Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มิถุนายน 2532








 
นิตยสารผู้จัดการ มิถุนายน 2532
"ไอบีเอ็มแปรปรับกระบวนนักขายใหม่"             

 


   
www resources

IBM Homepage

   
search resources

Computer
IBM




"ไอบีเอ็มปรับรูปขบวนนักขายใหม่ด้วยการสอนผู้จัดการช่างเทคนิคและวิศวกรให้เป็นนักขาย ภายหลังประสบภาวะยอดขายตกต่ำเมื่อสามปีที่แล้ว"

ศัตรูคู่แข่งต่างพากันรู้สึกตลกขบขัน เมื่อได้ยินท่านประธานบริษัทไอบีเอ็มจอห์น เอฟ. อาร์เคอร์ (JOHN F. AKERS) กล่าวประกาศตั้งชื่อปี 1987 ว่า เป็น "ปีแห่งลูกค้า" สำหรับไอบีเอ็มแล้ว ทุก ๆ ปีไม่ใช่ปีของลูกค้าหรอกหรือ ? หรือว่ายักษ์ใหญ่เจ้าตลาดคอมพิวเตอร์กำลังพลาดจากการจับเป้าผู้ซื้อบางส่วนไปเสียแล้ว ? คำตอบในแง่หนึ่งก็คือ "มันเป็นเช่นนั้นจริง" ในจังหวะที่ไอบีเอ็มกำลังเฝ้าปักหลักยึดมั่นอยู่กับการพัฒนาและวิจัยเครื่องมือใหม่ ๆ ที่มีความเร็วของการทำงานสูง และความน่าเชื่อถือได้ยิ่งขึ้น ผู้ซื้อส่วนใหญ่กลับต้องการคำแนะนำและซอฟต์แวร์ที่ดีเพื่อช่วยในการแก้ไขปัญหาทางธุรกิจบางประการที่ยุ่งยากซับซ้อนของพวกเขาได้มากกว่า คู่ปรับเปรียบที่ว่องไวและเคลื่อนไหวรวดเร็วดุจเหยี่ยวภูเขาเริ่มช่วงชิงและตอดเอาส่วนแบ่งทีละเล็กละน้อย จากตลาดของยักษ์สีฟ้า และแล้วนับแต่นายอาร์เคอร์ ซึ่งปัจจุบันอายุ 53 ปีขึ้นรับตำแหน่งเป็นประธานบริหารบริษัทเมื่อสามปีที่แล้ว ยอดขายภายในประเทศลดระดับลงถึง 5% และกำไรจากการขายทั่วโลกตกต่ำลงถึง 25%

หน้าปฏิทินถูกฉีกผ่านไป คู่ต่อสู้ฝ่ายตรงข้ามที่จ้องมองดูต่างก็สงสัยและประหลาดใจว่า นายอาร์เคอร์จะเรียกปี 1988 ว่า เป็นปีของกระไร ? คำตอบปรากฎสู่สาธารณชนในเดือนเมษายน จากการประชุมประจำปีของบริษัทไอบีเอ็มในเมืองริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนีย เขาใช้คำว่า "การฟื้นตัว" (TURN AROUND) ไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัททำกำไรสูงขึ้น 16% และยอดขายเฉลี่ยไต่ขึ้นถึง 10% พลังผลักดันความเติบโตตามตัวเลขที่แสดงให้เห็นนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากการปรับเปลี่ยนรูปโฉมขบวนแรงงานอย่างมหาศาลชนิดที่ไม่เคยมีแบบอย่างมาก่อนในประวัติศาสตร์บริษัทอเมริกัน เพราะนั่นพิสูจน์ให้เห็นถึงการเอาอกเอาใจปรนนิบัติลูกค้าอย่างจริงจังเพื่อให้บังเกิดความพึงพอใจสูงสุดอย่างแท้จริงอีกครั้งหนึ่ง ราวกับผู้ซื้อคือเทพเจ้าปานนั้น

