Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน9 มิถุนายน 2551
กองทุนฯเร่งBT-ทิสโก้ ชงเข้าบอร์ดสัปดาห์นี้             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
Funds




คณะทำงานกองทุนฟื้นฟูฯ เลือกขายหุ้น 42.13% ในไทยธนาคารให้ทิสโก้จากทั้งหมดผู้ยื่นซื้อ 5 ราย เผยมีเพียงทิสโก้สัญชาติไทย อีก 4 รายรวมนิวบริดจ์เป็นต่างชาติ ยอมรับเลือกทิสโก้เพื่อตัดปัญหากลายเป็นต่างชาติต้องขออนุญาตคลัง ที่สำคัญเท่ากับยอมรับว่าแบงก์เจ๊ง ชงที่ประชุมบอร์ดกองทุนฟื้นฟูฯ อนุมัติสัปดาห์นี้ ลงนามภายในกลางเดือน ลุ้นราคา 1.20-1.30 บาทต่อหุ้น ต้องเร่งปิดดีลเพราะถูกการเมืองเพ่งเล็ง

แหล่งข่าวธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า คณะทำงานกองทุนฟื้นฟูฯ ได้ข้อสรุปในการขายหุ้นธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) (BT) จำนวน 42.13% ให้กับธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) (TISCO) โดยจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ เพื่ออนุมัติภายในสัปดาห์นี้ หากคณะกรรมการฯ ไม่ขัดข้องคาดว่าจะลงนามการขายหุ้นในสัปดาห์ถัดไปหรือกลางเดือน มิ.ย.นี้ สำหรับราคาหุ้นคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 1.20-1.30 บาทต่อหุ้น

"จริงๆ เรายังมีเวลาถึงสิ้นเดือน แต่หลังจากแบงก์ชาติถูกฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะกลุ่มที่ปรึกษา รมว.คลังและนายกรัฐมนตรีให้ข่าวโจมตีกองทุนฟื้นฟูฯ และไทยธนาคารมาแล้ว 2 ครั้ง เราจึงต้องเร่งปิดดีลให้เร็วที่สุด แต่ต้องรอบคอบและไม่ให้กองทุนฟื้นฟูฯ หรือแบงก์ต้องเสียหาย"

แหล่งข่าวกล่าวถึงการข้อกล่าวหาว่าไม่มีการลดทุนก่อนนั้น ข้อเท็จจริงแล้ว ครั้งแรกไทยธนาคารมีการลดทุน เพื่อล้างขาดทุนสะสมช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 50 แล้วจากราคา 10 บาทต่อหุ้นเหลือ 3.75 บาทต่อหุ้น แต่ในช่วงปลายปี 50 ที่ผ่านมา เลือกใช้วิธีเพิ่มทุนแทนการลดทุน เพราะการลดทุนจะมีผู้ถือหุ้นรายใหม่เข้ามา ถือเป็นการเข้ามาแชร์สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นอาจยิ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหาได้ จึงเลือกให้ผู้ถือหุ้นรายเก่าใส่เงินเพิ่มทุนเข้ามาช่วยเหลือแทนซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าก่อนจากปัญหาเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (บีไอเอส เรโช) ต่ำแล้วค่อยหาพันธมิตรที่มีศักยภาพเข้ามาช่วยเสริมธุรกิจต่อไป

แหล่งข่าวตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การที่ไทยธนาคารมีข่าวเชิงลบในช่วงที่ผ่านมา อาจเกิดจากกลุ่มบุคคลบางพวกพยายามสร้างสถานการณ์ข่าวแง่ลบ เพื่อหวังให้ราคาขายลดลง แต่กองทุนฟื้นฟูฯ ยืนยันว่าไทยธนาคารยังมีศักยภาพที่ดี กลุ่มทีพีจี นิวบริดจ์ ในฐานะผู้ถือหุ้นเก่ารายใหญ่ 42% ก็สนใจ นอกจากนี้ยังมีต่างชาติอีก 3 แห่ง สนใจยื่นตรวจสอบฐานะ (ดิว ดิลิเจนท์) ส่วนสัญชาติไทยได้แก่ ธนาคารทิสโก้

การเลือกธนาคารทิสโก้ นอกจากเหตุผลทางด้านราคาหุ้นแล้ว คณะทำงานฯ เห็นว่าเหมาะสมกับสถานการณ์ ธนาคารฯ ก็ยังเป็นของคนไทย หากเลือกขายให้รายอื่น ไทยธนาคารจะเป็นของต่างชาติ ต้องขอนุญาตกระทรวงการคลัง เข้าข่ายธนาคารมีปัญหาผลการดำเนินงาน และฝ่ายการเมืองอาจโจมตีว่าธนาคารเจ๊ง นำไปสู่ข้ออ้างการตรวจสอบการทำงานของนางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าฯ ธปท.

