Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน6 มิถุนายน 2551
ไตรมาสแรกคนกรุงกังวลปัญหา108เครียดค่าครองชีพ-การเมือง-เศรษฐกิจ             

 


   
search resources

Marketing




เปิดโผล่วิจัยคนกรุงเทพฯ ผจญวิกฤติเศรษฐกิจ น้ำมัน-สินค้าราคาแพง ไตรมาสแรก แต่ยังพอใจในชีวิต ระบุเศรษฐกิจและสังคมสร้างความกังวล 108 ประการ พบคนกรุงกังวลสถานทางการเงิน ค่าครองชีพพุ่งทำให้ชักหน้าไม่ถึงหลัง หวั่นสถานการณ์การเมือง การบริหารรัฐบาลชุดใหม่ เครียดมากหาที่พึ่งทางใจเข้าหาไสยศาสตร์ ดูดวงใช้ของขลัง

นายกิตติพงษ์ วีระเตชะ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์การสื่อสารแบรนด์ กลุ่มบริษัท ยังก์ แอนด์ รูบิแคม แบรนด์ จำกัด ได้จัดตั้งโครงการ วายแอนด์อาร์รีเฟกเตอร์ (Y&Reflector) เพื่อทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับทัศน คติ ความเชื่อ ความสนใจ และความเป็นไปของคนในสังคม โดยจะทำการศึกษาผู้ที่อาศัยในกรุงเทพมหานคร ทุกๆ 3 เดือน จำนวน 300 ตัวอย่าง โดยผลการวิจัยรอบล่าสุดเก็บข้อมูลในช่วงต้นเดือนเมษายน 2551 พบว่า คนกรุงเทพฯ ถึง 73% มีความพึงพอใจกับสภาพชีวิตในปัจจุบัน แต่ก็ยังมีคนในกลุ่มนี้ถึง 68% มีความกังวลต่างๆ และ 32% ไม่กังวล

คนกรุงพอใจชีวิตแต่กังวล108

ผลวิจัยแสดงให้ว่า คนกรุงเทพฯ มีความกังวลปัญหาทางด้านการเงินเป็นอันดับแรก เนื่องจากพวกเขาไม่มั่นใจว่าตนเองจะมีเงินเพียงพอสำหรับการใช้จ่าย รวมไปถึงการวิตกต่อรายได้ในอนาคตที่ไม่แน่นอน ตลอดจนปัญหาหนี้สินที่อาจจะไม่สามารถชำระคืนได้ตามสัญญา ตามมาด้วยความกังวลอันดับที่ 2 ก็คือ ความกังวลด้านปัญหาสุขภาพ ส่วนอันดับ 3 คือ กังวลเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมืองและสภาพเศรษฐกิจ โดยพบว่า ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สร้างความกังวลใจให้กับผู้บริโภค ตามด้วยความกังวลสถานการณ์การเมือง และ การบริหารจัดการของรัฐบาลชุดใหม่ที่หลายฝ่ายต่างเฝ้ารอการแก้ปัญหาอยู่

อันดับที่ 4 คือ ความกังวลเกี่ยวกับเรื่องลูกและปัญหาความสัมพันธ์ภายในครอบครัว และความกังวลอันดับที่ 5 คือ ความกังวลเกี่ยวกับงานที่ทำอยู่ โดยความกังวลนั้นมาจากความเสี่ยงที่จะตกงานและการหางานทำที่ยากขึ้น ตลอดจนปัญหาในที่ทำงาน ความกดดันในการทำงานที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น เป็นไปตามความรุนแรงของการแข่งขันในตลาด อันมีผลกระทบมาจากปัญหาทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ผลวิจัยชี้ว่า ผู้ชายมีความรู้สึกพอใจกับชีวิตในปัจจุบันน้อยกว่าผู้หญิง ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะแรงกดดันภายใต้สถานการณ์แวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคมที่เป็นอยู่ส่งผลต่อความรู้สึกพอใจในชีวิตของคนวัยทำงานและผู้ชายกรุงเทพฯ มากกว่าผู้บริโภคกลุ่มอื่น

"ความกังวลในชีวิตของคนเมืองหลวง ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม โดยหากมองจากสถานการณ์ของประเทศและของโลกในปัจจุบัน ปัญหาต่างๆ เหล่านี้จะยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคงเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคหลีกเลี่ยงได้ยากและจำเป็นต้องเตรียมตัวที่จะรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นต่อไป อย่างไรก็ตามสำหรับผลวิจัยในช่วงไตรมาส 2 ที่จะเริ่มทำการสำรวจเดือนกรกฎาคม นี้ คาดว่าจะออกมาในทิศทางที่ไม่ดี โดยคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่มีความวิตกกังวลต่อสถานการณ์บ้านเมือง"

กังวลเศรษฐกิจแต่อยู่อย่างมีความหวัง

ท่ามกลางความกังวลใจ คนกรุงเทพฯ ยังมีความปรารถนาที่หลากหลายถึง 93.3% ประการแรกปรารถนาด้านของการเงินและวัตถุ ซึ่ง 53% ต้องการที่จะมีสถานะทางการเงินที่ดีขึ้น เพื่อที่จะใช้ซื้อที่อยู่อาศัย ซื้อรถยนต์ หรือเพื่อใช้จ่ายเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตามด้วยต้องการให้คนในครอบครัวมีสุขภาพดี 36.3% และยังมีความหวังต่อสังคม เศรษฐกิจ และ การเมืองไทยว่าจะมีความสงบสุขภายในประเทศถึงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การบริหารจัดการปัญหาต่างๆของรัฐบาล และการพัฒนาสังคมไปในทิศทางที่ดีขึ้นถึง 10.3%

เครียดมากหาทางออกพึ่งไสยศาสตร์

นอกจากนั้น ประเด็นความปรารถนาภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน พบว่า มีคนกรุงเทพฯ เพียง 6.7% ไม่มีความต้องการอะไรเพิ่มในชีวิต ในขณะที่อีก 93.3% กลับมีความต้องการอีกหลายสิ่งหลายอย่าง ซึ่งสิ่งที่พวกเขาต้องการส่วนใหญ่เป็นความต้องการในการแก้ปัญหาความกังวลใจในสิ่งที่เผชิญอยู่ข้างต้น ทั้งนี้พบว่าคนกรุงเทพฯ ถึง 34.7% ชอบดูดวง และ 19% ชอบเครื่องรางของขลัง ส่วนด้านไลฟ์สไตล์ของคนกรุงเทพฯ ปีนี้ส่วนใหญ่จะนิยมท่องเที่ยวภายในประเทศในสัดส่วนถึง 75% ที่เหลือเป็นเที่ยวในเอเชียและยุโรปกับอเมริกา และให้ความสนใจเกี่ยวกับปัญหาภาวะโลกร้อนในสัดส่วน 53% ราคาน้ำมัน 43% อัตราแลกเปลี่ยน 22% ฟุตบอลลีก 23% และโอลิมปิค 11%

นายกิตติพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กิจกรรมการตลาดที่ได้รับความสนใจ พบว่า คนกรุงเทพฯ ต้องการทดลองสินค้าก่อนซื้อ และต้องการผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้า ส่วนลดพิเศษหรือสิทธิพิเศษจากการเป็นสมาชิก และมีดาราร่วมกิจกรรม โดยกลุ่มวัยรุ่นจะให้ความสำคัญกิจกรรมออนไลน์ถึง 66% เป็นต้น ส่วนด้านประสบการณ์บริการที่ประทับ คือ ต้องการดูแลเอาใจ เป็นมิตร สุภาพ บริการรวดเร็ว ให้ข้อมูลชัดเจน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us