จากการทรุดฮวบลงของรายได้ในช่วงสามปีที่ผ่านมา แทนการปลดพนักงานจำนวนหนึ่งให้ลดน้อยทั่วบริษัท นายอาร์เคอร์กลับใช้วิธีการโยกย้ายพนักงาน 21,500 คน ออกจากพื้นที่ฝ่ายผลิตและฝ่ายเขียนโปรแกรม นักเขียนโปรแกรมบางคนถูกจัดให้ไปเข้าร่วมอยู่ในฝ่ายใหม่ คือ ฝ่ายพัฒนาซอฟท์แวร์ประยุกต์ สำหรับใช้ในงานคอมพิวเตอร์เฉพาะด้านสำหรับลูกค้าจำเพาะบางราย ลูกค้าได้รับการเปิดประตูต้อนรับเพื่อเข้ามาบอกว่า พวกเขาต้องการอะไรจากไอบีเอ็ม ชาวไอบีเอ็มอีก 11,800 คน ถูกแปรรูปจับวางลงในตำแหน่ง "นักขาย" ซึ่งบริษัทเรียกกลุ่มบุคคลผู้ทำหน้าที่ใหม่เหล่านี้ว่า "ผู้แทนการตลาด" วิศวกรระบบมีงานหลัก คือ ให้คำปรึกษาแก่ลูกค้า แต่ขณะเดียวกันได้รับมอบหมายความรับผิดชอบการขายอีกโสดหนึ่งด้วย การจัดขบวนทัพนักขายใหม่ในทำนองนี้ได้เพิ่มขนาดแรงงานในตลาดไอบีเอ็มขึ้นอีก 20% ภายในระยะเวลาเพียงสองปี

บุรุษผู้ชี้นำและปฏิรูปแนวทางการตลาดใหม่ คือ เอ็ดเวิร์ด อี. ลูเซนต์ (EDWARD E. LUCENTE) รองประธานบริษัทเมื่อปี 1986 ปัจจุบันอายุ 48 ปี เขาได้ทำการปรับปรุงโครงข่ายสำนักงานขายโดยทันทีทันควันภายหลังเข้ารับตำแหน่ง เพื่อขานรับเสียงร้องเรียนจากลูกค้าที่ข้องใจว่า ทำไมตัวแทนฝ่ายการตลาดไอบีเอ็มหลายคน จึงไม่เข้าใจเรื่องราวทางธุรกิจของพวกเขาเลย ปัจจุบันสาขาต่าง ๆ หลายแห่งในเขตพื้นที่เมืองใหญ่ ๆ ที่สำคัญ ๆ มีความรู้ความชำนาญในเรื่องของอุตสาหกรรมบางประเภทเป็นพิเศษ เช่น ที่ทำการในเขตย่านถนนดาวน์ดาวน์ ฟิลาเดลเฟีย ได้ศึกษาและคุ้นเคยกับงานของลูกค้าธนาคารและธุรกิจประกันภัยดีขึ้น

บริษัทกำลังวุ่นวายยุ่งเหยิงอยู่กับงานท้าทายที่น่าครั่นคร้าม นั่นคือ : คุณจะสอนลูกจ้างในโรงงาน นักเทคนิคในห้องปฏิบัติการ และผู้จัดการสาขาให้กลายเป็นนักขายที่เก่งกาจได้อย่าง ? ร่องรอยของปัญหานี้ ซึ่งกำลังได้รับการแก้ไขจะเสนอบทเรียนสำคัญในส่วนความกังวลใจในอันที่จะพยายามปรับตัวให้เข้ากับบรรยากาศธุรกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลง

ไอบีเอ็มเริ่มต้นจากความได้เปรียบสองประการ คือ หนึ่ง-บริษัท ได้เคยจับต้องงานประเภทนี้มาก่อนบ้างแล้ว บริษัทได้ย้ายกำลังคนประมาณพันกว่าคนจากฝ่ายผลิตและพัฒนาไปอยู่ฝ่ายขายตอนต้นปี 1970 เอฟ.จี. "บั๊ค" โรเจอร์ (F.G. ROGERS) ผู้เป็นหัวหอกสำคัญในเวลานั้น เป็นผู้นำการตลาดกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ เขาเกษียณอายุในปี 1984 และได้กล่าวถึงแอบบแผนการค้นพบซึ่งนำความผาสุกมาสู่ผู้คนในบริษัทว่า "การพลิกแพลงกลยุทธ์ปรับแรงงานกันใหม่ประสบผลสำเร็จในสายงานต่าง ๆ ในระดับเดียวกับการจ้างคนใหม่ ๆ แม้จะไม่สูงกว่ามากก็ตาม" และสอง-นโยบายบริษัทยังเรียกร้องให้พนักงานสลับตำแหน่งงานกลับไปกลับมาบ่อยครั้ง คำพูดตลกสมัยก่อนประโยคสั้น ๆ ว่า "ผมถูกย้ายแล้ว" คงให้เสียงหัวเราะที่ขมขื่นมาตราบจนทุกวันนี้และคนงานต่างก็คุ้นเคยรับการสร้างความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพจากข่ายอื่น ๆ ที่กว้างไกลออกไปหลายแง่หลายมุม

