Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 มิถุนายน 2551
เกรย์มารเกตแข่งเดือดชิงยอดขายโตโยต้าอัลพาร์ดใหม่             
 


   
search resources

Automotive
เอส.อี.ซี.ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส, บมจ.




ตลาดรถยนต์นำเข้าอิสระบูมรับอานิสสงค์จาก โตโยต้าอัลพาร์ด รุ่นใหม่ คาดปริมาณความต้องการของรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นนี้มีมากถึงปีละกว่า 1,000 คัน เกรย์มาร์เก็ตรายใหญ่เล็กแข่งกันวิ่งหารถยนต์นำเข้าส่งให้ลูกค้า พร้อมสารพัดกลเม็ดการตลาด ลด-แถม นอกเหนือจากการใช้บริการหลังการขายมัดใจลูกค้า

ใน 1-2 ปีที่ผ่านมารถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด เป็นรถที่ได้รับความนิยมสูงจากตลาดรถยนต์นำเข้าอิสระ ด้วยยอดขายรวมปีละกว่า 1,000 คัน โดยเฉพะรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด บรรดาบริษัทผู้นำเข้าอิสระสามารถทำยอดขายรถยนต์รุ่นนี้ในปริมาณกว่า 50% ของยอดขายรถยนต์ที่ทำได้

ล่าสุดโตโยต้า มีการปรับโฉมโตโยต้า อัลพาร์ดใหม่ ทำให้หลังการเปิดตัวในต่างประเทศไม่กี่เดือน เกรย์มาร์เก็ตเกือบทุกรายทั้งใหญ่ เล็กต่างแย่งชิงโควตานำเข้าจากต่างประเทศเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่รอโตโยต้า อัลพาร์ดโฉมใหม่

ไพบูลย์ สุขธรรมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส.อี.ซี.ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด บอกว่า ตลาดรถเอ็มพีวีในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เพราะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นกลุ่มครอบครัว หรือ นักบริหาร ปัจจุบันรถยนต์เอ็มพีวีที่มีจำหน่ายโดยผู้นำเข้าอิสระนั้นมีเพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้น อาทิ โตโยต้า อัลพาร์ด ,โตโยต้า แอสติมา โดยมีฐานลูกค้ามากกว่า 10,000 คัน

ด้วยอัตราการตอบรับของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ค่ายผู้นำเข้าอิสระหลายรายมุ่งที่จะรุกตลาดนี้ ล่าสุดเมื่อมีรถยนต์ในโมเดลใหม่อย่าง โตโยต้า อัลพาร์ด ใหม่ เปิดตัวในตลาดโลก ก็ทำให้เหล่าผู้นำเข้าหลายรายต่างมุ่งมั่นที่จะเป็นเจ้าแรกในการนำเข้ามาจำหน่ายตลาดในประเทศ

สำหรับ “ โตโยต้า อัลพาร์ด ใหม่” เป็นรถหรูอเนกประสงค์ขนาด 7 ที่นั่ง ซึ่งในรุ่นใหม่นี้ได้รับการพัฒนามาจาก FT-MV (Future Toyota MiniVan) มีการดีไซน์ภายใน ภายนอก ใหม่หมด ขณะที่เครื่องยนต์มีให้เลือก 2 แบบคือ 2400 ซีซี. และ 3500 ซีซี . นอกจากนั้นแล้วยังมีการติดตั้งเทคโนโลยีไฮเทคไม่ว่าจะเป็นเบาะแบบMemory Seat ,ไฟ ECO ที่ช่วยบอกถึงสถานะการขับขี่ของผู้ขับขี่ เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน

ด้วยความโดดเด่นของรถยนต์ในรุ่นใหม่นี้ ประกอบกับความต้องการของตลาดสูง ส่งผลให้ค่ายผู้นำเข้าอิสระต่างชิงความได้เปรียบในการนำเข้ามาจำหน่ายยังตลาดในประเทศ โดยค่ายทีเอสแอลถือเป็นเจ้าแรกที่มาวินและชิงความได้เปรียบในการเปิดตัวรถยนต์รุ่นนี้ต่อสายตาของสื่อมวลชน ซึ่งในวันเปิดตัวค่ายทีเอสแอลได้วางหมากให้การเปิดตัวนี้เป็นทอล์กออฟเดอะทาว์น ด้วยการนำเซเลบริตี้ - ดารา – นางแบบ ชื่อดังมาร่วมสร้างสีสันในการเปิดตัวรถยนต์ อาทิ โอเด็ด , ดร.กฤติกา คงสมพงษ์ ,อิ๊บ ยุภาพักตร์ วัชราภัย ,ภัทร จึงกานต์กุล , ชาย อนันต์ทวีป

ขณะที่การวางกลยุทธ์รุกตลาดนั้น มีการมอบโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าที่จอง รับสิทธิพิเศษคือห้องพักสวีตของโรงแรมปาร์คนายเลิศ ส่วนลูกค้าที่ซื้อรถยนต์รุ่นนี้แถมชุดเครื่องเสียงและลำโพงชุดใหญ่ พร้อมจอสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง สนนราคาของโตโยต้า อัลพาร์ด ใหม่ ของค่ายนี้อยู่ที่ 3.65 ล้านบาทในรุ่น 2400 ซีซี. และ 4.95 ล้านบาทในรุ่น 3500 ซีซี

ด้านค่ายเอส.อี.ซี.ฯที่แม้ว่าจะเปิดตัวห่างกันไม่กี่ชั่วโมง แต่ด้วยชื่อชั้นที่เหนือกว่า ทำให้ยอดจองของรถในรุ่นใหม่มีกว่า 50 คัน ขณะที่โปรโมชั่นของค่ายนี้เป็น แถมชุด มัลติมีเดีย ที่เล่นได้ทั้ง ซีดี,ดีวีดี,เอ็มพี3 ,ทีวี และรองรับบลูทูธ พร้อมลำโพง 8 ทิศทาง และยูเอสบีพอร์ท สนนราคาของโตโยต้า อัลพาร์ดใหม่ของค่ายนี้อยู่ที่ 3.65 ล้านบาทในรุ่น 2400 ซีซี. และ 4.65 ล้านบาทในรุ่น 3500 ซีซี. ล่าสุด เอส.อี.ซี.มียอดจองมาแล้วกว่า 50 คัน

ส่วนค่ายอีตันที่เปิดตัวล่ากว่าค่ายอื่นๆเพียง 1 วัน แต่สร้างความฮือฮาด้วยการเล่นกลยุทธ์ราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งในตลาด โดยในรุ่น 2400 ซีซี. อยู่ที่ 3.55 ล้านบาท และในรุ่น 3500 ซีซี. อยู่ที่ 4.55 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับทั้ง 2 ค่ายที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ถือว่าราคาห่างกันกว่า 100,000 บาทเลยทีเดียว นอกจากนั้นค่ายอีตันยังงัดเอากลยุทธ์ด้านโปรโมชั่นอย่าง 50 คันแรกมีลุ้นเลขทะเบียนสวย ,ที่พักฟรีบนเกาะพีพีและพัทยา ,คอร์สสปา และสมาชิกฟิตเนสฟรี

อัจฉรีย์ ตันติยันกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท อีตั้น อิมปอร์ท จำกัด เปิดเผยว่า สาเหตุที่ราคาขายของค่ายอีตั้นถูกกว่าค่ายอื่นๆ เนื่องจากมีความแตกต่างกันทางด้านออฟชั่น อย่างไรก็ตามอีตั้นมองว่าออฟชั่นต่างๆที่ได้ใส่เข้ามานั้นมีความเหมาะสม ไม่เป็นรองค่ายไหนๆ โดยอีตั้นมียอดจองรถยนต์ในรุ่นนี้แล้วกว่า 20 คัน และคาดว่ายอดขายทั้งปีของรถยนต์ในรุ่นนี้จะคิดเป็น45 % ของยอดจำหน่ายทั้งหมดที่คาดว่าจะขายได้ 664 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ขายได้ 578 คัน

