วิกฤติโรค SARS (Severe Acute Re-spiratory Syndrome) หรือโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงที่เกิดขึ้น
กระตุ้นต่อมอยากรู้อยากเห็นของผมให้ต้องตะเกียกตะกายเสาะหาข้อมูลความรู้
เพื่อทำความเข้าใจถึงกลไกและเบื้องหน้าเบื้องหลังของโรคนี้ และบังเอิญผมได้อ่านบทความเรื่อง
Influenza ในนิตยสาร American Scientist (March-April 2003) ทำให้ยิ่งรู้สึกถึงความสำคัญของเรื่องนี้
และพยายามค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมในแขนงที่ไม่เคยสนใจมาก่อนคือ ไวรัสวิทยา
(Virology) ด้วยข้อจำกัดของตัวเอง การค้นคว้าของผมจะอยู่ในขอบเขตเบื้องต้นขององค์ความรู้
และพยายามทำความเข้าใจในลักษณะ Concept และหลักการ ซึ่งเท่านี้ผมก็ได้เห็นสิ่งแปลกใหม่ๆ
ที่น่าสนใจยิ่งมากมาย
โรค SARS นักวิทยาศาสตร์สรุปว่ามีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัส ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าโรคระบาดที่ทันสมัย
ส่วนใหญ่จะมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัส ไม่ว่าจะเป็นโรคหวัดนก (Hong Kong Flu
1997) โรคไข้เลือดออกจาก Virus Ebola หรือ โรค AIDS ล้วน มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสทั้งสิ้น
ถ้าไปดูที่ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก โรคระบาดที่รุนแรงและถูกบรรจุอยู่ในโครงการเฝ้าระวัง
CSR (Communicable Disease Surveillance & Response) 10 โรคจากทั้งหมด
15 โรคเป็น โรคที่มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัส ความสามารถอันน่าทึ่งของเชื้อไวรัส
ที่สามารถสร้างเคราะห์กรรมใหญ่หลวงให้กับทั้งคน สัตว์ และพืช (ซึ่งเป็นผลประโยชน์ของคน)
จึงเป็นเหตุให้เราน่าจะหันไปมองและทำความรู้จักอย่างละเอียด
ฤทธิ์เดชที่เหล่าไวรัสได้ฝากให้กับมนุษยชาติ ซึ่งได้สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
เห็นจะเป็นวิกฤติการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ Influenza ซึ่งระบาดไปทั่วโลกระหว่างปี
ค.ศ.1918 ถึงปี ค.ศ. 1919 ในช่วงเวลาดังกล่าว มีประชากรโลกป่วยเป็นโรคนี้สูงถึง
500 ล้านคน หรือประมาณหนึ่งในห้าของ ประชากรโลก มีผู้คนล้มตายอยู่ระหว่าง
20 ถึง 40 ล้านคน เห็นตัวเลขนี้แล้วทำให้ตัวเลขอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา
ดูเป็นเรื่องเล็กน้อยลงไป โรคนี้มีชื่อเรียกกันว่า Spanish Flu ที่เรียกอย่างนี้เพราะการระบาดในช่วงแรกเกิดในประเทศสเปน
ซึ่งทำให้มีผู้คนล้มตายกว่า 8 ล้านคน จากนั้นก็ระบาดไปทั่วทั้งยุโรป อเมริกาเหนือ
เอเชีย แอฟริกา อเมริกาใต้ และหมู่เกาะแปซิฟิกใต้ แม้ในสหรัฐอเมริกาที่ว่าเจริญกว่า
ใครก็มีคนล้มตายด้วยโรคนี้ไปเกือบ 7 แสนคน
เหตุที่มีผู้คนล้มตายมากขนาดนี้ สาเหตุที่สำคัญคือช่วงเวลาดังกล่าว เป็นช่วงท้ายสุดของสงครามโลกครั้งที่
1 ซึ่งสภาพความเป็นอยู่ของผู้คน และเศรษฐกิจของยุโรปอยู่ในสภาพย่ำแย่ ยิ่งกิจกรรมทางทหารทั้งสองฝ่าย