เจ. วิลเลี่ยม ไตตัส (J. WILLIAMTITUS) อายุ 58 ปี เป็นคนหนึ่งในบรรดากลุ่มคนงานที่ถูกย้ายด้วย ขณะนี้เขาประจำอยู่ในเส้นทางแรงงานการขายภาคสนามหลังจาก 32 ปีของการทำงานในบริษัท เขาผ่านการอบรมพื้นฐานทางการตลาดและการวางแผนการผลิตจาก 15 โรงงานทั่วสหรัฐ ฯ และอังกฤษ และเป็นตัวแทนฝ่ายการตลาดของไอบีเอ็มประจำอยู่ ณ บริษัท ยูนิเวอร์ซัล บริษัทยาสูบในเมืองริชมอนด์ ลูกค้าเขาชื่อ สเตอร์ลิง ที. บอลด์วิน (STERLING T. BALDWIN) รองประธานบริษัทผู้รับผิดชอบระบบบริหารข้อมูล บอลด์วินกล่าวสบประมาทว่า เขาไม่จำเป็นต้องมีผู้แทนการตลาดหน้าใหม่ "และเกรงว่าเจ้าเพื่อนคนนี้กำลังจะเข้ามาริชมอนด์เพื่อรอวันปลดเกษียณอายุเท่านั้น" ทว่าตรงข้าม งานหลายอย่างท่ไอบีเอ็มมอบหมายให้กับไตตัสเอื้ออำนวยให้เขาได้เข้าใจสัญชาติญาณความนึกคิดของผู้บริหารระดับสูงในยูนิเวอร์ซัล ตอนนี้เขาช่วยบอลด์วินเตรียมการบรรยายเกี่ยวกัยเรื่องการใช้ระบบคอมพิวเตอร์อยู่เป็นประจำบอลด์วินกลับกล่าวชมไตตัสในตอนนี้ว่า "ประสบการณ์บ่มเพาะเสรีภาพความเป็นผู้ใหญ่และความคิดอันรอบคอบ (MATURITY) บิลล์ได้นำบูรณาภาพ ความสมบูรณ์พร้อมและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมาวางไว้บนโต๊ะประชุม เมื่อผมกำลังพูดถึงทฤษฎีการบริหารชั้นสูง"

เพื่อบันดาลภาพอัศจรรย์ดังว่านั้นให้มองเห็นเด่นชัด ไอบีเอ็มได้อุทิศทรัพยากรหลากหลายให้กับการฝึกอบรมประมาณเกินกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ต่อปี ซึ่งสูงกว่างบประมาณมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่ใช้ไปในแต่ละปี หรือฝึกฝนอบรมทีมแรงงานในสังกัดรวมทั้งลูกค้า บริษัทเปิดเผยลู่ทางการอบรมการขายที่จัดว่ายิ่งใหญ่และล้ำลึกที่สุดในบรรดาอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ระยะเวลากำหนดการฝึกนับแต่แรกเริ่มจนจบหลักสูตรเฉลี่ยประมาณ 13 เดือนก่อนที่พวกเขาจะยอมรับ "แนวทางการปรับปรุงขบวนแรงงานใหม่" ตามที่บริษัทเรียก พวกเขาต้องรับการทดสอบเชาว์ และอดทนต่อการถูกสัมภาษณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากผู้จัดการเขตที่สำนักงานสาขา ผู้มีอำนาจหน้าที่เต็มในการว่าจ้างงาน

ในปีปกติ 80% ของผู้เข้ารับการอบรมการตลาดจะได้รับการว่าจ้างโดยตรงจากผู้จบการศึกษามหาวิทยาลัย ปีนี้ 2,100 คน หรือประมาณ 60% ของพนักงานใหม่จากจำนวนผู้รับเข้าทำงานทั้งสิ้น 3,500 คน ซึ่งคาดว่าจบจากสหรัฐอเมริกา เป็นกลุ่มบุคคลผู้ได้รับการปรับเปลี่ยนงานทั้งสิ้น บางคนอายุ 40 และ 50 ปี ส่วนมากพวกเขาผ่านการศึกษาจากโรงเรียนในแอตแลนต้า ที่ซึ่งคนงานเก่า ๆ จะอยู่ร่วมพักอพาร์ทเม้นต์เดียวกัน ปกติสี่คนต่อห้องพักหนึ่งห้องกับนักศึกษามหาวิทยาลัยหนุ่มอีกหนึ่งคน อาจารย์ที่ปรึกษาอายุราว 30 ปีมีประสบการณ์สูงเด่นในสาขาวิชาชีพ ดูเหมือนเขาจะเป็นตัวแทนหุ่นจำลองบทบาทของนักศึกษา

