Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 มิถุนายน 2551
เอกชนวิตกศก.ไทยครึ่งปีหลังระส่ำรัฐบาลขาดความชัดเจนแก้ไขปัญหา             
 


   
search resources

Economics
สันติ วิลาสศักดานนท์




เอกชนวิตกปัญหาเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังน่าห่วงกว่าครึ่งปีแรกเหตุศก.โลกอาจชะลอตัวจากวิกฤติน้ำมัน ขณะที่ศก.ไทยต้องเผชิญแรงกดดดันทั้งน้ำมัน การเมือง มองไตรมาส 3 ศก.ซึมแน่ ชี้มาตรการกระตุ้นศก.จากรัฐบาลจะเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญซึ่งปัจจุบันมองไม่เห็นชัดเจนว่าจะดูแลปัญหาได้ “กกร.”ยังคาดหวังนายกฯจะจัดสรรเวลาให้หารือด้านเศรษฐกิจอย่างเร็วสัปดาห์หน้า

นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจครึงปีหลังปีนี้มีความน่าเป็นห่วงกว่าครึ่งปีแรกเนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีทิศทางที่อาจจะชะลอตัวลงได้อีกหากปัญหาน้ำมันแพงยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นอาจกระทบการส่งออกไทย ขณะที่เศรษฐกิจในประเทศเองก็ยังต้องเชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องแต่แรงซื้อในประเทศกลับยังคงมีการขยายตัวต่ำอยู่

“ ดูแล้วครึ่งปีหลังนี้ก็น่าห่วงกว่าเพราะปัญหาจะมีทั้งจากปัจจัยภายนอก และปัจจัยภายในของไทยคือการเมืองที่เริ่มไม่ชัดเจน ทำให้กำลังซื้อคนไทยลดไปมาก โรงงานไม่กล้าขยายลงทุนโชคดีที่ส่งออกยังโตอยู่จึงช่วยได้มากที่ผ่านมา”นายสันติกล่าว

สำหรับมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของรัฐบาลที่จะมีโครงการแจกคูปองคนจนนั้นก็ถือว่าเป็นจุดที่ดีในการดูแลค่าครองชีพผู้มีรายได้น้อยแต่ต้องระวังไม่ให้คูปองนั้นเป็นเงินสดเพราะอาจจะนำไปใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่ควรจะใช้ คูปองควรเป็นการนำไปแลกสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เช่น ข้าวสาร เป็นต้น และควรจะมีระยะเวลาที่ชัดเจนและจะต้องลงทะเบียนผู้ที่จะมีสิทธิใช้คูปองให้ดีเพื่อให้ถึงมือประชาชนอย่างแท้จริง

นายธนวรรธ์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ภาพเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังมีความไม่แน่นอนสูงกว่าเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกโดยเฉพาะไตรมาส 3 ค่อนข้างชัดเจนว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงเนื่องจากราคาน้ำมันยังมีแนวโน้มทรงตัวระดับสูงอยู่และยังมีปัญหาการเมืองที่เข้ามาซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะจบลงในทิศทางใด

“ไตรมาสแรกเศรษฐกิจเราโต 6% ไตรมาส 2 น้ำมันเริ่มสูงมาก แต่ไตรมาส 3 น้ำมันยังมีปัญหาอยู่ผสมกับปัญหาทางการเมือง ไตรมาส 3 คงซึมแน่เพราะงบประมาณรายจ่ายของรัฐเองก็ไม่แน่ใจว่าจะออกมาใช้ทันหรือไม่ ดังนั้นไตรมาส 4 เศรษฐกิจจะพลิกฟื้นกลับมาหรือไม่ก็ต้องจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐรวมไปถึงน้ำมันแพงเพราะขณะนี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐภาพรวมยังไม่ชัดเจน”นายธนวรรธ์กล่าว

สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครึ่งปีหลังมีความสำคัญที่รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการโดยเฉพาะเร่งโครงการเมกะโปรเจกต์ การเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ฯลฯ โดยส่วนของคูปองคนจนนั้นเป็นการช่วยเหลือคนมีรายได้น้อยเท่านั้นไม่สามารถเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้

นายบุญชัย โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.สหพัฒนพิบูล และประธานคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ พาณิชย์ และอุตสาหกรรม วุฒิสภา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นแนวทางชัดเจนเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจากรัฐบาลที่ได้รับผลกระทบจากน้ำมันแพง เว้นแต่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการขอให้ภาคเอกชนตรึงราคาสินค้าซึ่งแนวทางดังกล่าวหากในที่สุดเอกชนอยู่ไม่ได้ก็ต้องเลิกผลิตยิ่งซ้ำเติมปัญหา

สำหรับผู้ผลิตการปรับขึ้นสินค้าในขณะนี้ถือว่ามีความจำเป็นและยอมรับว่าบางสินค้าก็ไม่สามารถปรับขึ้นได้มากนักเพราะแรงซื้อประชาชนต่ำ ผู้ผลิตจึงต้องระวังพอสมควร ส่วนใหญ่จึงใช้วิธีลดขนาดสินค้าแทนเพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นราคา

กกร.หวังรอหารือศก.สมัคร

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) กล่าวว่า กกร.ได้ทำหนังสือไปยังนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพื่อขอเข้าหารือด้านเศรษฐกิจกับนายกรัฐมนตรีในนามคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน(กรอ.) ตั้งแต่2 สัปดาห์ที่ผ่านมาแต่ยังไม่ได้รับตอบกลับโดยทางสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมประเด็นในการหารืออยู่คาดว่าหากไม่มีอะไรผิดพลาดอาจจะได้หารือในสัปดาห์หน้าเป็นอย่างเร็ว

“กกร.คงไม่คาดหวังว่านายกรัฐมนตรีจะหารือกับเอกชนในเร็วๆ นี้เพราะเข้าใจว่าปัญหาการเมืองเวลานี้น่าจะสำคัญกว่า แต่หลังจากปัญหาการเมืองคลีคลายนายกรัฐมนตรีก็คงจะหารือเอกชนในที่สุดเพราะถือว่าเวทีกรอ.นั้นจะเป็นการมองเศรษฐกิจร่วมกันที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังฟื้นตัวขึ้น ”แหล่งข่าวกล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us