เช่นการเคลื่อนย้ายกำลังพลขณะที่สภาพความเป็นอยู่ของทหารก็เลวร้าย เป็นองค์ประกอบสำคัญในการแพร่กระจายโรคร้ายนี้อย่างรวดเร็ว
ครึ่งหนึ่งของทหารอเมริกันที่ถูกส่งไปรบในยุโรปและเสียชีวิตจะเสียชีวิตจากโรค
Spanish Flu นอกจากนั้นยังมีข้อสงสัยว่าโรคระบาดครั้งนี้เกิดจากการใช้อาวุธชีวภาพ
(เชื้อไวรัส Influenza) ซึ่งทางฝ่ายพันธมิตรบอกว่าเป็นอาวุธของฝ่ายเยอรมัน
ขณะที่ฝ่ายเยอรมันบอกว่า เชื้อมาจากทหารอเมริกันนำมาใช้เป็นอาวุธ ความจริงเป็นเช่นไร
ไม่ทราบได้ แต่ก็เป็นที่น่าสยองถ้าเป็นความจริง เพราะสมัยนั้นยังไม่มีเทคโนโลยีทางพันธุวิศวกรรมแต่ก็ยังทำได้ขนาดนี้
ท่านทั้งหลายคงจำกันได้ในปี 1997 เกิดการระบาดของไข้หวัดนกหรือ Bird Flu
ที่ฮ่องกง ในครั้งนั้นมีผู้ติดเชื้อไวรัสหวัดนกจำนวน 18 คน เสียชีวิตไป 6
คนและหยุดอยู่เท่านั้น แต่ทางการ Hong Kong ต้องฆ่าสัตว์ปีกที่เป็นอาหาร
ส่วนใหญ่เป็นไก่ไปกว่าล้านตัว ถ้าท่านจำได้วิกฤติการณ์ในครั้งนั้นดูไม่ใหญ่โตอะไร
และที่ต้องฆ่าไก่ไปจำนวนมาก ก็เพื่อต้องการหยุดการระบาดของโรคระหว่างไก่ด้วยกัน
(คือโรคนี้ไก่เป็นไก่ก็ตายด้วย) แต่หารู้ไม่ว่า ที่ต้องฆ่าไก่จำนวนมากเกิดจากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเพื่อหยุดการระบาดของโรคนี้ในคนด้วย
จากการศึกษาพบว่าเชื้อไวรัส Bird Flu มีชื่อทางไวรัสวิทยา ว่า H5N1 influenza
virus เป็นญาติกับ H1N1 influenza virus หรือ Spanish Flu ซึ่งทำคนตายไป
หลายสิบล้านคนมาแล้ว และ Bird Flu ก็มีความรุนแรงกว่า Spanish Flu ด้วย
ก่อนหน้านี้ก็มีการระบาดย่อยๆ ของ Influenza อยู่เป็นระยะเช่น ปี ค.ศ.1957,
1968, 1976, 1977 แต่ในปี 1997 จะเป็นเวอร์ชั่นของไวรัส Influenza (HA Subtype)
ใหม่ล่าสุดคือกลุ่ม H5N1 เมื่อปี ค.ศ.2001 และปี ค.ศ.2002 มีการตรวจพบไวรัส
H5N1 ในสัตว์ปีกที่ฮ่องกง อีกแต่มีโครงสร้างของโปรตีนที่เปลือกหุ้ม (Envelope)
แตกต่างออกไปจาก Bird Flu (1997) แสดงให้เห็นว่า ไวรัสตัวนี้ยังวนเวียนและก็มีวิวัฒนาการที่เกิดจากการผ่าเหล่าหรือ
mutation อยู่
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1972 แล้วที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า ไวรัส Influenza มีจุดกำเนิดจากนกน้ำ
(Aquatic Bird) แต่ยังไม่พบตัวอย่างที่เห็นกับตาว่าติดต่อมายังคน
จนกระทั่งการระบาดของ Bird Flu (1997) และเป็นความโชคดีอีกอย่างของมนุษย์ที่การระบาดของ
Bird Flu เป็นการติดต่อจากไก่มายังคนโดยตรง และหยุดอยู่ตรงนั้น ถ้าเกิดการระบาดหนักของ
Bird Flu ซึ่งทำให้คนติดโรคจำนวนมากและเป็นเวลานานเพียงพอ (เท่าไรไม่ทราบ)
จะเกิดการวิวัฒนาของเชื้อไวรัสให้กลายพันธุ์จนทำให้เชื้อติดต่อได้ผ่านคนติดคน
ทีนี้มนุษยชาติอาจต้องหนาวอีกรอบ
แม้ว่าเราอาจอยู่ท่ามกลางเหล่าไวรัสอันตราย ซึ่งต่างพยายามจะวิวัฒนาการตัวเองให้เด่นและสามารถขึ้น
มนุษย์ก็ต้องพัฒนาและเตรียมพร้อมเพื่อเอาชนะอย่างชาญฉลาด และที่สำคัญอย่าเป็นผู้นำพาอันตรายเหล่านี้มาทำลายพวกเรากันเองทั้งด้วยตั้งใจหรือพลั้งเผลอ