แน่นอนความยุ่งยากลกบากบางประการย่อมต้องมีอยู่บ้าง วิศวกรมองสิ่งต่าง ๆ ผิดแผกไปจากนักขาย ยกตัวอย่างเช่น ซินดี้ แอล. เมอร์ฟี่ (CINDY L. MURPHY) อายุ 25 ปี เป็นที่ปรึกษาและตัวแทนด้านการตลาดจากเบอร์มิงแฮม รัฐอลาบาม่า ให้ข้อคิดว่า "พวกวิศวกรมีแนวโน้มจะคิดว่า สภาวะการณ์ต่าง ๆ นั้นดำเนินไปอย่างถูกต้องดีแล้ว เพราะมิฉะนั้นแล้ว พวกเขาก็จะเป็นคนผิด และเมื่อครั้งแรกที่พวกเรานักการตลาดพูดว่า "มันสุดแล้วแต่กรณี" ('IT DEPENDS') ก็หมายความว่า พวกวิศวกรจะรู้สึกผิดหวังและหงุดหงิดทีเดียว" นั่นเป็นปัญหาหนักเพราะเหตุการขาย คือ "ทางออกของธุรกิจ" (BUSINESS SOLUTION) และจำเป็นต้องพึ่งพาการเจรจาต่อรองที่ยืดเยื้อ การป้อยอพะเน้าพะนอตลอดเวลา และคำชี้แนะจากลูกค้าในระยะยาว มันจำเป็นเสียยิ่งกว่าสินค้าจำพวกฮาร์ดแวร์ที่นักขายนำไปเสนอเร่ขายจะทำให้ได้ โครงการจัดฝึกอบรมได้ต่อสู้กับปัญหานี้ด้วยการเลียนแบบการแสดงบทบาท ในปริมณฑลที่พยายามครอบคลุมให้กว้างไกลมากที่สุดเท่าที่จะกระทำได้

เทคโนโลยีเข้ามาสู่การเกื้อหนุนต่อผลประโยชน์การฝึกอบรมของบริษัทนี้ในที่นี้ ไอบีเอ็มได้พัฒนาระบบการศึกษาด้วยตนเอง เรียกว่า "หน้าต่างสนเทศ" (INFO WINDOW) โดยเชื่อมคอมพิวเตอร์พีซีต่อกับเลเซ่อร์วิดีโอดิสก์ กลายเป็นคอมพิวเตอร์ทีวีโต้ตอบ แม้กระทั่งก่อนเข้าชั้นเรียนในแอตแลนต้า ผู้รับการอบรมในสำนักงานสาขาสามารถฝึกหัดกับโปรแกรมหน้าต่างสนเทศตัวใดตัวหนึ่ง เช่น โปรแกรมทางการเงิน หรือการบริหารโรงพยาบาล เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อทดสอบแนวการขาย ครูผู้ฝึกบนจอจะทำหน้าที่แสดงเป็นผู้เสนอขอซื้อตัวละครบนจอ คือ ตัวแทนลอกเลียนอุปนิสัยใจคอของผู้จัดการโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง ไอบีเอ็มโปรแกรมระบบโดยให้ผู้แสดงตอบสนองด้วยท่าทีต่าง ๆ กัน ขึ้นกับว่า นักขายกำลังจะขายอะไร ?

ผู้เข้าอบรมอาจบันทึกรูปภาพตัวเอง กำลังพูดคุยอยู่กับผู้แสดงลงบนเครื่องเทปเร็คคอร์เดอร์ ซึ่งโยงเข้ากับหน้าต่างสนเทศ ผู้แทนการตลาดของไอบีเอ็มทุกคนจะได้รับการฝึกฝนเพื่อให้รับมือกับคำปฏิเสธการขายในทุกรูปแบบ ทดลองหยั่งเชิงเพื่อความกระจ่าง สอบทานความเข้าใจ เน้นจุดเด่น และท้ายสุดคือ การบรรลุข้อตกลงการซื้อขายบนหน้าต่างสนเทศ การเล่นบทเจรจาโต้ตอบอาจดำเนินไปในท่วงทำนองดังนี้ :

ผู้แสดง / ลูกค้า : ผมไม่คิดว่าระบบของคุณจะเข้าท่าตรงกับความต้องการของเรานัก

ผู้เข้าอบรม : คุณจะกรุณาชี้แจงเสริมความลังเลของคุณที่มีต่อระบบของเราได้หรือไม่ครับ ?

