเศรษฐกิจการคลังแถลงการณ์คงประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 51 ที่ระดับ 5-6% ส่วนอัตราเงินเฟ้อปรับใหม่จาก มาอยู่ที่ 7.2% ยันแม้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นจนกดดันอัตราเงินเฟ้อต่อเนื่อง แต่พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังรับมือความเสี่ยงได้

นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สศค.กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยยังมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและสามารถรองรับปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกประเทศได้ดี โดยเศรษฐกิจไทยในปี 2551 คาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 5.0-6.0 ต่อปี เท่ากับประมาณการครั้งก่อน ณ เดือนมีนาคม 2551 และปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 4.8 ต่อปี เนื่องจากได้รับแรงส่งต่อเนื่องจากอัตราการขยายตัวในไตรมาส 1 ปี 2551 ที่สูงถึงร้อยละ 6.0 ต่อปี

อย่างไรก็ตาม สศค.ได้ปรับคาดการณ์ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจอื่นๆ ของปี 51 ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ที่ 7.2% จากเดิม 4.3-4.8% ส่วนการบริโภคจะขยายตัว 4.1% การลงทุนขยายตัว 8.3% การส่งออกในแง่ปริมาณขยายตัว 8% การนำเข้าในแง่ปริมาณขยายตัว 9.7% เกินดุลการค้าในระดับ 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

"เหตุผลที่ยังคงคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในปีนี้ไว้ที่ 5.0-6.0% หรือเฉลี่ยที่ 5.6% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและสามารถรองรับปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกประเทศได้ดี" นางพรรณีกล่าวและว่า แรงขับเคลื่อนหลักจากอุปสงค์ภายนอกประเทศยังขยายตัวได้ดี ตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าใหม่ในเอเชียและตะวันออกกลางที่เติบโตในระดับสูง และเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงกว่าที่คาดการณ์เดิม ส่งผลให้การส่งออกของไทยที่เปลี่ยนไปยังตลาดใหม่ยังคงเติบโตได้ดี ตลอดจนอุปสงค์ภายในประเทศมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เพราะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากรายได้เกษตรกรที่เพิ่มขึ้นตามราคาสินค้าเกษตร การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ มาตรการของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมถึงการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ

อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายของภาคเอกชนยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ เนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการและผู้บริโภคที่ลดลง

นางพรรณีกล่าวถึงเสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศในปี 51 ว่า ยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยดุลบัญชีเดินสะพัดคาดว่ายังคงเกินดุลที่ร้อยละ 1.0 -2.0 ของจีดีพี แต่เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศในปี 2551 มีความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 6.0-8.0 ต่อปี ตามการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก

ด้านนายคณิศ แสงสุพรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยขณะนี้ไม่ได้เข้าสู่ภาวะที่เรียกว่า Stagflation หรือภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวและอัตราเงินเฟ้อสูง เนื่องจากเศรษฐกิจของไทยในขณะนี้ยังสามารถขยายตัวได้ดี แต่ก็เห็นว่าภาครัฐควรจะเร่งเพิ่มรายได้ก่อนที่จะปัญหาเงินเฟ้อจะส่งผลกระทบไปมากกว่านี้

"กลุ่มที่รัฐบาลควรจะเข้าไปช่วยเหลือ คือ กลุ่มผู้มีรายได้น้อย, ข้าราชการ และผู้เกษียณอายุ ที่ควรจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 5-6% ส่วนกลุ่มเกษตรกรแม้จะเป็นฐานประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ แต่ขณะนี้ถือว่ามีรายได้ดีขึ้นตามราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้น จึงยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งเข้าไปช่วยเหลือมากนัก" นายคณิศ กล่าวและว่า หากอัตราเงินเฟ้อขึ้นไปถึง 2 หลักจริง ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะต้องปรับขึ้นไปถึง 160-165 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะต้องติดตามราคาน้ำมันในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด รวมถึงกรณีที่รัฐบาลส่งเสริมให้ใช้น้ำมัน E85 และไบโอดีเซลว่าจะเกิดขึ้นเร็วเพียงใด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us