รถยนต์มวยรองปรับตัวรับศึกหนัก โตโยต้ายาริส ฟุ่งเป้าจับตลาดวัยรุ่นถาวร ด้วยกลยุทธ์ Co-Creative ดึงวัยรุ่นมีส่วนร่วมออกแบบ WRAP ตัวรถ หลังโปรเจ็กต์ออกแบบเบาะนั่งประสบความสำเร็จ หวังต้านความแรงของฮอนด้า แจ๊สใหม่ ในตลาดคอมแพ็กต์คาร์ ส่วนทีด้า ซีดาน มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าครอบครัว ด้วยการใช้ Emotional Function ในสมรภูมิรถยนต์นั่งขนาดเล็ก

แม้ช่วงปลายปี 2550 ที่ผ่านมา โตโยต้าจะสามารถกอบโกยยอดขาย รุ่นยาริส รถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็กต์คาร์แบบ แฮชแบ็ค ไว้ได้มากมาย แต่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฮอนด้า แจ๊ส รถยนต์คู่แข่งอยู่ในช่วงปลายโมเดล และชะลอสายการผลิตในช่วงดังกล่าว เพื่อเตรียมขึ้นไลน์ผลิตฮอนด้า แจ๊สใหม่ เพราะฉะนั้น หลังการเปิดตัวฮอนด้าแจ๊ส ในช้วงต้นปี 2551 ที่ผ่านมา ด้วยกระแสของโมเดลใหม่ของคู่แข่ง ที่สามารถทำยอดของได้มากถึง 5,000 คันหลังการเปิดตัว และยอดขายที่ฮอนด้าคาดหวังว่าจะสูงถึง 20,000 คันในปีนี้

โตโยต้า จึงต้องตั้งรับการรุกตลาดครั้งใหม่ของแจ๊ส ซึ่งก่อนหน้านี้ โตโยต้าได้เริ่มใช้กลยุทธ์ Co-Creative เพื่อปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ ของตัวรถให้เข้าถึงวัยรุ่น ด้วยการประกวดผลงานออกแบบลายเบาะนั่งจากกลุ่มนักศึกษาระดับอุดมศึกษา และนำผลงานมาปรับใช้ตกแต่งเป็นลายเบาะนั่งของยาริส ในชื่อรุ่น Yaris me

ล่าสุดโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กิจกรรม “YARIS WRAP ME CONTEST” ภายใต้แนวคิด Yaris Me เป็นโครงการหนึ่งของโตโยต้า YARIS ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมในการออกแบบลายที่จะถูก WRAP ลงบนตัวรถ ซึ่งเป็นรูปแบบการตลาดหนึ่งที่เรียกกว่า Co-Creative Marketing

วุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด บอกว่า กิจกรรม YARIS WRAP ME CONTEST ที่จัดขึ้นนี้เป็นการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ได้แสดงออกถึงความสามารถทั้งในทางวิชาการและความคิดสร้างสรรค์ และกิจกรรมต่างๆ ภายใต้แนวคิด Yaris Me

“ไม่ได้มีเพียงแค่ กิจกรรม YARIS WRAP ME CONTEST เท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมายตามมา อาทิ กิจกรรมประกวดแผนการตลาดของโตโยต้ายาริส หรือ “YARIS IMC Plan Contest”, กิจกรรม YARIS PHOTO ME CONTEST, กิจกรรม YARIS ROAD SHOW และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย ภายใต้วัตถุประสงค์หลักที่จะทำให้กิจกรรมของโตโยต้ายาริส เป็นเวทีแสดงความสามารถและความเป็นตัวของตัวเองให้กับคนรุ่นใหม่ ที่โตโยต้าตั้งใจตอบสนองความต้องการของตลาด และตอบสนองความเปลี่ยนแปลงของไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่” วุฒิกร กล่าว

โตโยต้าคาดหวังว่า กิจกรรมในแบบ Co-Creative ดังกล่าวภายใต้แคมเปญ Yaris Me จะทำให้ยอดขายยาริสเพิ่มจาก เดือนละ 800-900 คันเป็น 1,000-1,200 คันต่อเดือน หรือคิดเป็น 15% จากยอดขายรถยนต์นั่งโตโยต้าทั้งหมดเดือนละประมาณ 8,000 คัน

ด้าน สยามนิสสัน ออโตโมบิล จำกัด ผู้ผลิตรถยนต์นิสสันในประเทศไทย ก็ต้องปรับ ตำแหน่งผลิตภัณฑ์รถยนต์ ทีด้า แบบซีดาน อีกครั้ง ด้วยการเลือกเกจาะกลุ่มเป้าหมายระดับครอบครัว โดยก่อนหน้านี้สยามนิสสันได้ปรับตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของรถยนต์รุ่นนี้มาครั้งหนึ่ง ด้วยการลดราคาลงมาคันละ 30,000 บาท เนื่องจากความผิดพลาดของการวางตำแหน่งผลิตภัณธ์ให้ขึ้นไปอยู่ในเซ็กเมนท์ รถยนต์นั่งขนาดเล็ก ระดับเดียวกับโตโยต้า อัลติส และ ฮอนด้าซีวิค