ผู้แสดง : เอ้อ ดิฉันคิดว่า ดิฉันสงสัยเกี่ยวกับราคาและค่าใช้จ่ายติดตั้งระบบ ดิฉันไม่คิดว่าเราโตพอที่จะพิจารณาจัดซื้อมันได้หรอกค่ะ"

ผู้เข้าอบรม : หากผมเข้าใจไม่ผิด ผมคิดว่า คุณกลัวว่า ค่าใช้จ่ายและเวลาของเราจะแพงไป พูดตรงไปตรงมาก็คือ คุณไม่คิดว่า ราคาที่เราเสนอจะยุติธรรมพอสำหรับคุณใช่หรือไม่ครับ ?

ผู้แสดง : ค่ะ ดิฉันเข้าใจอย่างนั้น

ผู้เข้าอบรม : ผมตระหนักถึงความกังวลใจของคุณดีครับ ลูกค้าของเราหลายคนก็รู้สึกเช่นเดียวกันนั้น แต่หลังจากทุกคนได้ทบทวนเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย…พวกเขาก็กลับพบว่า ระบบที่เราเสนอมาทั้งหมดสมเหตุสมผลและสอดคล้องกันอย่างดีที่สุดแล้ว…

การศึกษาแสดงให้เห็นว่า ผู้เข้าอบรม คือ ผู้ใช้วิจารณญาณด้วยตนเองที่เข้มงวดที่สุด เขาอาจหมุนฟิล์มถอนหลังกลับไปดูใหม่ และสังเกตการพูดคุยสนทนากับลูกค้าที่กำลังปฏิเสธการเสนอขายของเขาอยู่อย่างไร ? เออร์ซูล่า เอฟ. แฟร์แบร์น (ERSULA F. FAIRBAIRN) อายุ 45 ปี ผู้อำนวยการศึกษาทั่วโลกกล่าวยอมรับว่า หล่อนเคยคิดว่า ผู้เข้าอบรมจะไม่มีวันเรียนรู้ปฏิกิริยาโต้ตอบของลูกค้าผ่านทางเครื่องมือเทคโนโลยีได้ แต่เดี๋ยวนี้เจ้าตัวไม่คิดอย่างนั้นอีกแล้ว "เรามักคิดอยู่เรื่อยว่า เราอยากได้ห้องเรียนที่มีนักเรียนและครูสอนมาพบหน้ากันจริง ๆ ดิฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลยว่า การศึกษาจะสามารถได้รับความช่วยเหลือจากเทคโนโลยีที่ได้รับการส่งเสริมชนิดเบ็ดเสร็จ แต่บัดนี้เรากำลังเรียนรู้การขยายขอบเขตขีดจำกัดของเรา"

ในชั้นเรียน การฝึกฝนอบรมการขายเป็นไปอย่างคร่ำเคร่งหมกมุ่น จอห์น เอช. บาร์รอน (JOHN H. BARRN) วัย 52 ปี ผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษาการตลาด เล่าให้ฟังว่า "หลายครั้งหลายหน ผู้เข้าอบรมหวุดหวิดจะหลั่งน้ำตาเนื่องจากความเครียดและแรงกดดัน แต่พวกเขาก็ไม่เคยร้องไห้ในชั้นเรียน กลุ่มผู้เรียนจะส่งเสริมร้องเชียร์และตบมือทุกครั้ง เมื่อใครคนหนึ่งถูกเรียกให้เล่นละครเป็นตัวแทนฝ่ายขายกับครูผู้สอนในฐานะลูกค้า "เสียงกระดิ่งดังแล้วดังอีก" โรเบิร์ต เจ. คีสเล่ย์ (ROBERT J. KESELEY) อายุ 26 ปีเล่า เขาเป็นวิศวกรไฟฟ้า ถูกเปลี่ยนงานจากโรงงานไอบีเอ็มในเมืองโรเชสเตอร์ รัฐมินเนโซต้าคีสเล่ย์ กล่าวว่า เพื่อนร่วมชั้นเรียนของเขาทุกคนเป็นคนเปิดเผย จริงใจ และตรงไปตรงมาอย่างน่าอัศจรรย์ "เราต่างบอกคะแนนผลสอบของเราให้แก่กันและกันรู้ เขาพูดว่า มิตรภาพของเราออกจะมีอย่างเหลือเฟือ"

