Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2532








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2532
ผมเชื่อว่า จีนจะถอยหลังไปอีก 10 ปี             
 

   
related stories

ข้อมูลดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ

   
search resources

ภูวดล ทรงประเสริฐ
Economics
China




การที่ผู้นำปักกิ่งตัดสินใจใช้กำลังทหารเข้าปราบนักศึกษาประชาชนที่เทียนอันเหมิน มันมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงมากกมายทั้งในด้านเศรษฐกิจการลงทุน และการเมืองในจีน อย่างน้อยที่สุดผมว่ามี 2 ประเด็นคือ หนึ่ง-ฐานะการเมืองระหว่างประเทศของรัฐบาลจีนตกต่ำลงอย่างมากในสายตาผู้นำรัฐาบาลประเทศมหาอำนาจตะวันตก จะเห็นได้ว่ามีการบอยคอตเงินช่วยเหลือ และยุติการเจรจาความเมืองกับจีนทันที สอง-ฐานะความเชื่อมั่นในบรรยากาศการลงทุนในจีนตกต่ำลงอย่างน่าใจหาย แม้ว่าจีนจะมีตลาดที่กว้างใหญ่ และกำลังมีความต้องการนำเข้าเทคโนโลยีการผลิตชั้นสูงจากญี่ปุ่นและโลกตะวันตกอยู่ก็ตาม ตรงประเด็นนี้ไม่ต้องดูอื่นไกลเอากันแต่ที่ฮ่องกงก็พอ

ทันทีหลังเหตุการณ์นองเลือดเทียนอันเหมินความเชื่อมั่นต่อจีนหลังการเข้าครอบครองฮ่องกงในปี 1997 ในสายตานักลงทุนทั้งจากจีนโพ้นทะเลและยุโรปตะวันตก มันหดหายหมดเลย ทุนที่อยู่ในฮ่องกงจำนวนไม่น้อยมันไหลออกไปซานฟรานซิสโก แคนาดา และออสเตรเลีย ขณะที่จีนเองก็มองฮ่องกงในฐานะเป็นแหล่งสะสมทุนที่ใหญ่ที่สุด บริษัท CHINA RESOURCE และแบงก์ออฟไชน่า (BANK OF CHINA) ของรัฐบาลจีน ทุกวันนี้เข้าไปถือหุ้นในบริษัทใหญ่ ๆ ของฮ่องกง เช่น CATHAY PACIFIC 30% แล้ว หรือแม้แต่ธุรกิจบริการด้านสาธารณูปโภคพวกรถเมล์ อุโมงค์ ที่อยู่ในรูปธุรกิจร่วมทุนอย่างน้อย 50% เป็นของ CHINA RESOURCE หรือไม่ก็ BANK OF CHINA ถือหุ้นอยู่ แสดงว่าจีนพร้อมเข้าครอบครองเศรษฐกิจฮ่องกงในปี 1997 แล้ว

การพัฒนาความทันสมัยของจีนมันมีปัจจัย 3 ประการที่จีนต้องพึ่งพิง หนึ่ง-การลงทุนจากชาวจีนโพ้นทะเลในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) สอง-การใช้ฮ่องกงเป็นฐานะสะสมทุน แล้วดูดซับกลับสู่จีนและ สาม-การพึ่งเทคโนโลยีการผลิตจากญี่ปุ่นและยุโรปตะวันตก

รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับการลงทุนของชาวจีนโพ้นทะเลมาก ถึงกับมีหน่วยงานกิจการชาวจีนโพ้นทะเลมาก ถึงกับมีหน่วยงานกิจการชาวจีนโพ้นทะเลมี เตี๋ย กวงลี ซึ่งเป็นลุงของ กำจาย เอี่ยมสุรีย์ เป็นผู้มีอำนาจเบอร์ 2 รองจาก ชีเฟงเฟ่ย ควบคุมดูแลอยู่ นักลงทุนจากไทย ฮ่องกง สิงคโปร์ อินโดนีเซีย จึงโดดเข้าไปลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษมากมาย เพราะสิ่งล่อใจในสิทธิพิเศษต่าง ๆ ต้องไม่ลืมว่านักลงทุนชาวจีนโพ้นทะเลเหล่านี้มีความรู้ความสามารถในการทำธุรกิจสมัยใหม่ ยกตัวอย่างกลุ่มซีพีจากไทยที่ไปลงทุนผลิตจักรยานอาหารสัตว์ในจีน เขาให้ฐานผลิตในจีน เพื่อส่งออกเป็นจุดมุ่งหมายหลัก เพราะต้นทุนผลิตในจีนและสิทธิพิเศษทางภาษีมันเอื้ออำนวย พอมีกำไรก็สามารถดึงผลกำไรออกจากจีนเข้าสู่ฮ่องกงและไทยได้ง่าย

นายตันซีเฮี้ยงก็เหมือนกัน เรือตั้งธนาพรของเขาวิ่งจากฮ่องกงไปซัวเถาวันเว้นวันตลอดเวลามานานแล้ว แล้วการท่องเที่ยวจากไทยผ่านฮ่องกงเข้าซัวเถามันบูมขนาดไหนก็ทราบกันดีอยู่

