ธุรกิจวิทยุครึ่งปีหลังส่อแววเดือด แกรมมี่ - อาร์เอส ปรับกลยุทธ์ รับมือพฤติกรรมลูกค้าผู้ซื้อสื่อเปลี่ยน ด้านเวอร์จิ้นชี้ยังมั่นใจ ผู้นำการตลาดแบบแจกเยอะ - แจกจริง คาดสิ้นปีโตตามเป้า ส่วน น้องใหม่ไม่กลัวน้ำร้อน "เสนาหอย" เตรียมดันคลื่นน้องใหม่ กู๊ด เอฟเอ็ม.98.5 หวังเจาะกลุ่มคนอารมณ์ดี

ด้วยเม็ดเงินที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดสูงถึงปีละกว่า 6,000 ล้านบาทของธุรกิจสื่อวิทยุ ทำให้ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดไม่ว่าสกาย-ไฮ จากอาร์เอส, เอไทม์ ของจีเอ็มเอ็ม มีเดีย รวมถึงเวอร์จิ้น ที่มีบีอีซี เทโร เป็นเจ้าของ ล้วนมองเป้าหมายในการครองความเป็นผู้นำเหมือนกัน แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจ การเมือง และราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ได้ส่งผลกระทบกับการตัดสินใจซื้อสื่อโฆษณาบนหน้าปัดวิทยุ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมซื้อสื่อโฆษณาของลูกค้าจากเดิมที่มีการเซ็นระยะยาว สู่การซื้อสื่อในระยะสั้น และเสี่ยงที่จะหยุดใช้จ่าย หากสถานการณ์ไม่ได้ถูกแก้ไขให้ดีขึ้น

คมสันต์ เชษฐ์โชติศักดิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท สกาย-ไฮ จำกัด ในเครืออาร์เอส ผู้บริหารคลื่นวิทยุ แม็กซ์ 94.5 และ คูล 93 กล่าวว่า การซื้อสื่อในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากลูกค้าเกิดความไม่มั่นใจในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ จึงทำการปรับแผนการซื้อสื่อในระยะสั้นเพียง 3 - 6 เดือนเท่านั้น สอดคล้องกับผู้บริหารจากฝั่งแกรมมี่ สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย ให้ความเห็นว่า ความไม่แน่นอนทางการเมือง ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ถือเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวัง เนื่องจากลูกค้าที่ซื้อสื่อมีการปรับตัว โดยจากเดิมที่มีการเซ็นสัญญายาวทั้งปี ก็ได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นแค่ระยะสั้นๆ จนถึงการซื้อแบบเดือนต่อเดือน เพราะลูกค้าต้องการรักษาสภาพคล่องของบริษัท

อาร์เอส - แกรมมี่ ชูความแข็งแกร่ง ดัน แบรนด์ พร้อม กลยุทธ์อีเวนต์เป็นตัวนำ

สกาย - ไฮ เลือกที่จะใช้กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลูกค้าที่เกิดขึ้น เพราะเชื่อมั่นว่า ชื่อเสียงของแบรนด์มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสื่อโฆษณาของลูกค้า นอกจากนั้นแล้วยังมีการนำกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งเข้ามาใช้เป็นจุดขาย จากการที่อาร์เอสได้ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลยูโร 2008 ทำให้คลื่นทั้ง 2 ของสกาย-ไฮ จะมีกิจกรรมพิเศษเกี่ยวกับฟุตบอลยูโร เช่นการรายงานการแข่งขันสดทางวิทยุ หรือการชิงบัตรรางวัลเข้าชมฟุตบอลรายการนี้ที่สวิสเซอร์แลนด์

สกาย-ไฮยังมีการกระตุ้นด้วยกิจกรรม - อีเวนต์ต่างๆ ที่เจาะเข้าถึงผู้ฟัง โดยทั้ง 2 คลื่นในเครือ จะมีกิจกรรมต่างๆประมาณ 40 ครั้งต่อปี ซึ่งเป็นการรุกเข้าหาผู้ฟังเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์คลื่นวิทยุทั้ง 2 ของสกาย-ไฮให้มากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาที่จัดประมาณ 30 ครั้ง โดยคาดว่าผลจากการรุกตลาดในครั้งนี้ จะสามารถทำได้ตามเป้าที่วางไว้ 350 ล้านบาท

" สิ่งสำคัญที่สกาย - ไฮพยายามที่จะเน้นคือ การสร้างแบรนด์ของทั้ง 2 คลื่นให้มีความแข็งแกร่ง เพราะปัจจัยดังกล่าวจะเป็นสิ่งที่ยืนยันให้เห็นถึงสถานะของคลื่นว่าอยู่ตรงจุดไหน อย่างไร และทำให้บริษัทเจ้าของสินค้าเกิดความมั่นใจและเลือกซื้อสื่อกับบริษัทฯ นอกจากนั้นแล้วในแง่ของการทำ ซีอาร์เอ็มกับลูกค้า ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบริษัทและลูกค้า และ ผู้ฟัง"