การปรับตัวอย่างห้าวหาญและบึกบึนที่สุด คือ การหวนกับคืนสู่การจับตำราศึกษากันใหม่อีกครั้งสำหรับชาวไอบีเอ็มที่มีอายุมาก ๆ แล้ว แอนโทนี่ เอ็ม. ซาร์จ (ANTHONY M. SARGE) อายุ 44 ปี เป็นผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรมดูแลควบคุมทางด้านการผลิตแผ่นชิพเซมิคอนดั๊กเตอร์ ในโรงงานไอบีเอ็มที่เมืองซานโจเซ่ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อโรงงานปิดตัวเองลงในปี 1986 เขาตัดสินใจสมัครเป็นผู้แทนนักการตลาด และให้สัมภาษณ์ว่า เขาเริ่มฝึกอบรมเรื่องการขาย เพียงเพื่อที่จะค้นพบว่า "ความเชี่ยวชาญทางการศึกษาของผมดูช่างแคระแกรนและตีบตันเสียจริง ๆ " การสอบข้อเขียนค่อนข้างลำเค็ญยากเย็นสำหรับเขาเหลือเกิน

ในทางตรงข้าม เขาและผู้จัดการคนอื่น ๆ ที่ถูกย้ายงานได้นำประสบการณ์ธุรกิจในโลกแห่งความเป็นจริงเข้ามาสู่ผู้คนในห้องเรียนโดยไม่รู้ตัว ไอบีเอ็มเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้ผนวกเอาหลักสูตรการสอนกลยุทธ์การขาย มิได้รอบรู้เพียงพอในซอกมุมผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอกันมา โดยโรงงานอื่น ๆ ในชั้นเรียนอย่างนั้น ชาวไอบีเอ็มผู้สวิชงานจากฝ่ายวิศวกรรมบางครั้งได้ให้รายละเอียดข้อมูลพัวพันไปถึงระบบของแอปเปิลคอมพิวเตอร์หรือฮิวเลตต์แพ็คการ์ด ซึ่งแม้แต่ครูผู้คุมการสอนเองก็ยังไม่รู้

ชาวไอบีเอ็มที่ถูกโยกย้ายยังได้เริ่มค้นคว้าปูมหลังโลกใหม่ในหลักสูตรอุตสาหกรรมพิเศษ ซึ่งแถมเพิ่มเข้ามาเมื่อเร็ว ๆ นี้ และใช้เวลาสองสัปดาห์ด้วยความช่วยเหลือของผู้จัดการสาขา ผู้รับการฝึกจะเลือกแนวทางธุรกิจที่จะช่วยพัฒนาความรู้ความเชี่ยวชาญของพวกเขาให้เพิ่มมากขึ้น เขาศึกษาว่า ผู้คนในบริษัทจำพวกนั้นทำการค้าขายอย่างไรกับปัญหา อย่างเช่น เรื่องของการปฏิบัติการขาย หรือเรื่องของการบุคคล ความคิดอ่านนี้เป็นพื้นฐานของการอบรมตัวแทนการตลาด และต่อมาภายหลังตัวแทนเหล่านี้อาจเข้าไปทำงานประกบกับลูกค้าไอบีเอ็มในโครงการ "กลยุทธ์การลงทุนระบบข้อมูลใหม่" (ISIS - INFORMATION SYSTEM INVESTMENT STRATEGIES) ที่ออกแบบขึ้นมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพยอดขายซอฟท์แวร์

ตัวแทนการตลาดเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน ISIS เขาจะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของลูกค้า ยอ่างเช่น จี. เฮลลีมาน บรูอิ้ง หรือกัล์ฟสตรีม แอโร่สเปซ ทีมงานใช้เวลาหลาย ๆ เดือนสอบสัมภาษณ์ผู้บริหาร สำรวจเครื่องมืออุปกรณ์วิเคราะห์งานปฏิบัติการ และค้นหาระบบข้อมูลของลูกค้า จากนั้นก็สร้างรูปแบบจำลองการเงินของบริษัทเป็นเวลาหกปีถัดไป โดยที่อาจมีหรือไม่มีการลงทุนใหม่ ๆ ประเภทต่าง ๆ ในซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์ก็ได้

เมื่อจำนวนพนักงานขายเพิ่มมากขึ้นในสายงานที่เคยยึดมั่นอยู่กับการให้บริการใหม่ ๆ เมื่อก่อนนี้ลูกค้าของไอบีเอ็มบางคนรู้สึกสลดหดหู่ใจ ลูกค้าคนหนึ่งเปรียบเทียบการรุกไล่นั้นว่า "เป็นการโจมตีของฝูงแมลงโลคัสต์ (LOCUSTS)" (แมลงจำพวกตั๊กแตนบินไปเป็นฝูงมหึมา ลงกินพืชผลเสียหาย) แต่ลูกค้าส่วนมากก็บอกว่า พวกเขาพอใจกอร์ดอน ซีลเล่ (GORDON SEARLE) รองประธานระบบข้อมูลที่เฮลีมาน (HEILEMAN) กล่าวว่า ไอเอสไอเอส (ISIS) แปลการตัดสินใจที่ลึกลับซับซ้อนเกี่ยวกับการลงทุนในระบบคอมพิวเตอร์ "ไปเป็นถ้อยคำที่ผู้บริหารระดับสูงสามารถเข้าใจได้" ดีน เร็ดเฟิร์น (DEAN REDFERN) รองประธานที่แมคคอร์มิคแอนด์ดอดจ์ในนาติค แมสซาชูเซทส์ กล่าวชมว่า "ผมต้องการได้ยินไอบีเอ็มลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการทำธุรกิจของผม และพวกเขาก็กำลังก้าวย่างไปในทิศทางนั้นอย่างถูกต้องสมบูรณ์ที่สุดแล้ว"

