Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน26 มิถุนายน 2551
สถาบันไล่เก็บหุ้นถูก ปั้นงบQ2/51-ดันดัชนีพุ่ง15จุด             
 


   
search resources

จิตติมา อังสุวรังษี
Stock Exchange




ดัชนีตลาดหุ้นไทยบวกเกือบ 15 จุด หรือ 2% เหตุนักลงทุนสถาบันไล่เก็บหุ้นราคาถูกเข้าพอร์ต หวังปิดงบไตรมาส 2/51 บวกแรงเก็งกำไรจากการคาดการณ์ "เฟด" คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2% ด้านโบรกเกอร์มั่นใจตลาดหุ้นวิ่งต่อ แต่ต้องระวังแรงขายทำกำไร แนะจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ

บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (25 มิ.ย.) นักลงทุนได้ทยอยเข้ามาซื้อหุ้นในช่วงบ่ายส่งผลให้ดัชนีกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 778.85 จุด ต่ำสุด 763.49 จุด ก่อนจะปิดที่ 778.42 จุด เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 14.67 จุด คิดเป็น 1.92% มูลค่าการซื้อขาย 18,146.74 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,557.82 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,476.52 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 81.30 ล้านบาท

นางสาวจิตติมา อังสุวรังษี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้น 14.67 จุด หรือ 1.92% จากแรงซื้อของนักลงทุนสถาบัน เนื่องจากราคาหุ้นปรับลดลงมาแรงจนอยู่ในระดับที่น่าสนใจ และนักลงทุนสถาบันบางส่วนที่มีการปรับพอร์ตไปก่อนหน้านี้ เมื่อราคาหุ้นปรับลงมาในระดับที่น่าสนใจจึงกลับมาซื้ออีกครั้ง รวมทั้งเป็นช่วงปิดงวดบัญชี หรือ Window Dressing ไตรมาส 2/51 ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาหุ้นขนาดใหญ่ ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นค่อนข้างแรง

ขณะที่ การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคฝ่ายค้านวานนี้ไม่มีประเด็นที่มีนัยสำคัญ ทำให้ความเข้มข้นลดลงไป ไม่เหมือนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่เป็นไปอย่างสงบ ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เมืองผ่อนคลายลง นอกจากนี้ ตลาดหุ้นภูมิภาคได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน หลังจากดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงไม่แรง และการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ค่อนข้างแน่

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ ดัชนีจะสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ หากดัชนีดาวโจนส์ไม่ปรับตัวลงแรง โดยจะได้รับแรงหนุนจากการคงอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่ 2% แต่ตลาดหุ้นไทยอาจจะได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไรบ้างหากราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น

ส่วนปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่ ทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ค่าเงินบาท ราคาน้ำมันดิบ แรงขายนักลงทุนต่างชาติ และสถานการณ์การเมืองในประเทศ โดยประเมินแนวรับที่ 760-770 จุด แนวต้านที่ 780-790 จุด

นายอภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้รับผลบวกจากแรงซื้อของนักลงทุนที่พบว่าราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงมานานแล้ว รวมถึงปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2% ขณะที่สถานการณ์การเมืองวานนี้ไม่ค่อยมีน้ำหนัก เมื่อประเด็นการอภิปรายไม่วางใจรัฐบาลของพรรคฝ่ายค้านไม่ค่อยแข็งแกร่ง มีเพียงการตอบโต้กันไปมาเท่านั้น ทำให้นักลงทุนให้น้ำหนักกับประเด็นนี้ค่อนข้างน้อย

นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยบวกจากแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันที่ทำ Window Dressing ไตรมาส 2/51 และกองทุนต่างๆ ที่ได้รับเงินจากการซื้อหน่วยลงทุนของผู้ต้องการสิทธิประโยชน์ทางภาษี หลังเห็นว่าตลาดหุ้นปรับตัวลงมาแรงในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งกองทุนต่างๆ นำเงินที่ได้นี้กลับเข้ามาซื้อหุ้น เนื่องจากราคาหุ้นปรับลงมาแรงอยู่ในระดับที่น่าสนใจ

ด้านทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่ามีโอกาสปรับขึ้นต่อเนื่อง ตามมติเฟดที่เชื่อว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2% โดยมีแนวรับที่ 772 จุด และแนวต้านที่ 780 จุด โดยต้องติดตามเรื่องของสต็อกน้ำมันสหรัฐฯ ราคาน้ำมันดิบ ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค. ตลาดหุ้นต่างประเทศ และสถานการณ์การเมืองในประเทศ เกี่ยวกับผลการอภิปรายและการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ

ส่วนกลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนระยะกลาง แนะนำซื้อหุ้นที่ราคาปรับลงมาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน เน้นถือลงทุน นักลงทุนระยะสั้น เมื่อดัชนีปรับขึ้นมาอยู่ในกรอบ 780-800 จุด แนะนำขายทำกำไร หลังจากในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาและช่วงต้นสัปดาห์นี้แนะนำเข้าซื้อลงทุนระยะสั้น

นางวิริยา ลาภพรหมรัตน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มแบงก์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น มาจากการคาดการณ์ว่าการประชุมของเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2% ประกอบกับยังมีแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันเพื่อปิดงวดบัญชีในไตรมาส 2/51 จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวบวก

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าดัชนีน่าจะเริ่มมีการพักฐานโดยน่าจะเคลื่อนไหวบริเวณ 770-780 จุด หลังจากที่ตลาดหุ้นรับข่าวดีการทำ Window Dressing และแรงเก็งกำไรการประชุมเฟด จึงต้องรอปัจจัยบวกใหม่เข้ามาช่วยสนับสนุน

ขณะที่ประเด็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอีก 7 คนจากฝ่ายค้าน ยังคงต้องติดตามรอดูผลการลงมติ ซึ่งจะทราบผลในวันพรุ่งนี้ โดยคาดว่าน่าจะมีข้อสรุปที่ดี ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้ทยอยเก็บหุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มแบงก์ โดยประเมินแนวรับที่ 765-755 จุด และแนวต้านที่ 780 จุด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us