การปรับตำแหน่งผลิตภัณฑ์ครั้งนี้ เป็นการมุ่งหากลุ่มเป้าหมายของนิสสัน ทีด้า แบบซีดานให้ชัดเจนขึ้น โดยเพิ่มชื่อรุ่นเป็น ทีด้า ลาติโอ เพื่อแบ่งกลุ่มและภาพลักษณ์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นระหว่าง ทีด้า 5 ประตูแฮชแบ็ค ที่มี “คุณปลื้ม” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ กับทีด้า แบบซีดาน ในชื่อ ลาติโอ

กระจ่าง กันตนฤมิตรกุล รองผู้จัดการใหญ่ การตลาด บริษัท สยามนิสสัน ออโตโมบิล จำกัด ได้กล่าวเสริมถึงรถรุ่นนี้ว่า ในปีนี้ นิสสัน ทีด้า ลาติโอ จะกลายเป็นรถที่ทุกคนกล่าวถึงมากขึ้นแน่นอน เพราะความคุ้มค่าที่มากขึ้นของรถรุ่นนี้ และอีกเรื่องที่ทางนิสสันสามารถจำหน่ายรถรุ่นไปทั่วโลกแล้วมากกว่า 1 ล้านคัน และหลายประเทศยังยกให้ นิสสัน ทีด้า ลาติโอ เป็นรถซีดานที่มีความคุ้มค่า ใช้งานได้ง่ายและคล่องตัวที่สุดรุ่นหนึ่ง

ทั้งนี้ทางนิสสันได้เตรียมแผนการตลาด สนับสนุนการจำหน่ายของทีด้า ลาติโอ ภายหลังการเปิดตัวที่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไว้แล้วหลายแนวทาง โดยเราจะจัดกิจกรรมตามคอนเซ็ปท์ “Think about your love ones” หรือ คิดถึงคนพิเศษ ซึ่งสื่อสารผ่านเพลง “คนพิเศษ” ขับร้องโดย “ป๊อบ-แคลลอรี่ บลา บลา” แทนความรู้สึกของคนพิเศษ ที่จะเดินทางไปพร้อมกับ นิสสัน ทีด้า ลาติโอ

ในกิจกรรมที่ว่านี้ จะรวมถึงการให้ลูกค้าได้ทดลองขับทีด้า ลาติโอ ที่โชว์รูมนิสสัน “เราคาดว่าลูกค้าที่ได้ทดลองขับรถ ทีด้า ลาติโอ จะมีความรู้สึกสนุกและต้องชื่นชอบรถรุ่นนี้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ เรายังมีแผนที่จะนำรถรุ่นนี้เข้าไปเปิดบู๊ธพิเศษตามศูนย์การค้า และสถานที่ต่างๆ ให้มากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นและสัมผัสกับรถของเราให้มากที่สุด และยังมีหน่วยงานราชการอีกหลายแห่งที่เราคาดว่าจะสามารถนำรถรุ่นนี้เข้าไปนำเสนอได้” กระจ่างกล่าว

สยามนิสสัน คาดหวังว่า การปรับเปลี่ยนทั้งตำแหน่งผลิตภัณฑ์ ที่อยู่ระหว่างตลาดรถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็กต์คาร์ ของโตโยต้า วีออส และฮอนด้า ซิตี้และรถยนต์นั่งขนาดเล็กอย่างโตโยต้า อัลติส และฮอนด้า ซีวิค จะทำให้นิสสัน ทีด้า โดยเฉพาะ ลาติโอจะพบกลุ่มเป้าหมายของตนเอง ด้วยการเลือกจับกลุ่มผู้ที่ใช้รถในแบบครอบครัวขนาดเล็ก

ปัจจุบันยอดขายรถยนต์นั่งของนิสสัน ช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ตั้งแต่มกราคมถึงเมษายน อยู่ในอันดับ 4 ของตลาดรถยนต์นั่งในเมืองไทย ด้วยส่วนแบ่งตลาด 3.92% ด้วยยอดขาย 2,649 คัน จากรถยนต์เพียง 2 รุ่นคือ นิสสันทีด้า และนิสสัน เทียน่า รถยนต์ในเซ็กเมนท์รถนั่งขนาดกลาง ซึ่งถือว่าเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ไม่มากนัก เมื่อเทียบกับเจ้าตลาดอย่างโตโยต้า ที่มีส่วนแบ่งตลาดถึง 48.69% และฮอนด้า 34.69% อีกทั้งยังถูกค่ายเชฟโรเลต ทำยอดขายแซงด้วยส่วนแบ่งตลาด 5%

การปรับตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของนิสสัน ทีด้า ลาติโอ ในครั้งนี้จะเป็นบทพิสูจน์ว่า การเลือกเจาะกลุ่มเป้าหมายครอบครัวในครั้งนี้จะเป็นไปตามที่คาดหวังไว้หรือไม่ และกลยุทธ์ Co-Creative ในชื่อ Yaris me จะต้านความร้อนแรงของฮอนด้า แจ๊ส ได้มากเพียงใด ตัวเลขยอดขายรถยนต์นั่งของนิสสันช่วงปลายปีจะเป็นดัชนีชี้วัดกลยุทธ์ มวยรองดังกล่าว