Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์9 มิถุนายน 2551
กฎเหล็กEIA-แบงก์เข้ม-ต้นทุนพุ่งระวัง!จัดสรรแห่ทิ้งโครงการ             
 


   
search resources

Real Estate




*ราคาที่ดิน-ค่าก่อสร้างพุ่ง กฎ EIA-แบงก์เข้ม เบรกซัปพลายคอนโดเกิดใหม่
*ยอดเปิดตัวโครงการใหม่เดือน เม.ย. ลดฮวบ จัดสรรแห่เปิดทาวน์เฮาส์ใกล้เมืองรับดีมานด์ตลาดเปลี่ยน
*หวั่นดีเวลลอปเปอร์ตุนแบ็กล็อคแห่ทิ้งโครงการ หากต้นทุนก่อสร้างพุ่งทะยาน

เป็นครั้งแรกในรอบ 1-2 ปีที่ตัวเลขการเปิดตัวโครงการใหม่เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาจากการสำรวจของเอเจนซี่ ฟอร์ เรียล เอสเตท แอฟแฟร์สระบุว่า เป็นเดือนแรกที่มีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ลดลง มีการเปิดตัวเพียง 243 ยูนิต แต่ทาวน์เฮาส์กลับมาแรง โดยมีการเปิดตัวถึง 3,088 ยูนิต หรือ 60% มากที่สุดเป็นอันดับ 1 แซงบ้านเดี่ยวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 เป็นสัญญาณที่สะท้อนจุดเปลี่ยนของตลาดคอนโดมิเนียมที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ และเข้าสู่วงจรของการชะลอตัว

ยอดเปิดตัวคอนโดมิเนียมที่ลดลง สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐที่จะมีผลบังคับใช้ 1 ปี จึงทำให้ดีเวลลอปเปอร์ส่วนหนึ่งหันมาพัฒนาที่อยู่อาศัยในแนวราบแทน เพื่อให้สามารถโอนได้ทันตามนโยบายของรัฐ ในขณะที่คอนโดมิเนียมที่เปิดตัวใหม่ในปีนี้จะไม่ได้รับผลประโยชน์จากมาตรการ เพราะไม่สามารถก่อสร้างเสร็จได้ทันภายใน 1 ปี

ตุนแบ็คล็อคระวังสร้างไม่ได้

ต้นทุนที่สูงขึ้นโดยเฉพาะเหล็ก ซึ่งเป็นวัสดุหลักของการก่อสร้างคอนโดมิเนียมที่ปรับราคาขึ้น 30-40% ทำให้ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด คาดว่า ดีเวลลอปเปอร์ที่มี Backlog คอนโดมิเนียมในมือไว้จำนวนมาก และเป็นโครงการที่ยังไม่ก่อสร้างหรืออยู่ระหว่างการก่อสร้าง หรือเปิดขายโดยที่ยังไม่ได้ผ่านการอนุญาตก่อสร้างจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากต้นทุนที่ปรับสูงขึ้น ทั้งในแง่ของผู้รับเหมาที่อาจทิ้งงาน หรือดีเวลลอปเปอร์ที่แบกรับภาระต้นทุนพุ่งไม่ไหว จนต้องทิ้งโครงการ

“ปัจจุบันทั้งตลาดมี Backlog คอนโดมิเนียมกว่า 40,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นของดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ มีทั้งโครงการที่กำลังก่อสร้างอยู่ 30% และยังไม่ก่อสร้างสูงถึง 70% หากในอนาคตต้นทุนพุ่งสูงขึ้นอีก โครงการที่ยังไม่ขึ้นโครงสร้างอาคารจะน่าเป็นห่วง เพราะดีเวลลอปเปอร์อาจเปลี่ยนใจไม่ขึ้นโครงการเลย เพราะสู้ต้นทุนไม่ไหว ซึ่งผู้บริโภคที่จ่ายเงินจองไปแล้วจะได้รับผลกระทบจากการซื้อบ้านแล้วไม่ได้บ้าน” ธีระชนกล่าว

