|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เมเจอร์ซีนีแอด มั่นใจ ครึ่งปีหลัง หากไร้เหตุการณ์ไม่คาดฝัน ธุรกิจสื่อโฆษณาในโรงหนังไปได้สวย ชี้สินค้ากลุ่ม โทรศัพท์เคลื่อนที่และรถยนต์ ยังซื้อโฆษณาต่อเนื่อง มั่นใจสิ้นปีรายได้รวมโต 20%
นายนิธิ พัฒนภักดี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เมเจอร์ ซีนีแอด จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านสื่อโฆษณาในเครือโรงหนังเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป และสื่อโฆษณาในร้านแมคโดนัลด์ กล่าวว่า แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาสภาพเศรษฐกิจจะไม่ค่อยดีมากนัก แต่ก็ยังมีสินค้าและบริการเข้ามาซื้อสื่อโฆษณาในพื้นที่ของกลุ่มเมเจอร์ฯตลอดเวลา ซึ่งสินค้าที่ยังคงมีการซื้อสื่อเป็นประจำเป็นกลุ่ม โทรศัพท์เคลื่อนที่ และรถยนต์ ซึ่งเป็น 2 ตลาดใหญ่
"ผมมองว่า จากนี้ไป ถ้าหากว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรที่เลวร้ายเกิดขึ้นมา หรือเมื่อผ่านไตรมาสที่สามไปแล้ว ทุกอย่างก็น่าจะโอเค ซึ่งตอนนี้เราไม่มีความกังวลอะไรเลย ปริมาณหนังและหน้าหนังที่จะเข้าฉายจากนี้ก็ถือว่าโอเค ดึงดูดคนดูได้แน่นอน โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่สี่ หนังฟอร์มใหญ่ทั้งสิ้น ซึ่งช่วงครึ่งปีหลังนี้มีสินค้ากลุ่มมือถือ และคอนซูเมอร์ที่เข้ามาซื้อสื่อโฆษณาในเมเจอร์ฯมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยอมรับว่า ช่วง 5 เดือนที่ผ่านมานี้ การทำธุรกิจหาลูกค้าค่อนข้างเหนื่อย เนื่องจากปัจจัยลบทั้งราคาน้ำมัน เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ปัญหาการเมืองที่ยังไม่แน่นอนต่างๆ แต่ในแง่ของผลประกอบการยังถือได้ว่าบริษัทฯทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ ส่วนหนึ่งมาจากการที่บริษัทฯแม่คือ เมเจอร์ฯ ยังคงมีการขยายสาขาโรงหนังตลอดเวลาทั้งในกรุงเทพฯและต่างตจังหวัด ทำให้มีพื้นที่ในการทำธุรกิจมากขึ้นด้วย ประกอบกับ การที่มีภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่เข้าฉายในช่วงที่ผ่านมาหลายเรื่อง ที่สามารถดึงคนให้มาดูหนังในโรงได้มากขึ้น เพราะต้องการหลบจากปัญหาต่างๆที่ทำให้เครียด
ด้วยปัจจัยลบที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เจ้าของสินค้าและบริการต่างก็จำเป็นต้องปรับแผนการใช้งบ มุ่งเน้นลงทุนสื่อโฆษณาที่สามารถเจาะเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจนจริงๆ ซึ่งสื่อโฆษณาโรงหนังถือเป็นสื่อที่เข้าตรงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว จึงทำให้สื่อโฆษณาในโรงหนังได้รับผลดีไปด้วยจากเจ้าของสินค้าและบริการที่เลือกใช้มากขึ้น และคาดว่าภาพรวมบริษัทฯจะโต 15-20%
สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวตำหนิว่า ระยะเวลาในการโฆษณาในโรงหนังนั้นมีมากเกินไป ส่งผลต่อความรู้สึกรำคาญของผู้ชมนั้น นายนิธิกล่าวว่า จริงๆแล้วปริมาณโรงหนังที่มีอยู่ทั้งหมดกว่า 300 โรงในภาพรวมนั้น จะมีประมาณ 10-15% เท่านั้นที่ใช้ระยะเวลาในการโฆษณาเต็ม 100% ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นโรงหนังขนาดใหญ่ทั้งสิ้น เช่น สาขารัชโยธิน และพารากอน ทั้งนี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากเวลาของการโฆษณาในสื่อทีวีในช่วงข่าวและละครที่จะมีสินค้าซื้อเต็มระยะเวลาที่กำหนด โดยปัจจุบันบริษัทฯมีอัตราส่วนของการขายโฆษณาในโรงภาพยนตร์เฉลี่ย 70-80%
ก่อนหน้านี้ บริษัท นีลเส็นมีเดียรีเสิร์ช จำกัด รายงานถึงมูลค่าตลาดรวมสื่อโฆษณาในโรงหนังว่า ในเดือนพฤษภาคม 2551 นั้นมีมูลค่ารวม 300 ล้านบาท ซึ่งลดลง 24.62% จากเดือนเดียวกันปี 2550 ที่มีมูลค่ารวม 398 ล้านบาท
ขณะที่ช่วง 5 เดือนแรกของปี 2551 มูลค่าตลาดสื่อโฆษณาโรงหนังรวมมีประมาณ 1,637 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.55% จากช่วงเดียวกันปี 2550 ที่มีมูลค่ารวม 1,612 ล้านบาท
|
|
|
|
|