ก่อนหน้านี้ นายปลิว มังกรกนก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทิสโก้ ยอมรับว่าแสดงความสนใจเข้าไปซื้อหุ้นจากกองทุนฟื้นฟูฯ ทั้ง 42.13% โดยเสนอซื้อไปยังกองทุนฟื้นฟูฯ แล้ว ทั้งนี้ หากธนาคารทิสโก้ซื้อหุ้นจากกองทุนฟื้นฟูฯ ได้แล้ว ตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ธนาคารฯ จะต้องเข้าไปทำการเสนอซื้อหุ้น (เทนเดอร์ ออฟเฟอร์) จากทีพีจีนิวบริดจ์และผู้ถือหุ้นรายย่อย

ฝ่ายวิเคราะห์และติดตามฐานะ สายกำกับสถาบันการเงิน ธปท. ให้เหตุผลที่การเพิ่มทุนครั้งล่าสุด ไม่เลือกใช้วิธีลดทุนก่อนว่า เนื่องจากในช่วงนั้นไทยธนาคารมีเงินกองทุนต่ำกว่ามาตรฐานที่ ธปท.กำหนด คือ 8.5% หากลดทุนจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่ เพราะต้องเอาเงินใหม่มาเติม ถือว่าไม่ยุติธรรมสำหรับผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่ต้องเข้ามาร่วมรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น

ส่วนฐานะไทยธนาคารปัจจุบัน แม้จะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ที่มีสินทรัพย์หนุนหลัง (ซีดีโอ) แต่ได้มีการกันสำรองมาโดยตลอดตามคำสั่งของ ธปท.จึงเป็นเรื่องยากที่จะเลือกใช้วิธีการลดทุน เพื่อบรรเทาความเสียหาย เพราะต้องมีการตัดรายการในงบการเงินออก ซึ่งหากทำเช่นนี้จะยิ่งทำให้งบการเงินไม่สมดุล

ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าในช่วงปลายปีที่มีการตกลงซื้อขายหุ้นตามราคาตลาดสูงถึง 1.36-1.38 บาทต่อหุ้น แต่แท้จริงราคาหุ้นตามบัญชีกลับต่ำกว่ามากถึง 0.30 บาทต่อหุ้นนั้น การคำนวณราคาตลาดมาเทียบกับราคาตามบัญชีไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เพราะราคาตามบัญชีเป็นเพียงการอ้างอิงพื้นฐานของหุ้น แต่การตกลงซื้อขายกันของนักลงทุนจะตกลงกันในราคาตลาดมากกว่า

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของสายกำกับสถาบันการเงิน พบว่า ราคาหุ้นในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย.50 ถือเป็นช่วงแรกที่กองทุนฟื้นฟูฯ จะตัดสินใจเพิ่มทุน ซึ่งช่วงนั้นราคาหุ้นในตลาดอยู่ที่ระดับ 1.73-1.75 บาทต่อหุ้น แต่ในช่วงกลางปีมีปัญหาเรื่องสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ของสหรัฐ ทำให้มูลค่าหุ้นลดลงส่งผลให้ต้องมีการตกลงราคากันใหม่และจบการเจรจาด้วยราคา 1.36 บาทต่อหุ้นช่วงเดือน ธ.ค.50 ถือว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงที่ผู้ถือหุ้นรายเก่านำเงินใส่เข้าไปมูลค่าหุ้นราคาตลาดตกลงแค่ 0.09 บาทต่อหุ้นเท่านั้น จากระดับ 1.27 บาทต่อหุ้นในช่วงเดือน ม.ค.51

ขณะที่ราคาตามบัญชีของหุ้นไทยธนาคารปลายเดือน ธ.ค.อยู่ที่ระดับ 0.64 บาท แต่หลังจากเพิ่มทุนแล้วในช่วงเดือน ม.ค.ราคากลับเพิ่มเป็น 1.05 บาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us