Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์16 มิถุนายน 2551
โฮมมาร์ทรับมือเศรษฐกิจผันผวน ชูกลยุทธ์ Innovative CRM             
 


   
www resources

โฮมเพจ เครือซิเมนต์ไทย

   
search resources

เครือซิเมนต์ไทย
ขจรเดช แสงสุพรรณ
Tools and Equipment




โฮมมาร์ทชูInnovative CRM รับสารพัดปัจจัยลบรุมเร้า ทั้งการเมือง เศรษฐกิจตก กำลังซื้อหด ตั้งเป้าปรับโฉมตัวแทนจำหน่ายเป็นร้านโฮมมาร์ทรุปแบบใหม่ใน 3 ปี เผยยอดขาย 5 เดือนแรกโตฉลุย 20% มั่นใจปลายปีรักษาเก้าอี้ผู้นำตลาดแน่น

การแข่งขันของธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างที่รุนแรงขึ้นทุกวัน ไม่เพียงแต่จะทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่งขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่แล้ว การรักษายอดขายและส่วนแบ่งการตลาดก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ม เพราะการทำธุรกิจแค่เพียงย่ำอยู่กับที่ คู่แข่งก็จะแซงหน้าไปอย่างไม่ยากนัก

ธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างในเครือซิเมนต์ไทยหรือปูนใหญ่เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่ปูนใหญ่ให้ความสำคัญ เพราะเป็นธุรกิจหลักที่สามารถสร้างรายได้เข้าองค์กรอย่างงดงามทุกปี อีกทั้งยังมีอัตราเติบโตด้วยตัวเลข 2 หลักมาตลอด ทำให้ปูนใหญ่ต้องเร่งสปีคตัวเองหนีคู่แข่งตลอดเวลา

ล่าสุด ร้านโฮมมาร์ท ซึ่งเป็นศูนย์จำหน่ายวัสดุก่อสร้างครบวงจร ได้ปรับตัวด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการสร้างยอดขาย ภายใต้ระบบ Innovative CRM ซึ่งจะช่วยงานขายได้เป็นอย่างดี โดยโฮมมาร์ทได้เริ่มนำระบบดังกล่าวเข้ามาทดลองใช้มาตั้งแต่ปี 2548 ทำให้ยอดขายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะซบเซา กำลังซื้อจะหดหายก็ตาม โดยในช่วง 5 เดือนแรก มียอดขายรวมประมาณ 15,500 ล้านบาท มีอัตราเติบโตขึ้นประมาณ 20% ยอดขายดังกล่าวเฉพาะผ่านทางร้านโฮมมาร์ท ไม่รวมยอดขายผ่านร้านค้าปลีกทั่วไปที่ยังไม่ได้ปรับเป็นร้านโฮมมาร์ทเต็มรูปแบบ

ระบบ Innovative CRM ถูกพัฒนาขึ้นในปี 2548 โดยร่วมมือกับผู้แทนจำหน่ายเพื่อพัฒนาฐานข้อมูลของกลุ่มลูกค้าปลายทาง ( End User) เพื่อใช้ในการวางแผนการตลาด ด้วยงบประมาณกว่า 200 ล้านบาท และในปี 2549 โฮมมาร์ทได้จัดทำโครงการ Dealer Integration&Collaboration เพื่อเชื่อมข้อมูลของผู้แทนจำหน่ายกับระบบ CRM ด้วยการเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ระหว่างร้านโฮมมาร์ททั่วประเทศกับส่วนกลาง จัดทำข้อมูลรายละเอียดลูกค้า เพื่อให้รู้จักลูกค้าเป้าหมายทุกกลุ่ม ทั้งพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้า และความต้องการของลูกค้า และข้อมูลดังกล่าวจะถูกนำไปวางแผนการขายและการตลาดร่วมกันระหว่างร้านโฮมมาร์ท และผู้แทนจำหน่าย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน คาดว่า ภายในสิ้นปี 2551 โฮมมาร์ทจะมีผู้แทนจำหน่ายเข้าร่วมโครงการมากกว่า 200 ราย จากปัจจุบันที่มีกว่า 80 ราย

ขจรเดช แสงสุพรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจจัดจำหน่ายในเครือซิเมนต์ไทย (SCG Distribution ) เปิดเผยว่า “สถานการณ์ทั่ว ๆ ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเมืองและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้การทำตลาดของเครือซิเมนต์ไทยค่อนข้างเหนื่อย แต่ตลาดวัสดุก่อสร้างยังมีอัตราเติบโต เฉลี่ยเติบโตเพียง 2-3% ขณะที่ต้นทุนการผลิตยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากวัสดุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปูน และน้ำมันซึ่งเป็นปัจจัยหลักของกระบวนการผลิต ทำให้การทำตลาดต้องวางแผนอย่างรอบคอบ โดยร้านโฮมมาร์ทได้ปรับตัวไปบางส่วนในช่วงปี 2548 ทำให้ปัจจุบันยังรับมือกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้ดี และยอดขายยังเติบโตขึ้นถึง 20%”

ขณะที่กฤช กุลเนตุ กรรมการผู้จัดการ บจก.SCG Network Management กล่าวว่า “ระบบ Innovative CRM จะช่วยให้เรารู้ว่าลูกค้าขาดสินค้าอะไรบ้าง ทางทีมขายก็จะนำเสนอสินค้าให้ลูกค้าพิจารณาซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้มียอดขายเพิ่มขึ้น เพราะมีโอกาสเข้าถึงลูกค้าได้รวดเร็วกว่าคู่แข่ง เพราะระบบดังกล่าวทำให้เราเข้าถึงลูกค้าขั้นสุดท้าย และตัวแทนจำหน่าย”

ในปี 2549 มีผู้แทนจำหน่ายร่วมในระบบนี้ 30 ราย คิดเป็น 15% ของตัวแทนจำหน่ายทั้งหมด และในปี 2550 เพิ่มเป็น 100 ราย คิดเป็น 35% ส่วนปีนี้จะเพิ่มเป็น 200 ราย คิดเป็น 70% และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 100% ในปี 2554   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us