ไม่ว่าจะเป็นการตายอย่างสิ้นลายเสือของปลัดนคร จึงศิริประเสริฐ นักการค้า-เจ้าพ่อรุ่นลายครามของจังหวัดชลบุรี…
หรือจะเป็นการตายอย่างน่าเวทนาของเสี่ยจิว "จุมพล สุขภารังษี"
อดีตผู้มีอิทธิพลคับแผ่นดินแห่งฟากฝั่งทะเลตะวันออก…
หรือแม้แต่การตายอย่างหฤโหดของเฮฟเนอร์เมืองไทย "เสกสรร สัตยา"
กับการถูกไล่ล่าต้องเอาให้ตายให้ได้กับสถาปนิกชื่อก้อง "ชัชวาลย์ พริ้งพวงแก้ว"…
กระทั่งมติร่วมส่งวิญญาณของเสี่ยฮวด "พิพัฒน์ โรจน์วาณิชชากร"
สิงโตภูเขาดาวรุ่งจรัสฟ้าแห่งฝั่งทะเลตะวันออก คนล่าสุดเมื่อวันเช็งเม้งเลือดที่ผ่านมา
ล้วนแต่บ่งสะท้อนให้เห็นถึงสัจธรรมในการทำมาค้าขายของเมืองไทยได้ดีว่า "ลูกปืนยังคงศักดิ์สิทธิ์เสมอในความด้อยพัฒนาของนักธุรกิจไทย"
!!
"อาจได้เห็นการทำลายล้างในลักษณะนี้บ่อยครั้งขึ้น โดยเฉพาะกับสังคมธุรกิจภาคตุวันออกที่กำลังขยายตัวสุดขีดจากโคงการอีสเทิร์นซีบอร์ด
เพราะระยะฟักตัวซึ่งองค์กรธุรกิจต่าง ๆ มีโอกาสเติบโตได้นั้น โดยเฉพาะองค์กรธุรกิจระดับล่าง
ซึ่งเป็นของผู้ประกอบการท้องถิ่นที่มีอิทธิพลบางคนบางกลุ่มกับความพยายามที่จะขยายฐานธุรกิจของตัวให้ใหญ่ขึ้นนั้น
คงไม่มีทางเลือกไหนที่จะรวดเร็ว และสัมฤทธิผลได้เหมือนกับตัดปีกคู่แข่งขันด้วยความได้เปรียบนอกเหนือกฎกติกาของสังคมที่ตัวเองมีอยู่"
สิ่งที่ชวนให้น่าติดตามจากความเป็นไปที่อาจเกิดขึ้นนี้อยู่ที่ว่า "ท่ามกลางความสามานย์ในจิตใจของนักธุรกิจบางคนบางกลุ่มความศักดิ์สิทธิ์เที่ยงตรงของกฎหมาย
จะสามารถเข้าไปควบคุมและจัดการขั้นเด็ดขาดได้มากน้อยเพียงไร" !?
และทุกครั้งที่มีการตายในลักษณะดูไม่ได้เกิดขึ้นในพื้นที่ฝั่งทะเลตะวันออกดูเหมือนว่า
ชื่อของ "กำนันเป๊าะ" หรือสมชาย คุณปลื้ม กำนันคนดังแห่งบ้านแสนสุข
อ.เมือง จ.ชลบุรี จะต้องถูกนำเข้ามาเกี่ยวข้องไม่ว่าโดยวิถีทางใด ๆ ก็ตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
!!
"คงห้ามไม่ได้ เพราะหากมีชื่อของผมแล้ว มันช่วยทำให้เรื่องน่าสนใจและน่าติดตามมากขึ้น"
กำนันลูกน้ำเค็มขนานแท้กล่าวกับ "ผู้จัดการ" ท่ามกลางเสียงอื้ออึงของผู้คนหลายหมื่นที่พากันมาร่วมในงานเลี้ยงฉลองตำแหน่ง
"สมาชิกสภาเทศบาลตำบลแสนสุขชุดแรก" ที่มีคนชื่อ "สมชาย คุณปลื้ม"
เป็นนายกเทศมนตรี !!
