Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2532








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2532
ณัชชัย ถาวรธวัช ลูกไม้หล่นไม่เคยไกลต้น             
 


   
search resources

สุขุมวิทคอนโดมีเนียม
ณัชชัย ถาวรธวัช
Real Estate




ถ้าพูดถึง ณัชชัย ถาวรธวัช ในวงกว้างอาจจะไม่ค่อยมีใครรู้จักเขาเลยก็ได้ แต่ถ้าว่ากันเฉพาะในวงการนายหน้าซื้อขายที่ดินซึ่งเป็นธุรกิจที่กำลังบูมเป็นผีพุ่งใต้อยู่ใในปัจจุบัน เขาก็คือบุคคลที่อยู่ในบัญชีรายชื่อของบรรดานายหน้าทั้งหลาย และสำหรับนายหน้าหรือนักค้าที่ดินที่เคยติดต่อกับเขามาบ้างแล้ว บางคนอาจจะรู้จักเขาดีเกินกว่าคำอธิบายขนอง "ผู้จัดการ" ในบรรทัดต่อไปนี้เสียอีก

ณัชชัยก็เหมือนกับก็คนหนุ่มไฟแรงทั่วๆไปที่หัวใจของเขารุ่มร้อนไปด้วยความใฝ่ฝันทะเยอทะยาน ปีนี้เขาพึ่งจะอายุ 30 ขวบปีพอดี

ในสายตาของนายหน้าค้าที่ดินมือใหม่ ย่อมรู้จักเขาในฐานะลูกชายนายห้างใหญ่ ธวัชชัย ถาวรธวัช อดีตเจ้าของทรัสต์หรือบริษัทเงินทุน รวมไปถึงกิจการลิสซิ่งซึ่งหลายแห่งร่ำรวยมหาศาล แม้กิจการเหล่านั้นจะถูกโอนมาเป็นของรัฐภายใต้ชื่อโครงการ 4 เมษา อันอื้อฉาวยาวนานกว่ากึ่ง

ทศวรรต มาแล้วบางส่วนก็ตามแต่ฐานะของผู้อยู่เบื้องหลังของหนุ่มคนนี้ก็ไม่ได้ตกต่ำไปอย่างที่คิด

"บางคนกล่าวหาว่าเขาล้มบนฟูก แต่สำหรับผมผมเชื่อว่าเขาไม่ได้ล้มเสียด้วยซ้ำ" คนใกล้ชิดตระกูล "ถาวรธวัช" คนหนึ่งกล่าวกับ "ผู้จัดการ"

ณัชชัยไม่ชอบเปิดตัวต่อสื่อมวลชนเท่าใดนัก "ผู้จัดการ" ติดต่อสัมภาษณ์เขาหลายครั้ง แต่ก็ถูกปฏิเสธมาอย่างสุภาพว่าเขายังไม่พร้อม ไม่เฉพาะกับสื่อมวลชนเท่านั้น เขาไม่ค่อยจะยุ่งเกี่ยวกับใครที่อยู่นอกเส้นทางธุรกิจของเขา

แม้แต่คนที่ใกล้ชิดกับณัชชัยมากๆ ก็ยังบอกว่าไม่กล้าที่จะยืนยันว่าเขารู้จักกับณัชชัยดีพอ!

"รู้จักก็เหมือนไม่รู้จัก ไม่มีใครรู้จักตัวของเขาจริงๆ ในเรื่องส่วนตัวของเขาบางคนบอกว่านอกจากความเป็นลูกนายห้างแล้ว เขายังเป็นหนุ่มนักเรียนนอกที่มีดีกรีจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา ซึ่งบางคนก็ได้ยินมาว่าเขาจบทางด้านวิศวกร นั่นมักจะได้ยินในขณะที่สนทนาเรื่องการก่อสร้าง แต่บางคนที่อยู่ในแวดวงการเงิน ซึ่งเขามีชื่อเป็นกรรมการบริษัทเงินทุนสินวัฒนาด้วยก็มักจะได้ยินว่าณัชชัยจบมาทางด้านเศรษฐศาสตร์"คนที่คุ้นเคยกับณัชชัยเล่าให้ฟัง

นั่นก็ยังไม่ใช่เรื่องที่น่าสนใจนัก สิ่งที่น่าจับตามองสำหรับคนหนุ่มคนนี้อยู่ที่บทบาทของเขาซึ่งกำลังจะนำตัวเองสู่ "วงจรอำนาจเพื่อธุรกิจ" โดยการสนับสนุนส่งเสริมเป็นอย่างดีจากผู้เป็นพ่อ

เช่นเดียวกับผู้เป็นพ่อที่เดินมาได้เกินกว่าครึ่งแล้ว จะเรียกว่าเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวที่พอจะสานต่อจากผู้เป็นพ่อจนกว่าจะถึงเป้าหมายก็คงไม่ผิดนัก

