27 พฤษภาคม 2543 เป็นวันที่วิชัย พันธุ์โภคา บินกลับไปรับตำแหน่งงานใหม่ เป็นผู้บริหารในฝ่าย
Risk Management ที่สำนักงานใหญ่เดรสเนอร์ แบงก์ เอจี ในกรุงแฟรงเฟิร์ต ประเทศเยอรมนี
หลังจากกลับมาใช้ชีวิตในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศบ้านเกิดได้เพียง 8 ปี
แต่ 8 ปีที่อยู่ในเมืองไทย ชื่อของ วิชัย กลับเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง
เพราะความ ที่เป็นคนที่กล้าพูด กล้าวิจารณ์ และมีความสามารถในการอธิบายศัพท์ทางวิชาการให้เข้าใจได้โดยง่าย
ที่สำคัญคือ เขาเป็นผู้ที่พยายามศึกษา และหาประสบการณ์จากวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจต่างๆ
ที่เกิดขึ้นหลายครั้งทั่วโลก
ดังนั้น เขาจึงได้รับเชิญไปร่วมงานสัมมนาต่าง ๆ หลายรายการ โดยเฉพาะการพูดในมุมมองของตัวแทนธนาคารต่างประเทศ
ที่เข้ามาทำธุรกิจใน ประเทศไทย
ความจริงวิชัยเป็นคนมีจิตใจรักชาติ ผลงาน ที่โดดเด่นคือ การที่เขาออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานขององค์การปฏิรูปสถาบันการเงิน
(ปรส.) เมื่อ ครั้งอมเรศ ศิลาอ่อน ยังเป็นประธาน ในปี 2541 เนื่องจากเห็นว่า
ปรส.มีการดำเนินงาน ที่ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบ จนทำให้ภาพของคนทั้ง 2 เหมือนยืนอยู่คนละด้านอย่างเห็นได้ชัด
แม้ในระยะหลัง บทบาทของวิชัยดูจะเงียบลงไปบ้าง เพราะถูกบุคคลบางกลุ่ม ที่ไม่หวังดีปล่อยข่าวว่า
เขาเป็นตัวแทนของสถาบันการเงินต่างชาติ ที่จ้องเข้ามาหาผลประโยชน์ในประเทศไทย
ดังนั้น ข้อมูลที่พูดออกมา จึงอาจ เชื่อถือไม่ได้
แต่ถึงที่สุดแล้วสื่อมวลชนอีกหลายคน ก็ยังให้ความเชื่อถือในตัวของวิชัย
และกลับไปสอบถามความเห็นของเขาต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเช่นเดิม
"วิชัยเป็นตัวแทนเดรสเนอร์ แบงก์ ซึ่งเป็นสถาบันการเงินต่างชาติก็จริง แต่เป็นสถาบันการเงินจากยุโรป
ที่มีเป้าหมายการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แตกต่างจากสถาบันการเงินของอเมริกัน"
คนใกล้ชิดกับวิชัยพยายามอธิบาย กับ "ผู้จัดการ"
การกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในเยอรมนีอีกครั้งของวิชัย อาจทำให้แวดวงการเงินไทย
ต้องขาดสีสันลงไปบ้าง ไม่มากก็น้อย
วิชัยได้ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ ที่เยอรมนี โดยเริ่มตั้งแต่การเดินทางไปศึกษา
ระดับ High School ที่เนินแบร์ก เมืองโคโลญจ์ ในปี 2507 จนจบระดับ ปริญญาตรี
และโทด้านเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยโคโลญจ์ ในปี 2515
หลังจบปริญญาโท วิชัยเข้าทำงานกับเดรสเนอร์แบงก์ทันที เริ่มจากการเป็น Trainee
ship ในสำนักงานใหญ่ และได้ย้ายเข้ามาอยู่ในฝ่าย Risk Management/Credit
Department ในปี 2518
วิชัยทำงานอยู่กับเดรสเนอร์แบงก์อยู่ 11 ปี ก็ได้ย้ายไปอยู่กับแบงก์ กรุงเทพ
สาขาเมืองฮัมบูร์ก โดยเข้าไปดูแลในฝ่าย Loan & Credit Department ในปี 2527
แต่เขาก็อยู่กับแบงก์กรุงเทพได้เพียง 4 ปี ก็ต้องกลับเข้ามาทำงานกับเดรสเนอร์แบงก์อีกครั้ง
โดยเข้ามารับตำแหน่ง Assistant Vice President & Head of Credit Analysis
ที่สำนักงานใหญ่ ในปี 2530
เมื่อเดรสเนอร์แบงก์มีนโยบาย ที่จะเข้ามาตั้งสำนักงานในประเทศไทย ในปี 2535
วิชัยได้รับความไว้วางใจจากสำนักงานใหญ่ให้กลับเข้ามาทำงาน ในประเทศไทย และ
ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการผู้จัดการในปีต่อมา
จากนั้น ในปี 2538 เมื่อเดรสเนอร์ แบงก์ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังให้เปิดเป็นสาขาเต็มรูปแบบ
เขาก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ของธนาคารเดรสเนอร์แบงก์
สาขาประจำประเทศไทยเป็นคนแรก
"ผมเข้ามาทำงานในเดรสเนอร์แบงก์ สาขาประเทศไทยแบบเงียบๆ เพราะไม่รู้ว่าจะประกาศไปทำไม
แต่ถ้าหากเมื่อใด ที่เศรษฐกิจดีขึ้นแล้ว ผมก็จะออกไปอย่างเงียบๆ เช่นเดียวกับตอนมาใหม่ๆ"
วิชัยเคยเล่ากับ "ผู้จัดการ" ("ผู้จัดการ" ฉบับเดือนมกราคม 2542)
การกลับไปเยอรมนีในครั้งนี้ เงียบตามความต้องการของวิชัย เพราะมีแค่งานเลี้ยงส่งอำลาจากบุคคลในวงการผู้ใกล้ชิดเพียงไม่กี่คนเท่านั้น