Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน26 มิถุนายน 2551
บอร์ดไฟเขียวแปรรูปตลาดหุ้น ตั้งเป้า5ปีมาร์เกตแคปเพิ่ม2เท่า             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   
search resources

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา
Stock Exchange




บอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ ไฟเขียวแปรรูปตลาดหุ้นไทย เตรียมขายหุ้นไอพีโอปี 54 พร้อมตั้งเป้า 5ปีข้างหน้ามาร์เกตแคปเพิ่มเป็น 12 ล้านล้านบาท รายได้รวม 4 พันล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 6 ล้านล้านบาท และ 2 พันล้านบาท "ภัทรียา" แย้มเล็งแยกโครงสร้างออกเป็น 2 กลุ่ม ประเดิมเงินกองทุนแห่งละ 1.7 หมื่นล้านบาท เชื่อแก้ไขกฎหมายการถือหุ้นเสร็จปี 52 พร้อมรับฟังความเห็นหน่วยงานเกี่ยวข้องโครงสร้างผู้ถือหุ้น

นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ให้เห็นชอบหลักการปรับโครงสร้างกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามแนวทางผลการศึกษาของบริษัท Boston Consulting Group (BCG) ที่ปรึกษาในโครงการศึกษาการกำหนดรูปแบบและแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างหลักของตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทย่อย ให้มีการแปรสภาพองค์กรหรือ Demutualization และเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2554 รวมถึงการปรับโครงสร้างองค์กร และกำหนดแนวทางการปรับตัวเชิงกลยุทธ์ใน 5 ปีข้างหน้า (2552-2556)

ทั้งนี้ การแปรรูปตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม เพราะการปรับเปลี่ยนองค์กรโดยมีการตั้งเป้าหมายการเติบโตที่ชัดเจนในการดำเนินงาน และปรับเปลี่ยนระบบการทำงาน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า การสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ลูกค้าที่จะได้รับประโยชน์จากการลงทุน อาทิ บริษัทจดทะเบียน บริษัทสมาชิก และผู้ลงทุน

สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วง 2 ปี แรกนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเร่งสร้างความแข็งแกร่งของตลาดทุนภายในประเทศด้วยการเพิ่มความลึกของตลาด เพิ่มสินค้าที่มีคุณภาพและความหลากหลายมากขึ้น หลังจากนั้นจะมุ่งไปสู่การหาพันธมิตร เพื่อสร้างความเชื่อมโยงกับตลาดหุ้นในระดับภูมิภาค และระดับนานาประเทศในที่สุด

ขณะเดียวกันแผนการดำเนินงานดังกล่าวจะทำให้นักลงทุนได้รับความสะดวก คล่องตัว มีต้นทุนที่ต่ำลง และมั่นใจได้ว่าจะได้ลงทุนในหลักทรัพย์ และตราสารทางการเงินที่หลากหลาย เพื่อกระจายความเสี่ยง ทำให้มีทางเลือกมากขึ้น เพื่อได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างเต็มที่ ก็จะสามารถเพิ่มค่าเงินออมของตนเอง

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า บอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งเป้าในอีก 5 ปีข้างหน้า จะมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เกตแคป) เพิ่มอีก 2 เท่า หรือเพิ่มเป็น 12 ล้านล้านบาท จากปัจจุบันที่มี 6 ล้านล้านบาท และตั้งเป้าเพิ่มรายได้เป็น 4,000 ล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ 2,000 ล้านบาท ซึ่งรายได้เพิ่มขึ้นไม่มากนักนัก เนื่องจาก ตลาดหลักทรัพย์ฯมีการตัดรายได้จากดอกเบี้ยและเงินลงทุนออก

"จากการปรับปรุงโครงสร้างตลาดหลักทรัพย์ฯ ข้างต้น จะส่งผลให้สัดส่วนรายได้อีก 5 ปีข้างหน้า มาจากรายได้ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ ค่าธรรมเนียมการรับหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียน และการเป็นนายทะเบียนรับฝากหลักทรัพย์ และรายได้จากสินค้าใหม่ๆ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 25% ของรายได้รวม และตั้งเป้ามีบริษัทจดทะเบียนจากต่างประเทศไม่น้อยกว่า 5% ของมูลค่าตลาดรวม ซึ่งจะมีการกำหนดแผนกลยุทธ์ เพื่อให้มีการดำเนินงานที่บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้"

สำหรับแนวทางการปรับโครงสร้างองค์กรตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น บอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อนุมัติให้มีการแยกงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กองทุนเพื่อการพัฒนาตลาดทุน และส่วนของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเน้นการทำงานในแต่ละด้าน คือการพัฒนาตลาดทุนในระยะยาว และการดำเนินธุรกิจตลาดทุน

ทั้งนี้ กองทุนเพื่อการพัฒนาตลาดทุน จะมีหน่วยงานที่ดูแลงานด้านการให้ความรู้แก่ผู้ลงทุน และการพัฒนาความแข็งแกร่งให้ผู้เกี่ยวข้องในตลาดทุน สถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน งานด้านบรรษัทภิบาล และกิจกรรมเพื่อสังคม ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของตลาดทุนไทย ที่มีหน่วยงานที่ทำหน้าที่พัฒนาตลาดทุนอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะต้องมีการจัดโครงสร้างที่ชัดเจน ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทั้งบริษัทจดทะเบียน บริษัทหลักทรัพย์ และผู้ลงทุน ดูแลงานด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ รวมถึงดูแลงานหลังการซื้อขายทั้งหมดอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ทั้ง 2 กลุ่มงาน จะได้รับการจัดสรรเงินจากเงินกองทุนของ ตลาดหลักทรัพย์ฯที่มี 1.7 หมื่นล้านบาท ให้เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจและการพัฒนาตลาดทุน

"ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะดำเนินการเพื่อปรับโครงสร้างขององค์กรให้สอดคล้องกับแนวทางดังกล่าว ตั้งแต่ปี 2551 นี้เป็นต้นไป โดยโครงสร้างองค์กรใหม่จะมีผลตั้งแต่ต้นปี 2552 และจะมีการจัดเตรียมแผนกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาว 5 ปีข้างหน้า ซึ่งการแก้ไขกฎหมาย คาดว่าจะสามารถนำเสนอแก้ไขได้ในปี 2552 โดยจะมีการนำรายละเอียดที่สำคัญ เช่น โครงสร้างการถือหุ้น การกำกับดูแลหน่วยงานในตลาดทุนหลังการแปรสภาพตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นต้น"

พร้อมกันนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะระดมความคิดและรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และกระทรวงการคลัง รวมถึงเตรียมนำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทยต่อไป ส่วนในเรื่องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และโครงสร้างทุนจดทะเบียนจะต้องหารือกับบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินเช่นเดียวกัน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us