|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แอลจีเดินหน้ารีแบรนด์ หวังเป็นพรีเมี่ยมโปรดักส์ ขึ้นอันดับหนึ่งในไทยอีก 4 ปีข้างหน้า งัดเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ มาร์เก็ตติ้ง เข้าช่วย ประเดิม สการ์เล็ตเป็นสินค้านำร่อง มั่นใจปีนี้โตอีก 20% มีแชร์เพิ่มขึ้นในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอีก 3-5%
นายวูดดี้ นัม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอลจี อีเลคทรอนิคส์ ภูมิภาคเอเชีย เปิดเผยว่า หลังจากที่แอลจีได้มีนโยบายที่จะปรับภาพลักษณ์แบรนด์ จากแวลู ฟอร์ มันนี่ มาเป็น พรีเมี่ยมแบรนด์ ตั้งแต่ปีก่อน ล่าสุดสำหรับในสหรัฐอมริกา สามารถทำได้แล้ว แต่ในส่วนภูมิภาคเอเชีย ยังน้อยอยู่ โดยเฉพาะในไทย ซึ่งขณะนี้ถือว่าติดอันดับ 3 ของกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มียอดขายสูงสุด โดยบริษัทฯตั้งเป้าว่าในอีก 2 ปีจะต้องขึ้นเป็นอันดับ 2 และอีก 2 ปีจากนั้น จะต้องขึ้นเป็นอันดับ 1 ให้ได้
“สาเหตุที่มีการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ เนื่องจากสินค้าที่มีแวลู ฟอร์ มันนี่ หรือคุ้มค่าคุ้มราคานี้ ทำแล้วไม่ค่อยได้กำไร แต่เมื่อหันมาสร้างแบรนด์สร้างมูลค่าให้สินค้าแล้ว จะเป็นสินค้าที่ขายแล้วมีกำไร จึงทำให้แอลจีหันมาโฟกัสการปรับแบรนด์ใหม่ โดยในไทยจะมุ่งเน้นในเรื่องของการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าหากทำสำเร็จแล้ว จะทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้นด้วยกว่า 40%”
นายวูดดี้ กล่าวต่อว่า ในภูมิภาคเอเชีย แอลจีได้ให้ความสำคัญอยู่ 3 ประเทศ คือ ไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย ตามลำดับ ขณะที่เวียดนาม ถือเป็นประเทศที่มีการเติบโตของยอดขายสูงสุด แต่การที่ให้ความสำคัญกับไทยมากสุด เพราะมองว่าไทยมีศักยภาพในหลายๆด้าน ถึงแม้ว่าจะมีปัจจัยทางเศรษฐกิจเข้ามา ก็ยังไม่ส่งผลกระทบต่อยอดขายในขณะนี้ ขณะเดียวกันไทยถือเป็นประตูสู่อีกหลายๆประเทศในแถบอินโดจีนที่ทางแอลจี จะสามารถเข้าไปทำตลาดต่อไป
นางสาวศุภรางศ์ อนุชปรีดา ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เมื่อเทียบแบรนด์แอลจีกับแบรนด์ญี่ปุ่น ที่ทำตลาดในไทยมานานหลายสิบปีนั้น มองว่ากลุ่ม40 ปีขึ้นไป จะไม่เลือกซื้อแอลจีเป็นอันดับแรก แต่ถ้าเป็นกลุ่ม 20-25 ปีขึ้นไป เชื่อว่าแบรนด์แอลจี เข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคแล้ว ขณะเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบกับแบรนด์เกาหลีด้วยกันแล้ว ในเรื่องของการทำตลาด มองว่าเราทำได้ดีกว่า เพราะแอลจีนำเสนอในเรื่องของดีไซน์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี แต่อีกแบรนด์จะเน้นเรื่องเทคโนโลยีที่มาพร้อมกับดีไซน์
ล่าสุดของการรีแบรนด์ สู่การสร้างแบรนด์ให้เป็นพรีเมี่ยมแบรนด์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Stylish Design and Smart Technology ในประเทศไทยได้ดำเนินการไปแล้วประมาณ 20-30% โดยเบื้องต้นจะสื่อสารให้ผู้บริโภครับทราบผ่านตัวสินค้า กับสินค้านำร่องตัวแรก คือ แอลซีดีทีวี ซีรี่ย์ สการ์เล็ต ใหม่ ซึ่งหลังจากที่เปิดตัวมาได้ 1 เดือน และทางบริษัทฯเพิ่งนำสินค้าส่งมอบไปยังช่องทางขายต่างๆได้ประมาณ 2-3 อาทิตย์นั้น พบว่าได้รับการตอบรับดีมาก มีออเดอร์เข้ามาแล้วกว่า 500-600 เครื่อง คาดว่าภายใน 1 เดือน น่าจะเกินเป้าที่วางไว้ 1,000 ตัว ซึ่งหลังจากนี้บริษัทฯจะเริ่มทำตลาดสร้างแบรนด์กับกลุ่มสินค้าอื่นๆตามมา ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ และเครื่องซักผ้า ตามลำดับ
นอกจากกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ที่จะสื่อสารผ่านตัวสินค้าแล้ว บริษัทฯยังให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ทางการตลาดด้วย ล่าสุดได้ใช้กลยุทธ์ เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ มาร์เก็ตติ้ง กับการเป็นผุ้สนับสนุนหลักในกิจกรรม “แอลจี สตารซ์ ทาเลนต์”รายการเรียลลิตี้ ในการแข่งขันด้านการร้องเพลง การเต้น และการแสดง ที่กำลังจะออกอากาศทางช่อง 3 โดยการเป็นผู้สนับสนุนหลักครั้งนี้ แอลจีจะนำเสนอเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ สู่กลุ่มเป้าหมายอย่าง วัยรุ่น และอาร์ตทิส ผ่านบ้านแอลจี ที่ผู้เข้าแข่งขันต้องอยู่ร่วมกัน เชื่อว่าจะเป็นช่องทางในการสร้างแบรนด์ได้อีกช่องทางหนึ่ง ทั้งนี้คาดว่าทั้งปีแอลจีจะมียอดขายเติบโตขึ้นอย่างน้อย 20% และมีแชร์ในตลาดเพิ่มขึ้นอีก 3-5%
|
|
|
|
|