Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน3 มิถุนายน 2551
“เซฟ-ที-คัท”ปรับราคา-ขนส่งเพิ่มไลน์ขยายผลิตเตรียมบุกตปท.             
 


   
search resources

Electric
เซฟ-ที-คัท, บจก.
ชวาล โสตถิวันวงศ์




“เซฟ-ที-คัท” ซุ่มเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ หวังระดมทุนขยายกิจการ ไลน์สินค้า ตลาดต่างประเทศ มั่นใจตลาดเครื่องตัดไฟอัติโนมัติยังมีโอกาสอีกมาก เหตุคนไทยใช้แค่ 6% เท่านั้นตอนนี้ จากประชากรมากกว่า 60 ล้านคน พร้อมปรับราคา 10% เดือนที่แล้วรับต้นทุนพุ่ง

นายชวาล โสตถิวันวงศ์ ประธานกรรมการ บริษัท เซฟ-ที-คัท (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Mai ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการให้ที่ปรึกษาทางการเงินศึกษารายละเอียดต่างๆ โดยมีจุดประสงค์ที่ต้องการจะขยายกิจการบริษัทฯ รวมทั้งการขยายกำลังผลิตและขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ด้วย รวมไปถึงการขยายตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น

ในปีที่แล้วตลาดรวมผลิตภัณธฑ์เครื่องตัดไฟอัติโนมัติทั้งหมดโดยรวมมีการเติบโต 8% เมื่อเทียบกับปี 2550 ขณะที่บริษัทฯมีส่วนแบ่งเป็นผู้นำตลาดมากกว่า 80% ทิ้งห่างจากคู่แข่งในตลาดอย่างมาก และเมื่อถึงอนาคตของตลาดเครื่องตัดไฟอัติโนมัติแล้วมีโอกาสอีกมา เพราะเมืองไทยมีปริมาณการใช้ขณะนี้แค่ 6% เท่านั้นจากจำนวนประชากรทั้งประเทศ มีกว่า 60 ล้านคน ยังมีตลาดอีกมากที่ยังขยายได้

ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทฯเมื่อปีที่แล้ว มีการเติบโต 8% โดยรายได้มาจาก 6 กลุ่มผลิตภัณฑ์คือ เครื่องตัดไฟ, ผลิตภัณฑ์ตู้ควบคุมแผงวงจรไฟฟ้า, เซอร์กิตเบรกเกอร์, ผลิตภัณฑ์โคมไฟฉุกเฉินชุดเบ็ดเสร็จ ผลิตภัณฑ์เครื่องส่งสัญญาณกันขโมย และ ผลิตภัณฑ์เครื่องตัดแก๊สอัตโนมัติ และมีแชร์ เครื่องตัดไฟอัติโนมัติ 80% ตั้งเป้าหมายปีนี้แชร์เพิ่มเป็น 82% และเพิ่มเป็น 85%ในอีก 3 ปีจากนี้ และตั้งเป้ามีการเติบโต 20% ภายใน 3 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยอมรับว่า บางกลุ่มผลิตภัณฑ์ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ เช่น เครื่องตัดแก๊สอัติโนมัติ ซึ่งบริษัทฯจะทยอยลดการทำตลาดลง แต่ผลิตภัณฑ์หลายตัวก็ไปได้ดีเช่น เมื่อปีที่แล้วได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องตัดไฟ ตู้ควบคุมแผงวงจรไฟฟ้าและเซอร์กิตเบรกเกอร์แบบครบไลน์ เข้าสู่ตลาดตั้งแต่ตลาดบ้านถึงโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่

ปัจจุบันบริษัทฯมีกำลังผลิตเครื่องตัดไฟเซฟ-ที-คัท ประมาณ 800 กว่ายูนิตต่อวันเท่านั้นเอง ซึ่งน้อยมาก เมื่อเทียบกับความต้องการของตลาด ทำให้เตรียมที่จะขยายกำลังผลิตเพิ่มที่โรงงานที่ชัยนาท ซึ่งเดิมมีพื้นที่รวม 200 กว่าไร่ และเมื่อเสร็จแล้วจะทำให้บริษัทฯสามารถขยายกำลังผลิต และขยายไลน์เพิ่มได้ด้วย เช่น จะโยกส่วนการผลิตเซอร์กิตเบรกเกอร์ที่บริษัทฯร่วมทุนกับคนจีนผลิตที่ประเทศจีน กลับมาไว้ที่ประเทศไทยแทน แล้วแบ่งตลาดส่งออกกับจีน

สำหรับช่องทางการจำหน่ายในประเทศนั้นมี 3 ช่องทางหลักคือ 1.ค้าส่ง มากกว่า 80% 2.โครงการ ประมาณ 10% 3.ขายตรง ประมาณ 10%

เมื่อการเพิ่มกำลังผลิตแล้วเสร็จ บริษัทฯก็เตรียมที่จะเปิดตลาดส่งออกเพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งที่ผ่านมาก็มีบ้างแล้วแต่ยังไม่มากนักเนื่องจากกำลังผลิตยังน้อยอยู่ เช่น ส่งไปจำหน่ายที่เวียดนาม เป็นต้น ส่วนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้านั้นได้ทำไปแล้วในหลายประเทศ แต่ที่ญี่ปุ่นยังไม่ได้จดเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูงมาก

นายชวาลกล่าวด้วยว่า ด้วยผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่างๆ ทั้งในเรื่องของปัญหาราคาน้ำมัน ปัญหาราคาวัตถุดิบ ที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้บริษัทฯต้องปรับกลยุทธ์ ในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง แต่ยอมรับว่า ได้ปรับราคาจำหน่ายผลิตภัณฑ์ขึ้นเฉลี่ย 10% เมื่อเดือนที่แล้ว เพราะต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

ทางบริษัทฯได้ปรับวิธีการขนส่งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยนำระบบลอจิสติกส์มาใช้ในการบริหารคลังสินค้าและการขนส่ง เพื่อลดต้นทุนการขนส่ง ส่วนการแข่งขันกับสินค้าจากคู่แข่งต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีนที่ปัจจุบันส่งสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิกส์ เข้ามาขายในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก พบว่าไม่มีผลกระทบต่อยอดจำหน่ายสินค้าของเซฟ-ที-คัท เพราะบริษัทฯเน้นคุณภาพไม่เน้นเรื่องราคา   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us