พนักงานส่วนมากยังคงฝึกฝนการขายต่อไป บางคนก็เพียงเพิ่งเริ่มต้นการขายเท่านั้น และลูเซนต์ยอมรับว่า เขายังไม่มีข้อมูลที่ดีเกี่ยวกับผลการศึกษาหรือการปฏิบัติงานของพวกเขาเหล่านี้ แต่ถึงอย่างไรเขายังมีกำลังใจอยู่บ้าง ตรงที่ว่า จากจำนวนพนักงานทั้งหมดสองพันกว่าคนในโครงการ มีไม่ถึง 100 คนที่เรียนไม่จบหลักสูตร คิดเป็นเปอร์เซ็นต์เฉลี่ยน้อยกว่า 5% ศัตรูคู่แข่งเฝ้าดูอย่างใจจดใจจ่อ เจอร์รี่ อุนเกอร์มาน (JERRY UNGERMAN) หัวหน้าปฏิบัติการตลาดของสหรัฐอเมริกาในหน่วยเนชั่นนัลเอ็ดว้านซ์ซิสเต็มส์เนชั่นนัลคอนดักเตอร์ยูนิต ที่ขายคอมพิวเตอร์ฮิตาชิและเป็นคู่ต่อสู้ด้านเมนเฟรมของไอบีเอ็ม กล่าวว่า "กุญแจสำคัญ คือ การวางตัวบุคคลลงในช่องทางที่พวกเขาอยากจะไป ไอบีเอ็มจ้างคนมีความสามารถที่ซึ่งงานท้าทายไม่ใช่ความเก่งในเรื่องการขาย แต่เป็นความกระหายในอันที่จะขาย"

ความกระหายมิได้ปรากฏเป็นปัญหา ดี. ควินน์ มิลส์ (D. QUINN MILLS) ศาสตราจารย์ด้านบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้พูดคุยและสำรวจทัศนคติของพนักงานผู้ถูกจับเปลี่ยนงานหลายคนในหนังสือเล่มหนึ่ง ที่จะตีพิมพ์ในเดือนมิถุนายน พบว่า 90% ของพนักงานดังกล่าวสมัครใจใคร่อยากจะย้ายงานเอง 70% และเห็นว่า งานใหม่เป็นการพัฒนาความก้าวหน้าในงานอาชีพ ทั้ง ๆ ที่หลายคนย้ายงานในระดับที่ไม่สูงขึ้นไปกว่าเดิม "เป็นที่น่าสังเกตว่า ไอบีเอ็มสามารถเปลี่ยนหัวเลี้ยวหัวต่อของธุรกิจที่กำลังจะตกต่ำให้กลายเป็นดชคดีทางอาชีพการงานสำหรับพนักงานในความดูแลเป็นพัน ๆ คน" เขาตั้งข้อสังเกต

ลูเซนต์และผู้จัดการของเขาในไอบีเอ็ม สำนักงานการขายสาขาที่ 263 ได้พยายามอย่างหนักในอันที่จะจับวางสมาชิกใหม่ ๆ ของทีมแรงงานนักขายในงานที่พวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นเพเบื้องหลังทางอุตสาหกรรมของพวกเขา ยกตัวอย่างเช่น แจน ที. เบอร์ฟอร์ด (JAN T. BURFORD) วัย 29 ปี เป็นผู้แทนการตลาดมือใหม่ประจำอยู่ที่มหาวิทยาลัยเลไฮห์ในเบธเลเฮม รัฐเพนซิลวาเนีย เบอร์ฟอร์ด ได้รับปริญญาโททางสาขาวิทยาศาสตร์บริหารจากเลไฮห์ ในปี 1985 และแล้วทำงานในโรงงานเอ็นดิคอตท์ของไอบีเอ็ม รัฐนิวยอร์ก ตำแหน่งวิศวกรพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อการสร้างคอมพิวเตอร์พิสัยกลาง เมื่อไอบีเอ็มประกาศปรับแนวทางแรงงานใหม่ปี 1986 เบอร์ฟอร์ดสมัครทำงานขาย เพราะเขาคิดว่า การขยายพื้นฐานให้กว้างขึ้นจะช่วยให้เขาก้าวหน้าในงานอาชีพ