ด้านค่ายที่ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการอย่างบีอาร์จี รามคำแหงกรุ๊ป และ ค่ายเทดดี้ ออโต้เซล นั้น แม้จะยังไม่เปิดตัวตามค่ายอื่นๆแต่คาดว่ากำลังเตรียมวางแผนการที่สามารถรับมือกับค่ายคู่แข่งใสตลาดอื่นๆ โดยในส่วนของบีอาร์จีคาดว่าจะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการประมาณวันที่ 20 มิ.ย.นี้ และคาดว่าจะสามารถกวาดยอดขายได้กว่า 100 คันภายใน 6 เดือนที่เหลือจากนี้

ขณะที่ค่าย ชูเกียรติ ศรีทองเสถียร ประธานบริษัท เทดดี้ฯ บอกว่า เตรียมจะทำการเปิดตัวรถยนต์ในรุ่นนี้เช่นเดียวกันในวันที่ 26 มิ.ย.ใช้ชื่องานว่า “open house party” โดยจะทำการเปิดตัวในรูปแบบยิ่งใหญ่และไม่เหมือนใคร ภายในงานจะเชิญเซเลบริตี้ชื่อดัง พร้อมทั้งมินิคอนเสิร์ตมาจัดแสดง และจะมีเซอร์ไพร์ซที่เป็นทอล์กออฟเดอะทาว์นอย่างแน่นอน เทดดี้คาดว่ายอดขายในรถรุ่นนี้จะสูงอย่างแน่นอนเพราะในเวลานี้แม้จะยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการแต่มียอดจองเข้ามาแล้วกว่า 10 คัน

เรียกได้ว่าแต่ละค่ายต่างงัดเอาทุกกลยุทธ์มาห้ำหั่น แต่เมื่อมองถึงพฤติกรรมของลูกค้าแล้วพบว่า ราคา ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ เพราะการตกลงซื้อขายรถยนต์ในแต่ละครั้งนั้น จะมีการมอบส่วนลดพิเศษที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเมื่อคำนวนกันออกมาแล้วจะพบว่าราคาไม่ต่างกันนัก ขณะที่เรื่องของการส่งมอบก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ลูกค้าคำนึงถึงเพราะส่วนใหญ่มีความพร้อมและต้องการที่จะเป็นเจ้าของรถโดยทันทีที่สั่งซื้อ หากเกรย์มาร์เก็ตค่ายไหนที่มีความพร้อมส่งมอบรถให้โดยทันทีก็จะมีความได้เปรียบกว่าค่ายอื่นๆ นอกจากนั้นแล้วสิ่งสำคัญที่ลูกค้าในระดับนิชมาร์เก็ตต้องการมากที่สุดคือการมีโชว์รูมและศูนย์บริการที่ครอบคลุม

ปัจจุบันค่ายเกรย์มาร์เก็ตที่มีโชว์รูมและศูนย์บริการมากเป็นอันดับ 1 คือเอส.อี.ซี จำนวน 9แห่ง แบ่งออกเป็น 7 สาขาในกรุงเทพได้แก่ พระราม 9 ,บางนา ,รัชโยธิน ,เพชรบุรี,ทองหล่อ ,พระราม 2พหลโยธิน และ 2สาขาในจังหวัดภูเก็ตและชะอำ , อีตั้น 5 แห่ง แบ่งออกเป็น 3 สาขาในกรุงเทพ ได้แก่ และ 2 สาขาในจังหวัดเชียงใหม่ และ ,ทีเอสแอล 2 แห่ง ได้แก่ แจ้งวัฒนะ และนราธิวาส-ราชนครินทร์ ,บีอาร์จี 2 แห่ง ได้แก่ รัชโยธิน และ รามคำแหง และ เทดดี้ 2 แห่ง ได้แก่ วิภาวดี และรามอินทรา   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us