ด้านค่ายจีเอ็มเอ็ม มีเดียที่บริหารคลื่นวิทยุ 4 คลื่น ประกอบด้วย 89 บานานาเอฟเอ็ม ,91.5 ฮอตเวฟ ,94 อีเอฟเอ็ม และ 106.5 กรีนเวฟ ถือได้ว่าสถานการณ์ในครึ่งปีแรกผ่านมาได้ด้วยดี โดย สายทิพย์ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรกของจีเอ็มเอ็ม มีเดียในส่วนของคลื่นวิทยุ สภาพการณ์ยังดี โดยสามารถสร้างรายได้เกินเป้าที่วางไว้เล็กน้อย คือ 156.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.5 ล้านบาท หรือคิดเป็น 26% จากวิทยุ 4 คลื่น ขณะที่รายได้ทั้งปีได้มีการตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 15 %

โดยกลยุทธ์ที่แกรมมี่จะเน้นหนักในช่วงครึ่งปีหลัง คือสร้างความแข็งแกร่งที่ตัวแบรนด์ เพราะเชื่อว่ารูปแบบของกิจกรรมที่แต่ละคลื่นนำเสนอไม่มีความแตกต่างกันมากนัก ดังนั้นหากสามารถครีเอทกิจกรรมต่าง ๆ ให้มีความโดดเด่น แปลกใหม่กว่า จะสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์เหนือคลื่นๆ อื่นๆ ให้เป็นจุดแข็งของคลื่นวิทยุจากจีเอ็มเอ็ม มีเดีย นอกจากนั้นบริษัทยังเตรียมนำกลยุทธ์ทางการตลาด โดยใช้อีเวนต์เป็นตัวสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

เวอร์จิ้นยังมั่นใจ เดินหน้ากลยุทธ์แจกจริง

ด้านค่ายวิทยุคลื่นจอมแจก เชษฐ์ มังคโลดม กรรมการผู้จัดการ บริษัทเวอร์จิ้น บีอีซี-เทโร เรดิโอ เซอร์วิสเซส(ประเทศไทย) ผู้ผลิตรายการวิทยุคลื่น 95.5 เวอร์จิ้นฮิต ,103 เวอร์จิ้นซอร์ฟ และ 105.5 อีซี่เอฟเอ็ม กล่าวว่า ภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจวิทยุในช่วงที่ผ่านมาถือได้ว่าชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่คาดว่าครึ่งปีหลังแต่ละค่ายจะมีการแข่งขันกันมากขึ้น ทั้งในแง่ของการแย่งกลุ่มลูกค้าที่ซื้อสื่อ และกลุ่มผู้ฟัง โดยในส่วนของเวอร์จิ้นยังคงได้รับการสนับสนุนจากลูกค้าผู้ซื้อสื่อเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นผลมาจากกลยุทธ์ทางการตลาดที่บริษัทมีการนำมาใช้

โดยที่ผ่านมา มีการนำกลยุทธ์แจกจริงมาใช้กับลูกค้า โดยมีการแจกรถบีเอ็มดับเบิลยู 320i มูลค่ากว่า 2.5 ล้านบาท พร้อมคนขับเป็นเวลา 1 ปี ให้กับลูกค้าผู้โชคดีที่ซื้อสื่อเพียง 1,000 บาทขึ้นไปก็มีสิทธิได้ลุ้นรับรางวัล ขณะเดียวกันในส่วนของกลุ่มผู้ฟังก็ยังคงมีการแจกบ้าน - คอนโด และรถจักรยานยนต์ ซึ่งผลการตอบรับจากกลุ่มผู้ฟังนั้นถือได้ว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก ด้านกลยุทธ์ทางการตลาดที่ที่จะใช้ยังคงเน้นไปที่กิจกรรมหรืออีเวนต์ต่างๆ รวมไปถึงการเป็นพันธมิตรในการจัดคอนเสิร์ตจากต่างประเทศ อาทิ ทงบังชิงกิ และล่าสุดคือ SS501

" การแจกบ้าน - คอนโด หรือ รถยนต์ล้วนแต่เป็นกิจกรรมเพื่อผู้ฟัง ถือเป็นการตอบแทนผู้ฟังที่เข้ามาติดตามฟังรายการของเรา ลักษณะดังกล่าวที่ได้ทำไม่ถือว่าเป็นการแจกเพื่อซื้อผู้ฟัง" เชษฐ์ กล่าว

