Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน30 มิถุนายน 2546
"ฮาริเลร่า"เล็งซื้อโรงแรมภูเก็ต-พัทยา ปรับคราวน์พลาซ่าเป็น"ฮอลิเดย์อินน์"             
 


   
search resources

โรงแรมคราวน์ พลาซ่า
โรงแรมฮาริเลร่า
โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์
ฮาริ ฮาริเลร่า
จอห์น เจรูสซ์มอนด์
Hotels & Lodgings




กลุ่มฮาริเลร่า ทุ่มงบกว่า 400 ล้านบาท ปรับปรุงพร้อมเปลี่ยนชื่อโรงแรมคราวน์ พลาซ่า เป็นฮอลิเดย์ อินน์ สีลม อีกครั้ง ชี้ศักยภาพอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยขยายตัวสูง เล็งซื้อกิจการโรงแรมพัทยา ภูเก็ต ขนาด 300 ห้อง เผยหลังซาร์สสงบ ท่องเที่ยวไทยเริ่มฟื้น คาดสิ้นปีอัตราเข้าพักอยู่ระดับ 65%

ดร.ฮาริ ฮาริเลร่า ประธานกลุ่มผู้บริหารกลุ่มโรงแรมฮาริเลร่า เจ้าของโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ สีลม เปิดเผยว่า เมื่อเดือน เม.ย.ปีก่อน กลุ่มฮาริเลร่า ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใน โรงแรมคราวน์ พลาซ่า กรุงเทพฯ ย่าน สีลม ในสัดส่วน 40% ได้ซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่เหลือ และกลายเป็นผู้ถือหุ้น 100% หลังจากนั้นได้ปรับปรุงโรงแรมใหม่และเปลี่ยนมาใช้ชื่อ ฮอลิเดย์ อินน์ สีลม อย่างเป็นทางการในวันนี้ (30 มิ.ย.) เป็นต้นไป ซึ่ง เป็นการกลับมาใช้ชื่อฮอลิเดย์ อินน์อีกครั้ง หลังจากเมื่อ 2 ปีก่อนเคยใช้ชื่อโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ คราวน์ พลาซ่ามาแล้ว

การปรับโฉมและเปลี่ยนชื่อใหม่ ในครั้งนี้ ได้ใช้งบลงทุนประมาณ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 410 ล้านบาท ประกอบด้วยห้องพัก 700 ห้อง สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ ระบบเชื่อมโยงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลกทุกห้อง ช่องรับสัญญาณทีวี 13 ช่อง บริการสปา เป็นต้น

กลุ่มฮาริเลร่า เป็นผู้บุกเบิกนำ เชนบริหารโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เข้ามาในเอเชียเป็นรายแรก โดย เป็นเจ้าของโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ ในภูมิภาคเอเชีย 4 แห่ง คือ ฮอลิเดย์ อินน์ โกลเด้น มาย ที่ฮ่องกง ,ฮอลิเดย์ อินน์ พาร์ค วิว ที่สิงคโปร์ ,ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ต ปีนัง และฮอลิเดย์ อินน์ สีลม กรุงเทพฯ และมีโรงแรมอยู่ในภูมิภาคอื่นอีกหลายแห่ง เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา เป็นต้น

ส่วนในประเทศไทยกลุ่มฮาริเลร่า เพิ่งมีธุรกิจโรงแรมเพียงแห่งเดียวในกรุงเทพฯ แต่ด้วยศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของไทยที่มีแนวโน้มขยายตัวสูงในอนาคต กลุ่มฮาริเลร่ามีความสนใจจะขยายธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยเพิ่มขึ้น อีกในอนาคตอันใกล้นี้ โดยสนใจจะเข้าไปซื้อกิจการโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของไทย คือ ที่พัทยา ขนาด 350 ห้อง และที่ภูเก็ต ขนาด 300 ห้อง เนื่องจากทั้ง 2 จังหวัด มีโรงแรมเปิดให้บริการจำนวนมาก ทำให้ไม่จำเป็นต้องไปสร้างใหม่ แต่จะใช้ลักษณะการเข้าไปซื้อกิจการแทน เพื่อเปิดดำเนินการได้เร็วขึ้น

นายจอห์น เจ รูสซ์มอนด์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ สีลม เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเชนโรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ ในไทย 3 แห่ง คือ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ต ภูเก็ต, ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ต เกาะพีพี และที่ฮอลิเดย์ อินน์ สีลม ซึ่งการบริหารจะเชื่อมโยงเครือข่าย การจองห้องพักโรงแรมจาก 16 จุดทั่วโลกร่วมกัน โดยเชื่อว่าประเทศไทยสามารถครองความเป็นศูนย์กลางธุรกิจและการท่องเที่ยวใน ภูมิภาคเอเชียได้อีกนาน ซึ่งจะส่งผลดี ต่อธุรกิจโรงแรมด้วย

สำหรับเชนโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว เป็น หนึ่งในเชนโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนต็อลที่เป็นระดับ 5 ดาว การปรับโฉมฮอลิเดย์ อินน์ สีลม ครั้งนี้ได้ปรับปรุงห้องพักใหม่ 700 ห้อง ทาสีอาคารใหม่ และเพิ่มพื้นที่ห้องประชุมสำหรับลูกค้าคนไทยมากขึ้น ซึ่งการปรับโฉมใหม่ครั้งนี้ ไม่ได้ปรับราคาห้องพักเพิ่ม แต่จะมีความหลากหลายของห้องพักมากขึ้น

ทั้งนี้ ลูกค้าที่เข้ามาพักในโรงแรม ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ แบ่งเป็นกลุ่มนักธุรกิจ 20% นักท่องเที่ยวผ่าน เอเย่นต์ทัวร์ 30% ที่เหลือเป็นกลุ่มลูกค้าสายการบิน และธุรกิจที่เกี่ยว ข้อง และลูกค้าทั่วไป (วอล์ก อิน)

อย่างไรก็ตาม หลังจากสถาน การณ์โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) ในภูมิภาคเอเชียจบลงแล้ว คาดว่าอัตราการจองห้องพักในช่วง 6 เดือนหลังของปีนี้จะขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยถึงสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 65% ลดลงจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 73% แต่เพิ่มขึ้นจากช่วงที่ไทยได้รับผลกระทบจากโรคซาร์ส ที่อยู่ในระดับ 45% โดยขณะนี้พบว่านักท่องเที่ยวจากยุโรป ออสเตรเลีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แต่ยังถือว่าเพิ่มขึ้นไม่มาก นัก เพราะอยู่ในช่วงโลว์ ซีซัน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us