บรรยากาศในงานชุมนุมมังกรซ่อนพยัคฆ์เหนือริมหาดบางแสน เมื่อค่ำวันที่ 19
เมษายนที่ผ่านมา แม้ว่าหลายคนจะตกอยู่ในภวังค์ของความ "เสียว"
ที่ไม่อาจล่วงรู้ได้ว่า จะเกิดขึ้นในวินาทีใด แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีอันเป็นบทพิสูจน์แจ่มชัดว่า
"หากอยู่ในพื้นที่บ้านแสนสุขแล้ว ย่อมไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใด ๆ เกิดขึ้นแน่นอน"
ก็คงจากบรรทัดฐานนี้เองกระมังที่ทำให้อดีตกำนันปัจจุบัน "นายกเป๊าะ"
ถึงกับมีความมั่นใจสูงสุดที่จะบอกกับ "ผู้จัดการ" ว่า "ผมเองไม่อยากเป็นนายกเทศมนตรีมากนัก
แต่ได้รับการขอร้องจากผู้ใหญ่หลายท่านให้มาลงเป็นหัวขบวนในระยะแรกก่อน ซึ่งผมจะพยายามอย่างถึงที่สุดต่อการพลิกฟื้นสถานตากอากาศที่เคยลือเลื่องอย่างหาดบางแสนให้เป็นที่กลับมาชื่นชอบของผู้คนอีกครั้ง"
นั่นก็คงเป็นเรื่องที่ "นายกเป๊าะ" จะต้องสำแดงความสามารถออกมาอย่างเต็มที่เพื่อพิสูจน์ให้ชาวบ้านแสนสุขได้ปลาบปลื้มกันว่า
"สมแล้วที่พวกเขายินดีเรียก "พ่อกำนัน" และเหนืออื่นใดก็คือ
การสร้างภาพพจน์ใหม่ของ "นายกเป๊าะ" ให้เป็นที่รับทราบกันถึง "ความเป็นนักบริหารที่มีประสิทธิภาพมากคนหนึ่ง"
เพราะผลประโยชน์ของเทศบาลตำบลแสนสุขกับหาดบางแสนในอนาคตอันใกล้นั้น มันช่างเย้ายวนและท้าทายต่อความรับผิดชอบ
"นายกเป๊าะ" อย่างดีแท้ ๆ !!
หลายคนอาจจะรู้จักภาพของ "นายกเป๊าะ" ในความรู้สึกที่แตกต่างกัน
แต่คงมีน้อยคนที่จะรู้ว่า บนหนทางธุรกิจนั้น "นายกเป๊าะ" ก็เป็นเจ้าของกิจการธุรกิจหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น
"แฮปปี้เวิลด์" อัครฐานสถาบันเทิงใหญ่ที่สุดของภาคตะวันออก - นักธุรกิจพัฒนาที่ดินมือฉบัง
- เจ้าของโรงแรม และอีกหลายธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายจนเจ้าตัวเอ่ยกับ "ผู้จัดการ"
ว่า "มันน่าเบื่อเหมือนกันที่จะได้ยินแต่เรื่องไม่สู้ดี ผมบอกจริง ๆ
นะ ผมเหนื่อยพอแล้ว เหนื่อยทุกอย่าง อยากมีเวลาให้กับการทำธุรกิจของตัวเองบ้าง"
ทำไงได้นะ พ่อกำนัน…คนอย่างพ่อกำนันที่เห็นทีจะต้องเหนื่อยต่อไปไม่มีที่สิ้นสุดเสียแล้วกระมัง
!? เพราะไหนจะทั้งงานราษฎร์และงานหลวงที่ต้องตามสะสางกันอยู่เรื่อยไป !!