"บุญคลี" มั่นใจกลุ่มชินฟันกำไรสูงกว่าเป้าที่วางไว้คือ 20% จากปีก่อนซึ่งมีกำไร
1.2-1.3 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะครึ่งปีหลัง คาดกำไรจะสูงกว่าเป้า จากธุรกิจในเครือที่มีรายได้เพิ่มขึ้น
ทั้ง ITV ชินนี่ และ SATTLE พร้อมปฏิเสธข่าวการสนใจลงทุนหุ้นในกลุ่มบันเทิงและโรงพยาบาล
นายบุญคลี ปลั่งศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
(SHIN) เปิดเผยว่าในปี 2546 คาดว่ากลุ่มชินคอร์ป จะมีกำไรสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่
20% จากปีก่อนที่มีกำไร 1.2 -1.3 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ เนื่องจากในครึ่งปีแรกมีสัญญาณบ่งบอกว่าจะสามารถทำกำไร ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
และในครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะมีกำไรสูงกว่าเป้าอย่างแน่นอน เนื่องจากธุรกิจในกลุ่มชินคอร์ปมีโปรดักต์ใหม่เพิ่ม
เช่น คอนเทนต์ (เนื้อหา) และบริการซึ่งเป็นตลาด ที่สามารถสร้างรายได้ให้ธุรกิจมากขึ้น
เช่นกัน ทั้งในส่วนของ ITV ชินนี่ และแซทเทล
โดยเฉพาะ บริษัท ชิน แซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) (SATTEL ) ที่มี โครงการยิ่งดาวเทียมไอพีสตาร์ขึ้นสู่วงโคจรภายในต้นปี
2547 ซึ่งจะเป็นรายได้หลักของ SATTEL และเริ่มเก็บ เกี่ยวรายได้เข้ามาแล้ว ยิ่งจะทำให้ราย
ได้ของกลุ่มชินคอร์ปเพิ่มขึ้นไปอีก
"ปีนี้ธุรกิจของกลุ่มชินคอร์ปจะเน้นบริการมากขึ้นหลังจากปีก่อนมีการ ปรับโครงสร้างบุคลากรเพื่อรองรับไว้พร้อมแล้ว"
นายบุญคลีกล่าว
นายบุญคลีกล่าวต่อว่าเชื่อว่าทุก บริษัทในกลุ่มชินคอร์ปมีฐานการเงินที่ แข็งแกร่งและมีกระแสเงินสดเพียงพอ
โดยไม่จำเป็นต้องระดมทุนเพิ่ม อย่าง ไรก็ตาม ขอปฏิเสธกระแสข่าวที่ระบุว่า ชินสนใจเข้าถือหุ้น
EGV MAJOR RS KTC และโรงพยาบาลพญาไท โดยยืนยันว่ายังไม่มีการเจรจากับราย ใดทั้งสิ้น
แต่ยังคงสนใจที่จะเข้าถือหุ้น ในกลุ่มธุรกิจบริการอยู่
กระแสข่าวการลงทุนในธุรกิจอื่นที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้หุ้นของ SHIN วิ่งรับข่าวอย่างต่อเนื่องมาตลอด
ทั้งเดือน บวกกับกระแสข่าวที่คาดการณ์กันว่าอินเดียจะต่อสัญญาเช่าดาวเทียม iPSTAR
ต่ออีก หลังจากที่จะหมดอายุสัญญากันในสิ้นเดือนมิถุนายน
บทวิเคราะห์ บล.กรุงศรีอยุธยา จำกัด(AYS) รายงานว่า ทาง AYS ประมาณการรายได้จาก
iPSTAR ซึ่ง ใช้กับช่องสัญญานดาวเทียมปัจจุบัน (ก่อนยิงดาวเทียมในต้นปี 47) เชิงอนุรักษนิยมกว่าประมาณการของบริษัทที่ประมาณ
600 ล้านบาทคิดเป็น สัดส่วนประมาณ 10% ของรายได้รวม
ทั้งราคาหุ้น SATTEL ปรับขึ้นมาต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งจากการคาดการณ์ว่าจะได้รับชดเชยค่าเสียหายจาก
ปัญหาระบบไฟฟ้าขัดข้องของไทยคม 3 ซึ่งทำให้ช่องสัญญาณ Ku-band เสีย ไป 10 ช่อง
เป็นเงินประมาณ US$24 -36 ล้าน หรือประมาณ 722-1,083 ล้านบาท หรือหุ้นละ 1.65-2.47
บาท ที่ราคาปัจจุบัน 17.50 บาท ยังมีส่วนลด 20% จากราคาเป้าหมายที่ 21 บาท คง คำแนะนำ
"ซื้อ"
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่ต้อง ติดตามคือ การยิงดาวเทียม iPSTAR จะสำเร็จหรือไม่จากกำหนดการใน
1Q47 และปัจจัยเสี่ยงด้านการเจรจากับรัฐบาลจีน เรื่อง คลื่นความถี่ (Frequency
coordination) ยังล่าช้า