ขณะที่ภาพรวมของธุรกิจวิทยุในครึ่งปีหลัง เชษฐ์ คาดว่า หากสถานการณ์ทางการเมืองมีความเสถียรมากขึ้นน่าจะผลักให้ภาพรวมของธุรกิจวิทยุเติบโต เพราะตลาดนี้ยังคงมีช่องทางให้เจาะทั้งในส่วนของคลื่นข่าว ,คลื่นลูกทุ่ง แต่หากมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาสั่นคลอนก็อาจจะกระทบกับธุรกิจเพียงเล็กน้อย แต่เวอร์จิ้นเชื่อมั่นว่าสถานการณ์ต่าง ๆ จะไม่กระทบธุรกิจวิทยุให้ล้มหายได้

เสนาหอย แจ้งเกิด กู๊ด เอฟเอ็ม.98.5

ท่ามกลางความกังวลของผู้บริหารคลื่นวิทยุยักษ์ใหญ่ในพฤติกรรมของผู้ซื้อสื่อที่มีการปรับตัว โดยมีแนวโน้มที่จะเลือกใช้สื่อวิทยุลดน้อยลงเมื่อเทียบกับสื่ออื่น ๆ ประกอบกับคลื่นวิทยุที่มีอยู่ในปัจจุบันต่างก็แข่งขันกันอย่างดุเดือด ทั้งแคมเปญ ลด แลก แจก กระหน่ำ รวมไปถึงการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดสารพัดวิธีเพื่อจะดึงดูดคนฟัง ปัจจัยทั้งหมดล้วนส่งผลให้ผู้เล่นหน้าใหม่รวมไปถึงผู้เล่นรายเล็กที่ดำเนินอยู่ต้องประสบกับภาวะแห่งความกดดัน เนื่องจากสังเวียนแห่งนี้หากสายป่านไม่ยาวจริง หรือเงินไม่ถึงจริง การจะผ่านพ้นสถานการณ์ที่เลวร้ายก็คงทำได้ยาก

อย่างไรก็ตามแม้จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ดุเดือด แต่ก็ยังมีผู้เล่นน้องใหม่สนใจเข้าสู่ธุรกิจนี้ ค่ายลักษ์ 666 หรือที่รู้จักกันในนามของ เสนาหอย เกียรติศักดิ์ อุดมนาค , เปิ้ล นาคร ศิลาชัย และ วิลลี่ แมคอินทอช เป็นหนึ่งในนั้นที่เตรียมเปิดตัวคลื่นใหม่ในเดือนกรกฎาคมนี้

การเข้ามารุกครั้งนี้ ลักษ์ 666 มอบหมายให้ เสนาหอย รับตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทลักษ์ เรดิโอ จำกัด โดยได้รับสัมปทานคลื่น 98.5 ใช้คอนเซปต์ว่า กู๊ด เอฟเอ็ม.98.5 คลื่นเพลงอารมณ์ดี ไม่มีภาษา โดยวางรูปแบบ เปิดเพลงเพราะตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเพลงที่นำมาเปิดจะไม่จำกัดค่าย จำกัดภาษา มีทั้งเพลงไทย - เทศจากทั่วโลก

นอกจากความเคลื่อนไหวของค่ายน้องใหม่ที่เตรียมจะเปิดตัว ค่ายเก่าที่อยู่ในธุรกิจ คลิก วีอาร์ วัน ก็มีความเคลื่อนไหวปรับเปลี่ยนผู้ถือหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงในการดำเนินงาน โดยขายหุ้นใหญ่ของคลื่นแฟต เรดิโอ 104.5ให้กับโอเปอเรเตอร์มือถือดีแทค หรือ บริษัท โทเทิ่ล แอคเซส คอมมูนิเคชั่น ถือครองหุ้น51 % และคลิก 49 % โดยจัดตั้งบริษัท แฟต ดีกรี เพื่อบริหารคลื่นแห่งนี้ รวมไปถึงการดูแลนิตยสารดีดีที

เชษฐ์ ผู้บริหารจากค่ายเวอร์จิ้น ให้ความเห็นว่า การจับมือกันของดีแทค และคลิก วีอาร์ วัน ถือว่า วิน : วิน ทั้งคู่ โดยในส่วนของคลิกจะลดความเสี่ยงในการดำเนินงาน เนื่องจากปัจจุบันการแข่งขันของธุรกิจวิทยุดุเดือด ดังนั้นการได้พันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งในเรื่องการสื่อสารอย่างดีแทค ที่มีพร้อมด้านเทคโนโลยี คอนเทนต์ต่างๆ และบุคลากรด้านไอที น่าจะส่งผลให้การดำเนินงานในอนาคตประสบความสำเร็จ