เฉพาะในเขตเศรษฐกิจพิเศษซัวเถาซึ่งเป็นแต้จิ๋ว การลงทุนกว่า 85% เป็นคนแต้จิ๋วจากไทยและสิงคโปร์ เขตเศรษฐกิจฯที่ฮกเกี้ยน การลงทุนมาจากสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ซึ่งชาวจีนส่วนใหญ่ของประเทศนี้เป็นฮกเกี้ยน

ในเฉินเจิ้นก็เช่นกัน กลุ่มนักลงทุนแต้จิ๋วจากไทย ฮ่องกงก็เข้าไปลงทุนร่วมกับญี่ปุ่นและสหรัฐฯที่มีเทคโนโลยีชั้นสูง ยกตัวอย่าง เกียรติ ศรีเฟื่องฟุ้งลงทุนร่วมกบกลุ่มพีพีจี อินดัสเตรียลขอวสหรัฐฯและรัฐบาลจีน ผลิตกระจกแผ่นเรียบ (FLOAT GLASS) โดยตกลงกันว่ากลุ่มศรีเฟื่องฟุ้งรับผิดชอบด้านการตลาด พีพีจีรับผิดชอบด้านเทคโนโลายีการผลิต กลุ่มซีพีร่วมทุนกับบริษัทคอนติเนนตัล ก่อตั้งบริษัทคอนติ-เจียไต๋ ผลิตอาหารสัตว์

ทีนี้พอจีนเกิดวิกฤติการณ์นองเหลืดที่เทียนอันเหมิน เหตุการณ์มันไม่หยุดที่นั่น มันลามไปทั่วกลุ่มช่างเทคนิคต่าง ๆ โดยเฉพาะพวกญี่ปุ่นและสหรัฐฯ และยุโรป มันถอนกลับประเทศหมด เพราะกลัวภัยลูกหลงจากการเข้ากวาดล้างนักศึกษาประชาชนที่ก่อหวอดต่อต้านรัฐ่าบาลของรัฐบาลจีน การบริหารการผลิตต่าง ๆ มันก็ชะงักหมด คนจีนเป็นเพียงแต่กรรมกรค่าจ้างถูก ๆ จะไปรับช่วงต่อได้อย่างไร เพราะขาดทักษะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง โครงการลงทุนที่กำลังวางแผนกันอยู่ทุกอย่างทุกโครงการมันชะงักหมด เพราะความเชื่อมั่นในบรรยากาศเมืองสังคมจีนมันไม่มี มันสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลจีนไม่มีความมั่นคงในการปกครองประเทศและประชาชนแล้ว

สภาพเช่นนี้ผมเห็นว่าศักยภาพการพัฒนาเศรษฐกิจสู่ความทันสมัยของผู้นำในปักกิ่งมันถอยหลังลงคลองแล้วอย่างน้อย 10 ปี กว่าจะเข้าสู่สภาพปกติ เพราะจีนมีแผ่นดินกว้างใหญ่ มันมีโครงสร้างเศรษฐกิจสังคมขนาดยักษ์สลับซับซ้อนมาก นักลงทุนต่าง ๆ โดยเฉพาะชาวยุโรปมันรู้จักจีนจากประวัติศาสตร์เป็นอย่างดี มันไม่กล้าเข้าไปลงทุนอย่างง่าย ๆ หรอก

อีกจุดหนึ่งที่ผมเห็นว่าจีนต้องถอยหลังลงไปอีก 10 ปี คือศักยภาพในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวซึ่งเป็นที่มาของการไหลเข้าด้านเงินทุนที่เป็นเงินตราต่างประเทศอย่างมหาศาล กลุ่มนักท่องเที่ยวต่าง ๆ จากทั่วโลกที่เข้าจีนโดยผ่านฮ่องกง มันหยุดหมด แม้จะพูดว่ามันเป็นเหตุการณ์ระยะสั้น ๆ ก็ตามแต่ต้องไม่ลืมว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมันอ่อนไหวมาก ถ้าลองประเทศไม่มีความเชื่อมมั่นในความปลอดภัย หรือภาพพจน์เสถียรภาพทางการเมืองตกต่ำ ไม่มีนักท่องเที่ยวที่ไหนหรอกกล้าเข้าไปผมว่าจีนจะประสบปัญหาเงินตราต่างประเทศจากการท่องเที่ยวไหลเข้าน้อย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อฐานะดุลบริการขาดดุล จุดนี้ผมว่าอันตราย เพราะมันจะเชื่อมโยงผลต่อฐานะดุลชำระเงิน และเงินสำรองระหว่างประเทศ (REDIT STANDING ของจีนจะเสียหายหมด และในที่สุดจีนก็จะถอยหลังไปนับ 10 ปี ด้วยเหตุนี้ผมเชื่อจริง ๆ

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us