|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ธุรกิจรับจัดงานปีนี้จะไปรอด ต้องจับกลุ่มนีช ทาร์เก็ต หาความแตกต่าง เหตุลูกค้าพิถีพิถันการใช้เงินมากขึ้น ในภาวะเศรษฐกิจฝืด "นีโอ" ผันตัวรับสถานการณ์ เน้นการจัดการภายใน ปูพรมบุกตลาดต่างประเทศ พร้อมคว้างานภาครัฐเข้าช่วย 4-5 งาน มั่นใจพยุงรายได้โตอีก 10% เท่าปีก่อน แย้มปีหน้าปรับราคาบูธแน่
นางลัดดา มงคลชัยวิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็น.ซี.ซี เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์การแข่งขันของธุรกิจรับจัดงานตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา พบว่ายังมีการแข่งขันที่สูงอยู่ โดยลักษณะการจัดงานไม่แตกต่างกัน ธีมการจัดงานก็คล้ายๆกัน เหมือนเลียนแบบกันมา ขณะที่จำนวนผู้เข้าชมงานเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ถือว่าลดลงประมาณ 10-15% ซึ่งเกิดจากผู้บริโภคมีการระมัดระวังในการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงมองว่า ครึ่งปีหลังนี้ หากจะจัดงานขึ้น ควรจะมุ่งที่กลุ่มนีช ทาร์เก็ต มีการนำเสนอที่แตกต่าง จึงจะช่วยให้งานนั้นประสบความสำเร็จ และเป็นไปตามเป้าที่วางไว้
สำหรับนีโอเองนั้น พบว่าขณะนี้กำลังแบกรับต้นทุนต่างๆที่เพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% ซึ่งทางบริษัทฯได้มีการปรับการบริหารจัดการภายใน โดยเฉพาะในส่วนของบุคลากร ให้รับผิดชอบงานมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันในส่วนของการจัดงาน นอกจากที่เป็นงานของนีโอเองกว่า 9 งานที่จะจัดในแต่ละปีแล้ว ปีนี้บริษัทฯยังได้รับความไว้วางใจจากทางภาครัฐให้เป็นผู้จัดงานรวมกว่า 4-5 งาน ไม่ว่าจะเป็น งานเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ของกรมส่งออก, งานเหรียญกษาปณ์ ของกรมธนารักษ์ และงานของกระทรวงพาณิชย์ หรือแม้แต่ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ขณะที่งานของนีโอเองนั้น 6 เดือนที่ผ่านมา จัดไปแล้วประมาณ 3-4 งาน เช่น งานประชุมสัมมนาวิชาการสัตว์ปีกสุกร และวัวนม, งานเวดดิ้ง หรืออเมซิ่ง ไทยแลนด์ ส่วนงานในต่างประเทศปีนี้ ไปมาแล้ว 2 ประเทศ กับงานอินเด็กซ์ ที่เวียดนาม และอินเดีย ซึ่งในส่วนของต่างประเทศนั้น ทางบริษัทฯพยายามที่จะวางแผนงานที่จัดให้เป็นมากกว่าแค่งานแฟร์ แต่ต้องการให้เป็นสื่อกลางสำหรับการทำธุรกิจกับต่างประเทศด้วย
ล่าสุดสำหรับงาน Pet Expo Thailand 2008 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 31 ก.ค.-3 ส.ค. นี้ ณ ศูนย์สิริกิติ์ ปีนี้ทางบริษัทฯได้จัดโซน International Pavilion เปิดเวทีการเจรจาธุรกิจการค้าให้กับกลุ่มผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ คาดว่าจะมีนักธุรกิจจากต่างประเทศเข้าร่วมออกบูธประมาณ 30ราย ซึ่งหลังจากนี้บริษัทฯจะพาผู้ประกอบการประมาณ 10 ราย ร่วมออกบูธในประเทศจีนอีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี ได้มีช่องทางทำธุรกิจเพิ่มขึ้น
นางลัดดา กล่าวต่อว่า กลยุทธ์ที่วางไว้ในปีนี้ น่าจะช่วยผลักดันให้บริษัทฯยังคงมีการเติบโตเท่าปีที่ผ่านมา ประมาณ 10% อย่างไรก็ตามมีแนวโน้มว่า ปีหน้าในการจัดงานแต่ละครั้ง บริษัทฯจะมีการปรับราคาการเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ในปีนี้บริษัทฯยังคงราคาเดิม เพราะต้องการดึงลูกค้าไว้ในมือให้มากที่สุด
|
|
|
|
|