แต่คนชื่อ ณัชชัย ถาวรธวัช จะแบกรับภารกิจไปสิ้นสุด ณ จุดใดนั้นเวลาย่อมเป็นเครื่องพิสูจน์โดยเฉพาะการผลักดันโครงการ "ตึกทอง" ซึ่งกำลังกลายเป็น "ตึกตะกั่ว" ลงไปทุกขณะให้กลับกลายขึ้นมาเป็นตึกทองกันอีกครั้ง

ธวัชชัย ถาวรธวัช ผู้เป็นพ่อเติบโตมาจากการค้าขายกระเบื้องดินเผามุงหลังคา จากชายฝั่งทะเลตะวันออกเขารุกคืบเขามาเมืองกรุงขายกระเบื้องมุงหลังคาโบสถ์ให้แก่วัดต่างๆ จนประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่กลายมาเป็นเจ้าของทรัสต์

เขาสะสมทุนจากการขายกระเบื้องมาเล่นที่ดินแบบซื้อมาขายไป ก่อนที่จะนำตัวเองเข้าสู่ธุรกิจการพัฒนาที่ดิน กล่าวกันว่าหมู่บ้านเสนานิเวศน์ที่กลายมาเป็นหมู่บ้านเจ้าปัญหา คนซื้อไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ซื้อ กว่าจะรู้ว่าไม่มีกรรมสิทธิ์ก็กินเวลาไปกว่า 20 ปีซะแล้ว นั่นก็ธวัชชัยมีส่วนผลักดันเสนอโครงการต่อกลุ่มรัตนรักษ์ด้วยคนหนึ่ง

กลุ่มรัตนรักษ์เป็นคนออกเงิน ธวัชชัยเป็นคนคุมโครงการเป็นจังหวะก้าวเข้ามาสู่วงการธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นพร้อมๆกับการสะสมทุน ทั้งจากการบริหารโครงการและจับที่ดินแบบซื้อมาขายไป ในช่วงเดียวกันเขาก็ก้าวขึ้นสู่การเป็นเจ้าของกิจการเงินทุนได้อย่างรวดเร็ว

ธวัชชัยรวบรวมสมัครพรรคพวกบางส่วนที่เคยทำโครงการหมู่บ้านเสนานิเวศน์มาด้วยกันมาทำโครงการ "ตึกทอง" ตั้งบริษัทสุขุมวิทคอนโดมิเนียมดึงกลุ่ม ศรีเฟื่องฟุ้งเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งเป็นประตูที่สำคัญอีกครื้งหนึ่งที่เปิดตัวเข้าสู่จอห์นนี่มาร์และนักลงทุนจากจีนแดง ซึ่งต่อเนื่องมาเป็นหนี้ธนาคารสยาม 200 กว่าล้านในปัจจุบัน

ธวัชชัยพยายามปีนป่ายเข้าสู่ศูนย์กลางอำนาจเพื่อธุรกิจ แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ลึกที่สุดก็เพียงข้าราชการประจำระดับผู้อำนวยการกองในบางกระทรวงทบวงกรมเท่านั้น โดยเฉพาะในกระทรวงการคลังและแบงก์ชาติ ส่วนศูนย์อำนาจทางการเมืองเรียกว่าเขายังเข้าไม่ถึงด้วยตัวของเขาเองสักที

"อย่างมากก็ขอความช่วยเหลือโดยผ่านคนอื่นอีกต่อหนึ่งโดยเฉพาะในช่วงเกิดวิกฤติการณ์ทรัสต์ เริ่มตั้งแต่การปิดราชาเงินทุน มาถึงปิดทรัสต์ในกลุ่มของสุพจน์ เดชกุญธร และกำลังจะต่อเนื่องมาถึงเขา ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกันกับกลุ่มสากลเคหะของตระกูลตุณวัฒนจิต กลุ่มส่งเสริมเงินทุนไทยของตระกูลปัจฉิมสวัสดิ์-สุวรรณภาศรี และกลุ่มเอราวัณทรัสต์ของตระกูลจิรชนานนท์ ยิ่งทำให้เขาเห็นถึงความสำคัญของการเข้าสู่วงจรอำนาจเพื่อธุรกิจของเขาอย่างมาก"คนในวงการเงินคนหนึ่งเล่าให้"ผู้จัดการ"ฟัง

บางคนวิเคราะห์สาเหตุที่ธวัชชัยเข้าไม่ถึงศูนย์กลางอำนาจด้วยตัวเองนั้น เป็นเพราะสายสัมพันธ์ที่เขาเดินผ่านนั้นมักไม่จีรัง เขาคบกับใครได้ไม่นานทั้งๆที่เขาคบกับใครได้ไม่นานทั้งๆที่เขาเองก็เป็นคนนอบน้อมถ่อมตน เรื่องการให้บริการผู้หลักผู้ใหญ่ของเขาคนในวงการรู้จักดีว่าประทับใจขนาดไหน

"บางทีผู้หลักผู้ใหญ่ไปเที่ยวถึงฮ่องกง เขาก็ยังสู้อุตส่าห์บินไปให้บริการ แต่การต้องผ่านหลายทอดหลายต่อนั้นทำให้เขาสิ้นเปลืองมาก และอ่อนล้าไปในที่สุด สายสัมพันธ์ถึงหลุดไปในบางครั้ง" คนในวงการคนเดิมกล่าว

แต่บางคนที่คบกับเขามาก็บอกว่า เขาเหนียวมากจนต้องมีเรื่องบาดหมางกัน!

