|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นายกสมาคมการขายตรงไทย ชี้ ธุรกิจขายตรงครึ่งปีหลัง ต้องออกแรงเหนื่อย หลังพบตลาดโตแค่ 7% ผู้ประกอบการปรับกลยุทธ์ ลดคอสต์เอื้อนักธุรกิจขายตรง พิษเศรษฐกิจพ่นตลาดถึงขนาดต้องประคองภาพรวมทั้งปีโต 7- 10 % ด้านสถาบันลดน้ำหนักตลาดไม่คึกคัก ศึกใช้พรีเซ็นเตอร์ชิงลูกค้าแผ่ว ผุดวิธีลดงบการตลาดลง ทั้งปีตลาดโต 20% ถือว่าเจ๋งแล้ว
แพทย์หญิง นลินี ไพบูลย์ นายกสมาคมการขายตรงไทย และประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงกิฟฟารีน เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ภาพรวมธุรกิจขายตรงในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโต 7% เท่านั้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัว และผลพวงจากราคาน้ำมัน ราคาสินค้าที่แพงขึ้น ทำให้ค่าครองชีพของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น จึงมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย
ดังนั้นคาดว่าแนวโน้มธุรกิจขายตรงในช่วงครึ่งปีหลัง ผู้ประกอบการคงต้องออกแรงในการดำเนินการตลาดในเชิงรุกให้มากขึ้น โดยเฉพาะการเอื้อให้นักธุรกิจขายตรงทำงานได้ง่ายมากขึ้น เช่น ผู้ประกอบการออกพบกับนักธุรกิจขายตรงแทนการเรียกประชุม เพื่อลดค่าใช้จ่ายเดินทาง โดยคาดว่าทั้งปีภาพรวมธุรกิจขายตรงเติบโต 7-10% ซึ่งว่าเป็นการเติบโตไม่มาก เมื่อเทียบกับภาวะเศรษฐกิจปกติธุรกิจขายตรงเติบโต 10-15%
สำหรับในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาผลประกอบการกิฟฟารีน มีอัตราการเติบโต 10.88% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเติบโตตามสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งหากเศรษฐกิจดี ธุรกิจขายตรงก็จะมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้น และจากการดำเนินการตลาดเชิงรุก ทั้งจากการกระตุ้นนักธุรกิจขายตรง และการมีสินค้าใหม่เปิดตัวอย่างต่อเนื่อง จะช่วยกระตุ้นให้ผลประกอบการทั้งปีของบริษัทมีอัตราการเติบโต 10%
มารีฟรานซ์ชี้ธุรกิจลดน้ำหนักวูบ
นางสาวศศิวีณ์ ซื่อตรง ผู้จัดการทั่วไป สถาบันลดน้ำหนักและสัดส่วนมารีฟรานซ์ บอดี้ไลน์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มสถาบันลดน้ำหนักมูลค่า 3,000 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 10 % หรือไม่เกิน 15% เท่านั้น ขณะที่ครึ่งปีแรกตลาดมีอัตราการเติบโต 18% เนื่องจากผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจ และมาจากผู้ประกอบการธุรกิจสถาบันลดน้ำหนักไม่ค่อยดำเนินกิจกรรมกระตุ้นตลาดมากนัก โดยเฉพาะกลยุทธ์การนำพรีเซ็นเตอร์ขึ้นมาใช้เป็นจุดขาย เพราะต้องการประหยัดงบในการทำตลาด
ทั้งนี้คาดว่าปีนี้ตลาดสถาบันลดน้ำหนักจะมีอัตราการเติบโต 20% ก็ถือว่าดีแล้ว ขณะนี้สถาบันลดน้ำหนักรายเล็กถึงกลาง ค่อนข้างได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจอย่างน้อย ส่วนภาพรวมตลาดก็ชะลอตัวตามไปด้วย ซึ่งปกติในช่วงไตรมาสสี่ จะมีการแข่งขันที่รุนแรง ไม่ว่าจะเป็น การโฆษณาประชาสัมพันธ์ โปรโมชัน การจัดกิจกรรม เป็นต้น แต่ปีนี้คาดว่าจะแผ่วลง สำหรับมารีฟรานซ์ผลประกอบการทั้งปีคาดว่ามีอัตราการเติบโต 30% โดยในช่วงครึ่งปีแรกมีอัตราการเติบโต 15%
|
|
|
|
|