ปัจจัยลบเบรกโอเวอร์ซัปพลาย

ธีระชนเสริมว่า ราคาที่ดินในแนวรถไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้น 3-5 เท่าภายใน 1 ปี ส่งผลกระทบทำให้ต้นทุนการพัฒนาสูงขึ้น เมื่อรวมกับต้นทุนการก่อสร้างที่สูงขึ้นด้วย ก็ทำให้ดีเวลลอปเปอร์เริ่มมองว่าเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า เช่น อาคารโลว์ไรส์สูงไม่เกิน 8 ชั้น ต้นทุนก่อสร้างปรับสูงขึ้น 30% ส่วนอาคารไฮไรส์ สูง 25 ชั้นขึ้นไป ต้นทุนก่อสร้างปรับสูงขึ้นถึง 35% และมีความเป็นไปได้ที่ราคาเหล็กจะพุ่งไปถึง 45 บาทต่อ กก. ซึ่งคอนโดมิเนียมจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง

“ถ้ามองตลาดรวมหากขึ้นโครงการใหม่ตอนนี้ ต้นทุนก่อสร้างต่อ ตร.ม. จะสูงขึ้นจากเดิม 15% กระทบกำไรของดีเวลลอปเปอร์หายไป 15%” ธีระชนกล่าว

ธีระชนยกตัวอย่างโครงการเมโทร พาร์ค สาทร คอนโดมิเนียมโครงการแรกของเพอร์เฟคฯ ว่าในแต่ละปีต้นทุนค่าก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฟสแรกเริ่มก่อสร้างปี 2548 ต้นทุน 11,000 บาทต่อ ตร.ม. ราคาขายพรีเซล 30,000 บาทต่อ ตร.ม. เฟส 2 ก่อสร้างปี 2549 ต้นทุนขยับเป็น 13,000 บาทต่อ ตร.ม. ล่าสุดในเฟส 3 ที่จะก่อสร้างปีนี้ ธีระชนกล่าวว่า ต้นทุนที่คำนวณออกมาอยู่ที่ 23,000 บาทต่อ ตร.ม. ปรับขึ้นจากเดิมอย่างก้าวกระโดด ทำให้เพอร์เฟคฯ จำเป็นที่จะปรับราคาขายในเฟสใหม่เป็น 50,000 บาทต่อ ตร.ม. ด้วย แต่ทั้งนี้ผู้บริโภคจะไม่มีความเสี่ยง เพราะเป็นราคาที่ล็อคกับผู้รับเหมาไว้เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ข้อกำหนดที่เข้มงวดของการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินก็ยิ่งเป็นอุปสรรคที่ทำให้โครงการใหม่เกิดขึ้นน้อยลง ราคาขายที่ปรับตัวสูงขึ้นสวนทางกับภาวะกำลังซื้อผู้บริโภคที่ลดลงจากค่าครองชีพและอัตราเงินเฟ้อ ก็ทำให้การตัดสินใจซื้อลดลงด้วย ดีมานด์บางส่วนเปลี่ยนไปซื้อทาวน์เฮาส์แทน เพราะราคาไม่แตกต่างจากคอนโดมิเนียม จึงกลายเป็นตัวเบรกซัปพลายที่จะเข้ามาใหม่ในตลาด ทำให้คอนโดมิเนียมไม่เกิดภาวะโอเวอร์ซัปพลายอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์เอาไว้

ต้นทุนพุ่งไม่กระทบคอนโดหรู

ในส่วนของคอนโดมิเนียมตลาดบน ต้นทุนการก่อสร้างที่ปรับสูงขึ้น กลับไม่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนโครงการใหม่ของดีเวลลอปเปอร์ รวมทั้งการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ซึ่งไนเจิล เจ. คอร์นิค กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ต้นทุนการก่อสร้างที่ปรับสูงขึ้นไม่มีผลกระทบต่อบริษัทฯ เพราะราคาขายต่อ ตร.ม. ส่วนใหญ่ของคอนโดมิเนียมระดับบนจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นราคาที่ลูกค้ายินดีจ่าย ในขณะที่สุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เห็นว่า ราคาคอนโดมิเนียมระดับบนที่ปรับสูงขึ้นเรื่อยๆ หลังจากมีความคืบหน้าของการก่อสร้าง น่าจะสะท้อนถึงความเสี่ยงที่ลดลงของลูกค้าว่าดีเวลลอปเปอร์จะสามารถส่งมอบโครงการได้อย่างแน่นอน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us