Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 มิถุนายน 2551
LPNแบ่งล็อตคอนโดฯขายหวังขึ้นราคาบริหารความเสี่ยงตามต้นทุน             
 


   
www resources

โฮมเพจ แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์

   
search resources

แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์, บมจ.
Real Estate
โอภาส ศรีพยัคฆ์




แอล.พี.เอ็น.ปรับกลยุทธ์การขาย หลังต้นทุนพุ่งรายวัน ล่าสุดแบ่งคอนโดฯ ลุมพินี เพลส พระราม 9 ขายที่ละล็อต หลังจากนั้นปรับขึ้นราคาเมื่อเปิดขายล็อตใหม่ เพื่อให้เหมาะกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น คาดปรับเพิ่มขึ้น 10% ตามต้นทุน จากปีที่แล้วปรับขึ้นเพียง 5% เท่านั้น ผู้บริหารยันกำไรสุทธิใกล้เคียงปีที่แล้ว เหตุได้ลดภาษี

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ต้นทุนก่อสร้างปรับขึ้นสูงมากในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้กำไรขั้นต้นของบริษัทลดลง และที่ผ่านมาได้บริหารต้นทุน พยายามลดค่าใช้จ่าย ซึ่งช่วยลดต้นทุนไปได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ จากมาตรการลดภาษีอสังหาริมทรัพย์ พอช่วยให้ค่าใช้จ่ายได้อีอกทางหนึ่งด้วย

อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทพัฒนาโครงการอาคารสูง คอนโดมิเนียม ซึ่งมีระยะเวลาในการก่อสร้าง 1-2 ปี ทำให้มีความเสี่ยงทางด้านต้นทุนที่ผันแปรอยู่แล้ว ดังนั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยง ทางบริษัทจึงได้ปรับแผนการขายโครงการใหม่ โดยแบ่งล็อตการขาย และเมื่อเปิดขายล็อตใหม่ก็จะปรับขึ้นราคาตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี รูปแบบนี้ได้นำมาใช้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยปรับราคาขึ้นนับจากวันเปิดขายโครงการครั้งแรก จนกระทั้งปิดการขายจะปรับขึ้นเฉลี่ย 5% แต่ในครั้งนี้เชื่อว่าจะปรับขึ้นประมาณ 10% ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมา 10% เช่นเดียวกัน

“ยอมรับว่า ที่ผ่านมาเราได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เพราะเราพัฒนาอาคารสูง ก่อสร้างนานกว่าแนวราบ แต่เชื่อว่าภายหลังได้ปรับกลยุทธ์ต่างๆใหม่แล้ว อีกทั้งประโยชน์ทางภาษี จะทำให้ในปีนี้จะสามารถรักษากำไรสุทธิไว้ได้เท่ากับปีที่แล้ว ที่ทำได้ประมาณ 16%”

ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวโครงการ “ลุมพินี เพลส พระราม 9 – รัชดา” ใกล้แยกอสมท ติดถนนใหญ่ บนเนื้อที่ 15 ไร่ แบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 เฟสๆ ละ1,165 ยูนิต มูลค่ารวม 5,200 ล้านบาท เป็นโครงการที่มีมูลค่ามากที่สุดที่เคยทำมา และจะเริ่มเปิดขายโครงการในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ เพียง 1 วัน จำนวน 30% ของเฟสแรก ราคาเริ่มต้นที่ 51,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำ โดยโครงการในย่านดังกล่าวเฉลี่ยราคา 65,000 บาท/ตร.ม. หลังจากนั้นจะทำการเปิดขายใหม่อีกครั้งในราคาที่ปรับขึ้นใหม่ ซึ่งคาดว่าในช่วงเปิดตัวจะสามารถสร้างยอดขายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ในโครงการดังกล่าวยังได้นำแนวความคิดด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมภายใต้คอนเซ็ปต์ “LPN Green” มาใช้ในการพัฒนา เริ่มตั้งแต่การออกแบบโดยคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน เช่น ออกแบบและวางอาคารเหมาะกับทิศทางลม การใช้กระจกสองชั้นกันความร้อนและเสียง การบำบัดน้ำเสียกับมาใช้ในพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ ฯลฯ

นายโอภาส กล่าวต่อว่า การพัฒนาโครงการของบริษัทในปีนี้ จะเน้นไปที่ตลาดกลาง-ล่าง ในแบรนด์คอนโดฯทาวน์ โดยสินค้าที่จะพัฒนาออกมาจะมีราคาเฉลี่ยประมาณ 1 ล้านบาท จากปีที่แล้วประมาณ 2 ล้านบาท และจากการหันมาจับตลาดกลาง-ล่าง ทำให้ในปีที่ผ่านมา บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดคอนโดฯ 20% เกือบ 10,000 ยูนิต จากยอดจดทะเบียนในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลจำนวน 30,000 ยูนิต ส่วนในปีนี้ คาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 30% สำหรับความก้าวหน้าของยอดขายในช่วง 5 เดือนแรกนี้ จำนวน 4,000 ล้านบาท และคาดว่าครึ่งปีแรกจะมียอดขายจำนวน 5,000 ล้านบาท

“สำหรับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จากปัญหาราคาน้ำมันแพงและการเมืองในปัจจุบัน ยังไม่ส่งผลกระทบต่อยอดขาย โดยในช่วง 5 เดือนแรกนี้มีอัตราการขายเฉลี่ยที่ 120 ยูนิต/สัปดาห์ ส่วนในปีที่แล้วยอดขายเฉลี่ยทั้งปี 130 ยูนิต/สัปดาห์ แม้ว่าจะต่ำกว่า 10 ยูนิต แต่ก็ถือว่าไม่ได้ต่ำมาก เพราะเป็นยอดขายเฉลี่ย 5 เดือนแรกเท่านั้น "นายโอภาสกล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us