ตระกูลกาญจนพาสน์วันนี้เป็นเจ้าของที่ดินย่านบางนาตราดนับพัน ๆ ไร่ ที่ผ่านการสะสมจากประสบการณ์ทำธุรกิจหลากหลายของมงคล
กาญจนพาสน์ หรือ อึ้ง จือ เม้ง พ่อค้าขายนาฬิกาญี่ปุ่นย่านเยาวราชที่ขายจนรวย
และเมื่อรวยขึ้นเขาก็ขยายฐานไปฮ่องกงและลงทุนอย่างหนักในฮ่องกงหลังจากฐานการเมืองยุคเก่าสั่นคลอนหลัง
14 ตุลา 16
วันนี้ของอึ้ง จือ เม้ง มีอายุ 77 ปีและมีตำแหน่งเป็นประธานอาณาจักรที่ชื่อว่า
"หว่ากีกรุ๊ป" ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่เข้าไปถือหุ้นในบริษัทสเตลักซ์
ซึ่งเป็นโรงงานผลิตอุปกรณ์นาฬิกาซึ่งสามารถเห็นได้ชัดทันทีเมื่อเครื่องบินร่อนลงสนามบินไดตั้กบริษัทที่ทำและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กีฬาพูม่า
ภัตตาคาร เทียนเทียน อีก 7 แห่งและกิจการโรงแรมชื่อ "โฮเต็ล เอเชีย"
นอกจากนี้ อึ้ง จือ เม้ง ยังทำธุรกิจด้านการพัฒนาที่ดินทั้งฮ่องกงและไทย
โดยในฮ่องกงเขาใช้ชื่อ ไหมฮอน ในการซื้อขายที่ดินและปลูกแฟลตขายประสบการณ์ของการเป็นไทคูน
(TYCOON) ของอึ้ง จือ เม้งในฮ่องกง เขาเคยประสบภาวะยากลำบาก เมื่อคราวเศรษฐกิจโลกแปรปรวนในปี
2521 ภาวะดอกเบี้ยแพงที่พุ่งจากสิบกว่าเปอร์เซ็นต์เป็นยี่สิบทำให้การพัฒนาที่ดินในฮ่องกง
ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเก็งกำไรและการปั่นราคาทรุดตัวลงทันทีเมื่อเจอดอกเบี้ยแพง
และวันนั้น อึ้ง จือ เม้ง ต้องขายธนาคารเมโทรโปลีแตนท์ทิ้งในราคากว่า 200
ล้านเหรียญฮ่องกง
สำหรับเมืองไทย มงคลมีบริษัทบางกอกแลนด์ทำธุรกิจด้านซื้อขายที่ดิน หมู่บ้านจัดสรรในชื่อโครงการหมู่บ้านเมืองทองนิเวศน์โครงการ
1-3 ซึ่งต้องประสบปัญหาภาวะเงินฝืดและต่อมาในปี 2527 ห้างสรรพสินค้าเมโทรก็ได้สร้างขึ้นโดยอาศัยฐานการเงินจากธนาคารนครหลวงไทยซึ่งตนเองเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่
และที่ห้างเมโทรนี้เองที่กลายเป็นศูนย์บัญชาการสำคัญของกิจการตระกูลกาญจนพาสน์ที่ระยะหลังลงทุนอย่างมหาศาลด้านพัฒนาที่ดินที่ตนถือครองอยู่
หลังจากกระแสการอพยพโยกย้ายทุนขนานใหญ่ของพ่อค้านักธุรกิจ ที่หวาดกลัวต่อการที่ฮ่องกงจะต้องอยู่ภายใต้การปกครองของจีนในปี
พ.ศ. 2540
ขณะนี้กิจการบริษัทที่ตั้งในไทยและทำธุรกิจต่าง ๆ ของเสี่ยเม้งได้แก่ โครงการเมืองทองธานีโครงการเมืองทองนิเวศน์
บริาทบางกอกแลนด์ บริษัทเมืองทองทรัสต์ บริษัทวาเคไทย (โฮลดิ้ง) ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์พูม่า
บริษัทธนายง บริษัทวาเคไทย (ไทยแลนด์) และบริษัทเมืองทอง ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาไซโก้
และมิโด้
มงคลมีลูกชายและลูกสาว 11 คน แต่ละคนก็ได้รับมอบหมายให้ดูแลกิจการของตระกูลอาทิ
อนันต์ กาญจนพาสน์ก็ดูแลในตำแหน่งกรรมการบริหารของหว่ากีกรุ๊ป และในไทยเขาเองก้เป็นผู้บริหารโครงการเมืองทองธานี
ในนามของบริษัทบางกอกแลนด์ บนเนื้อที่ 5,000 ไร่ บริเวณแจ้งวัฒนะโครงการนี้จะบันดาลให้ที่ดินแถบนั้นกลายเป็นชุมชนบ้านจัดสรรขนาดใหญ่
และเมื่อเร็ว ๆ นี้ คีรี กาญจนพาสน์ น้องชายอนันต์ก็ได้ก้าวเข้าสู่วงการเรียลเอสเตทไทยเขาจะนำเอาที่ดินของพ่อที่ริมถนนบางนา-ตราด
กม.14 จำนวน 1,500 ไร่ มาพัฒนาเป็นเมืองสมบูรณ์แบบชื่อ "ธนาซิตี้"
โดยใช้เงินลงทุนเกือบหมื่นล้านบาท ใช้เวลา 5 ปีก่อสร้างความฝันให้เป็นจริง
นับตั้งแต่สนามกอล์ฟขนาดมาตรฐาน 18 หลุม ซึ่งออกแบบโดย เกร็กนอร์แมน นักกอล์ฟมืออาชีพระดับโลก
สปอร์ตคลับพร้อมบ้านระดับเศรษฐี 64 หลัง คอนโดมิเนียมเลิศหรู 300 ยูนิต และคอนโดมิเนียมขนาด
61-85 ตร.ม.อีก 1,200 ยูนิต รวมทั้งห้างสรรพสินค้า โรงหนัง ฯลฯ
"ที่ดินที่นี่เราซื้อเขามาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว การลงทุนของเราใช้เงินเกือบหมื่นล้าน
แต่ว่าเราค่อย ๆ ทำ โดยระยะแรกจะใช้เงินประมาณ 2 พันล้าน และเวลาก่อสร้างด้านสาธารณูปโภค
2 ปีกว่าขณะเดียวกันก็สร้างสนามกอล์ฟเฟสแรก 9 หลุมให้เสร็จใน 1 ปีครึ่งและให้แล้วเสร็จที่เหลืออีก
เงินทุนก็กู้ยืมจากต่างประเทศ" คีรีเล่าให้ฟังก่อนจะออกเดินทางพร้อมกับเกร็ก
นอร์แมน เพื่อร่วมตีกอล์ฟการกุศลกับพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และรัฐมนตรีคลังอย่างประมวล
สภาวสุ เป็นต้น
ภาพในวันนี้ของทายาทอิ้ง จือ เม้ง หรือมงคล กาญจนพาสน์ ดูจะเป็นนักพัฒนาที่ดินที่น่าติดตามว่า
โครงการหมื่นล้านนี้จะเป็นจริงหรือการสร้างมูงค่าที่ดินเพื่อการเก็งกำไรในอนาคต