Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 มิถุนายน 2551
สถาบันไล่เก็บหุ้นเข้าพอร์ต สวนทางต่างชาติทิ้ง 2 พันล.             
 


   
search resources

Stock Exchange




ตลาดหุ้นผันผวนหนักหลังดำดิ่งกว่า 14 จุด แต่เด้งกลับในช่วงบ่ายจนปิดเท่ากับวันก่อน เหตุนักลงทุนสถาบันทยอยเก็บหุ้นเข้าพอร์ต หวังดันงบไตรมาส 2/51 ขณะที่ต่างชาติขายต่อเนื่องอีกเกือบ 2 พันล้านบาท โบรกเกอร์แจงนักลงทุนไล่เก็บหุ้นพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น และเก็งกำไรหุ้นอสังหาริมทรัพย์

บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวานนี้ (23มิ.ย.) ดัชนีตลาดหุ้นผันผวนตั้งแต่ช่วงเช้าที่ปรับตัวลดลงไปต่ำสุดกว่า 14 จุด ที่ 754.16 จุด ก่อนจะมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน หนุนดัชนีขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 769.02 จุด และปิดการซื้อขายที่ 768 จุด ซึ่งเป็นระดับเดียวกับวันก่อนหน้า มูลค่าการซื้อขายรวม 14,068.34 ล้านบาท

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศยังขายสุทธิ 1,917.63 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 13,02.54 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 615.09 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นปิดไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้านั้น นับเป็นการเกิดขึ้นครั้งที่ 3 ตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 44 และ 29 มิถุนายน 2544

นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ UOBKH กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานี้ค่อนข้างผันผวน โดยช่วงเช้าดัชนปรับลงลึกถึง 14 จุด ตลาดตลาดหุ้นภูมิภาคจากความกังวลปัญหาเรื่องปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) และการชะลอตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ขณะที่ในช่วงบ่ายได้มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะหุ้น บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP และ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT จากการที่ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าส่งมอบเดือนสิงหาคมมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น และตลาดหุ้นในภูมิภาคที่เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน รวมถึงฟิวเจอร์สดาวโจนส์ยืนอยู่ในแดนบวก

นายโกสินทร์ กล่าวว่า แรงซื้อที่มีเข้ามาในช่วงบ่ายน่าจะเกิดจากนักลงทุนภายในประเทศและบริษัทหลักทรัพย์ที่มีพอร์ตลงทุนในหลักทรัพย์ เพื่อปิดงบการเงินไตรมาส 2/5 ขณะที่มูลค่าการซื้อขายที่ระดับ 14,000 ล้านบาท เนื่องจากนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ทางการเมือง การอภิปราย และชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รวมถึงการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะประชุมภายในกลางสัปดาห์นี้

"หลายฝ่ายคาดว่าเฟดน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2% ซึ่งจะทำค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าและผันผวนในกรอบแคบๆ ส่งผลให้เม็ดเงินที่เคยไหลออกจากหุ้นเข้าไปลงทุนในตลาดเงินไหลกลับเข้ามาลงทุนในหุ้นบางส่วนจากก่อนหน้านี้คาดว่าดอกเบี้ยจะขึ้น และจำทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบๆ"

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (24 มิ.ย.) คาดว่าดัชนีจะผันผวนในกรอบแคบๆ จากรอผลการประชุมเฟด แต่จากการที่ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าส่งมอบเดือนสิงหาคมที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น เชื่อว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้น PTT และ PTTEP อย่างต่อเนื่อง โดยประเมินแนวรับที่ระดับ 750-759 จุด แนวต้านที่ระดับ 771-773 จุด

นางสาวสุภากรณ์ สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.เคทีบี กล่าวว่า ในช่วงบ่ายตลาดหุ้นไทยสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ จากแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หลังจากราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงมามากและคาดว่าเฟดจะคงดอกเบี้ย และหุ้นกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

"มูลค่าการซื้อขายเบาบางจากนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอผลการประชุมเฟด และรอการอภิปรายทางการเมือง ทำให้นักลงทุนมีการลงทุนลักษณะซื้อขายรายวัน (เทรดดิ้ง) รวมทั้งยังไม่มีปัจจัยลบใหม่เข้ากระทบ ซึ่งถือว่าการที่ดัชนีที่สามารถทรงตัวได้ในระดับนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ตลาดหุ้นมีการสร้างฐาน และคาดว่าระยะสั้นดัชนีสามารถที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ที่ 780 จุด และมีโอกาสที่จะปรับต่อไปได้ที่ 800 จุด"

ส่วนแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้ยังมีโอกาสที่จะกปรับตัวลดลง ซึ่งต้องติดตามตลาดหุ้นภูมิภาคและการพิจารณาของเฟด ซึ่งบริษัทคาดว่าเฟดจะมีการคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในครั้งนี้และคาดว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้ ประเมินแนวรับที่ระดับ 760 จุด แนวต้านที่ระดับ 780 จุด

นางสาววิริยา ลาภพรมรัตน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าดัชนีฯปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นภูมิภาคจากการที่ดาวโจนส์ที่ปรับตัวลดลง 220 จุด จากความกังวลเศรษฐกิจอเมริกา และปัญหาสินเชื่อ และจากปัจจัยทางการเมืองที่ยังไม่มีข้อยุติ แต่ในช่วงบ่ายตลาดหุ้นภูมิภาคได้มีการรีบาวน์ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม

ทั้งนี้ บริษัทได้มีการปรับลดประมาณการดัชนีตลาดหุ้นไทยปีนี้เป็นครั้งที่ 2 โดยคาดว่าดัชนีจะอยู่ที่ 650-820 จุด จากตั้งแต่ต้นปีประมาณการไว้ที่ระดับ 730-950 จุด ก่อนที่จะปรับเพิ่มในครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 1,000 จุด หลังเกิดปัญหาเงินเฟ้อจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น

สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ จะต้องติดตามในเรื่องการเมืองในเรื่องการอภิปรายของฝ่ายค้าน และตลาดหุ้นภูมิภาค โดยประเมินแนวรับที่ระดับ 750-770 จุด แนวต้านที่ระดับ 775-780 จุด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us