|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ดีเซเว่น เบรกแผนลุยเครื่องดื่มชูกำลัง – สปอร์ตดริงก์ ระบุสภาพเศรษฐกิจไม่เอื้อต่อการลงทุนใหม่ รีโพซิชั่นนิงกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มใหม่ อัดฉีด 100 ล้านบาท รุกขยายฐานลูกค้าวัยทำงาน ดึงป๋อ – ณัฐวุฒิ ขึ้นแท่นเป็นพรีเซ็นเตอร์ แก้จุดบอดเพิ่มเอเยนต์ทะลวงเทรดดิชันนัลเทรด สิ้นปีหวังแชร์ 5% ตั้งเป้า 4 ปี สู่อันดับ 3 ครองแชร์ 10-15%
นายพิชญ ส่งศักดิ์สกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยแอทลาสโกลบอลฟูด จำกัด หรือทีเอจีเอฟ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มดีเซเว่น เปิดเผยว่า หลังจากที่เปิดตัวกาแฟพร้อมดื่มดีเซเว่นลงสู่ตลาดมากว่า 6 เดือน ปรากฎว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมีส่วนแบ่ง 3% จากมูลค่า 9,500 ล้านบาท ดังนั้นบริษัทฯจึงได้วางแผนการตลาดในเชิงรุก โดยรีโพซิชันนิงกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มดีเซเว่นใหม่ เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายวัยทำงาน จากที่ผ่านมามุ่งเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายกลุ่มคนขับรถและคนเดินทางเป็นหลัก
ล่าสุดได้ทุ่มงบประมาณ 100 ล้านบาท จากงบทั้งปี 500 ล้านบาท ดำเนินการทำตลาดอย่างครบวงจร ทั้งบีโลว์เดอะไลน์และอะโบฟเดอะไลน์ นำร่องเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาใหม่ 2 เรื่อง โดยดึงป๋อ-ณัฐวุฒิ สะกิดใจ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เนื่องจากมีไลฟ์สไตล์และตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายวัยทำงาน พร้อมกันนี้ยังได้จัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯตั้งเป้าขยายฐานลูกค้ากลุ่มวัยทำงานเพิ่มจาก 30% เป็น 60-70% ส่วนคนขับรถและคนเดินทางลดลงจาก 70% เหลือเป็น 30-40%
นอกจากนี้ปีนี้บริษัทฯยังคงมุ่งเน้นเพิ่มตัวแทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีเพียง 10 ราย สามารถกระจายสินค้าได้ไม่ถึง 20% ซึ่งตั้งเป้าหมายจะเพิ่มขึ้นเป็น 50 ราย เพื่อกระจายสินค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะช่องทางเทรดดิชันนัลเทรด เนื่องจากบริษัทฯตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายใน 4 ปีข้างหน้านี้จะขึ้นเป็นอันดับ 3 ของตลาดด้วยการครองส่วนแบ่ง 10-15% ซึ่งสิ้นปีนี้ดีเซเว่นตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 5% จากปัจจุบันเบอร์ดี้เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 60% เนสกาแฟ 25% ส่วนอันดับ 3 ยังไม่มีแบรนด์ใดที่รั้งตำแหน่ง
ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจปีนี้ที่ชะลอตัวลง การเมืองขาดเสถียรภาพ แผนการแตกไลน์เครื่องดื่มชูกำลังและสปอร์ตดริงก์ต้องชะลอไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจไม่เอื้อต่อการลงทุน ส่วนตลาดกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มมูลค่า 9,500 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีแรกมีภาวะทรงตัว เนื่องจากผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย แต่คาดว่าทั้งปีจะมีอัตราการเติบโต 5% อย่างไรก็ตามแนวโน้มการแข่งขันปีนี้มีความรุนแรงมากขึ้น เพราะมีผู้ประกอบการรายใหม่จะเข้ามาทำตลาด
นายพิชญ กล่าวว่า ช่วงเวลานี้บริษัทฯจึงมุ่งเน้นทำตลาดกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มให้เป็นแบรนด์ที่ติดตลาดก่อน ขณะเดียวกันยังต้องเน้นการบริหารการจัดการด้านต้นทุน เพราะขณะนี้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นเกือบ 1 บาท โดยมาจากนมและกระป๋อง อย่างไรก็ตามหากกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มดีเซเว่นได้รับความนิยม บริษัทฯจะรุกตลาดกาแฟทรีอินวัน ซึ่งปัจจุบันผลิตและวางจำหน่าย แต่ยังไม่ได้มีการทำตลาดอย่างจริงจัง ส่วนในปีหน้านี้จะเปิดตัวกาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม 2 รสชาติใหม่ โดยไม่มีแผนแตกกาแฟเซกเมนต์พรีเมียม เนื่องจากตลาดเล็กมีมูลค่าเพียง 300-500 ล้านบาท
|
|
|
|
|