แล้วสุดท้ายบริษัทเงินทุนของเขาก็ต้องถูกยึดแล้วรวมบริษัทเป็นบรษัทเงินทุนสินวัฒนาในปัจจุบัน โครงการตึกทองที่เขาวาดหวังจะเป็นผลงานชิ้นเอกของเขาก็ต้องล่มสลายลง แม้จะพยายามฟื้นมันขึ้นมาหลายครั้ง แต่ก็ล้มเหลวมาตลอดระยะเวลาร่วม 5 ปีที่ผ่านมา

ธวัชชัยเงียบหายไปจากวงการ เก็บตัวอยู่เงียบๆบนตึกเงินทุนแหลมทองข้างๆโรงแรมเอเชีย กรผลักดันฟื้นฟูตึกทองในระยะ 2 ปีมานี้ดูเขาอ่อนล้าคนที่ออกมาวิ่งพบคนนั้นคนนี้แทนเขาในปัจจุบันก็คือ ณัชชัย ถาวรธวัช ลูกชายของเขาเอง

คนในกระทรวงการคลังและเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเริ่มคุ้นเคยลูกชายมากกว่าผู้เป็นพ่อ ดูลูกจะมีพลังมากกว่าพ่อในการทำให้คนทั้งสองหน่วยงานนี้รู้จักเขาในเวลาอันรวดเร็ว!?

ดูเหมือนณัชชัยจะรู้จักกับพิษสงของข้าราชการประจำดีจากบทเรียนของพ่อของเขา เขาจึงไม่ทุ่มเทมากเหมือนพ่อ และเขาไม่เข้าสู่ศูนย์อำนาจโดยอาศัยสายสัมพันธ์ของคนอื่นอีกต่อไปแล้ว

"ณัชชัยวิ่งเข้าสู่ศูนย์อำนาจโดยตรง ซึ่งก็ประจวบเหมาะกับการเมืองมันเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ซึ่งเป็นยุคที่บทบาทของข้าราชการประจำตกต่ำการเข้าศูนย์อำนาจสำหรับกลุ่มทุนก็ดูง่ายดาย แล้วโชคดีก็เข้าข้างเขาสำหรับวันนี้" คนในวงการการเมืองวิเคราะห์ให้ฟัง

วันนี้รายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทสุขุมวิทคอนโดมิเนียมเจ้าของโครงการตึกทองจึงปรากฎชื่อของคุณหญิงบุญเรือน ชุณหะวัณแม่บ้านนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันถืออยู่ด้วยถึง 15,000 หุ้นซึ่งพึ่งจะโอนเข้ามาเมื่อกลางปีที่ผ่านมาก่อนมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดปัจจุบันเพียงไม่กี่เดือน

"เป็นสิ่งที่พิสูจน์ถึงฝีมือของณัชชัยเขา" คนที่มีส่วนร่วมในโครงการตึกทองคนหนึ่งพูดถึงเขาด้วยความหวัง

นอกจากคุณหญิงบุญเรือนแล้วยังมีชื่อของ พันธ์กรอง หงส์ลดารมภ์ ภรรยาของทองฉัตร หงส์ลดารมภ์ถืออยู่ด้วย 1,000 หุ้น ณัชชัยสามารถสร้างความสัมพันธ์ต่อผู้ใหญ่ที่เอ็นดูเขาได้แนบสนิทอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ต้องยอมรับในฝีมือของคนหนุ่มคนนี้เขาร่วมกับผู้ใหญ่กลุ่มเดียวกันนี้เปิดห้องอาหารขนาดย่อมๆขึ้นอีกแห่งเพื่อเป็นที่พบปะกันชื่อว่า "บางพระฟาร์ม" ขายอาหารทะเลชนิดที่ยกโป๊ะมาจากบางพระเลยทีเดียว""เกือบทุกเย็นณัชชัยพร้อมด้วยพาหนะของเขา เบนซ์ 500 เอสอีแอล.จะไปถึงห้องอาหารบางพระฟาร์ม เพื่อดูแลกิจการและให้บริการต้อนรับผู้หลักผู้ใหญ่ที่เขาเคารพนับถือกันหลายคน และมันก็เหมือนประตูสวรรค์อันกว้างใหญ่ที่จะนำเขาสู่บันไดขั้นต่อๆไปหากรัฐบาลชุดนี้ไม่ถึงการล่มสลายไปเสียก่อน" คนที่สังเกตการณ์การเคลื่อนไหวให้ความเห็นกับ "ผู้จัดการ"

และตึกทองที่กำลังจะกลายเป็นตึกตระกั่วลงทุกขณะก็คงจะฟื้นคืนมาเป็นตึกทองอีกครั้งจนได้ในวันหนึ่ง!

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us