เบอร์ฟอร์ด คิดว่า ประสบการณ์จากงานวิศวกรรมในอุตสาหกรรมให้ข้อดีแก่เขาในส่วนการติดต่อเกี่ยวข้องกับผู้คนที่เลไฮห์ที่ ซึ่งได้รวมเอาคณะและทีมงานในฝ่ายวิศวกรรมและคอมพิวเตอร์เอาไว้ "ผมพูดภาษาของพวกเขาแล้ว" เขากล่าว เขาเริ่มต้นการขายฤดูร้อนที่ผ่านมา และทำได้ 100% คลับสำหรับโควต้ายอดขาย เนื่องจากไอบีเอ็มอยากให้พนักงานรู้สึกเหมือนผู้ชนะประมาณ 70% ของแรงงาน นักขายทำได้ 100% คลับ รางวัลคือ : การท่องเที่ยวสามวัน รวมอาหารมื้อเย็นในภัตตาคารชื่อดัง เข็มกลัดติดปกคอเสื้อสีน้ำเงินและทอง ชาวไอบีเอ็มต่างสวมใส่ด้วยความภาคภูมิใจและบางทีชื่อของพวกเขาอาจถูกจารึกลงบนกำแพงสำนักงานสาขาก็เป็นได้

แดน มานซิเนลลี่ (DAN MANCINELLI) อายุ 44 ปี ผู้จัดการสาขาไอบีเอ็ม ซาคราเมนโต้คุยว่า ตัวแทนนักขายทั้งหมดห้าคนที่ถูกเปลี่ยนงานกำลังเป็นหนุ่มเนื้อหอม เนื่องจากทำได้ 100% คลับ เมื่อปีกลาย นักขายคนหนึ่งในทีมงานการตลาด ชื่อ โทนี่ ซาร์จ (TONY SARGE) อดีตผู้จัดการแผนกเซมิคอนดั๊กเตอร์ มานซิเนลลี่ ได้โอนไปให้อินเทล ลูกหนี้ใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของสาขา ซาร์จค่อนข้างกังวลว่า เขารู้มากเกินไปเกี่ยวกับธุรกิจบริษัทนี้ และอาจคาดเดาไปต่าง ๆ นา ๆ แต่ในท้ายสุด เขาพูดว่า "รู้มากก็ยังดีกว่ารู้น้อย"

นโยบายการว่าจ้างคนใหม่ของไอบีเอ็มแต่เดิมเคยจ้างแต่คนที่เป็นหัวกะทิ เนื่องจากบริษัทให้คุณค่ากับคุณภาพคน เช่น ความคิดริเริ่ม ความเป็นผู้นำ และท่าทีที่ดีเป็นอย่างสูง แต่ปัจจุบันเนื่องจากความต้องการกำลังคนที่เป็นนักขายเพื่อให้คำแนะนำปรึกษาทางธุรกิจมีปริมาณมากกว่าพวกทำด้านฮาร์ดแวร์ บริษัทจึงพบว่า คนงานเก่าแก่ผู้มีประสบการณ์ช่ำชองทางอุตสาหกรรมมักเป็นสมบัติล้ำค่ากว่านัก ศึกษาจบจากมหาวิทยาลัยใหม่ ๆ ลูเซนต์ หวังว่า เขาจะจ้างบุคลากรในสาขางานของเขาจากคนงานอุตสาหกรรมได้มากขึ้น

ชาวไอบีเอ็มทุกคนที่ถูกฝึกใหม่จะไม่หลุดลอยเข้าไปในฝ่ายการตลาดได้ง่ายดาย และราบรื่นนัก แต่สมาชิกหลายคนแต่แรกเริ่มมองการปรับเปลี่ยนงานด้วยภาพพจน์ที่ไม่ดี บัดนี้กลับมองในแง่ดีขึ้น "อย่างที่เห็น ๆ นั่นแหละครับ คนงานการตลาดของเราที่ดีเยี่ยมบางคนถูกย้ายงานมาจากที่อื่น" พนักงานแก่วัดคนหนึ่งให้ความเห็น "ในทางปฏิบัติ พวกเขาก็เหมือนกับลูกค้าของเรา พวกเขารู้ความต้องการของลูกค้าได้ดีทีเดียว" ซึ่งแน่ละนั่นคือเหตุผลว่า ทำไมโครงการทั้งหมดนี้จึงได้เริ่มขึ้น

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us