โบรกฯชี้แผ่นดินไหวเสฉวนกระทบเศรษฐกิจจีนขยายตัว ทั้งระยะสั้นและยาว แนะโฟกัสหุ้นกลุ่ม เหล็ก ,อาหาร, ยางมะตอย, พลาสติค, เรือเทกอง พลอยฟ้าพลอยฝนได้รับประโยชน์ไปด้วย
จากเหตการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของจีน ที่ความเสียหายในเบื้องต้น มีผู้เสียชีวิตเบื้องต้นแล้ว 33,000 ราย บาดเจ็บอีก 220,300 คน ผู้ประสบภัยและไร้ที่อยู่อาศัยประมาณ 4.8 ล้านคน ส่วนที่อยู่อาศัยเสียหายถึง 6 แสนอาคาร และยังมีอาฟเตอร์ช๊อคตามมาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะทำให้มีมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้าบาท มากกว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เคยเกิดขึ้นที่โกเบประเทศญี่ปุ่น ขณะนี้รัฐบาลปักกิ่งได้จัดตั้งกองทุนเบื้องต้นกว่า 900 ล้านหยวน สำหรับช่วยเหลือและฟื้นฟูความเสียหายจากหายนะภัยครั้งนี้แล้ว
บริษัทหลักทรัพย์(บล.) นครหลวงไทย ประเมินเหตุการณ์ในครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนปี 2551 อย่างแน่นอนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยในระยะยาว เนื่องจากนครเฉิงตูซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเสฉวน ซึ่งถือเป็นเมืองที่มีความสำคัญมากทางเศรษฐกิจ จากขนาดของเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของจีน และเป็นเมืองที่มีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนอย่างมาก ดังนั้นเหตุการณ์ในครั้งนี้จึงอาจส่งผลกระทบต่อนโยบายการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในอนาคตได้ นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่เป็นเส้นทางสู่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ คือ อุทยานแห่งชาติ จิ่วไจโกว ด้วย
ด้านผลกระทบต่อตลาดหุ้นจีนในปัจจุบันยังคงไม่มีนัยสำคัญ เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนที่ตั้งอยู่ในเมืองเฉิงตูถูกห้ามการซื้อขายอยู่ ในขณะที่ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายต่อภาพรวมเศรษฐกิจได้ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากกรณีศึกษาของแผ่นดินไหวที่โกเบของญี่ปุ่นในปี 1995 พบว่าดัชนีนิกเคอิปรับตัวลดลงถึง 20% ตรงข้ามกับตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวขึ้นในขณะนั้นถึง 12%
ส่วนผลกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ในระยะสั้น เชื่อว่าจะส่งผลกระทบให้ราคาสินค้าเกษตร ได้แก่ ข้าว, ถั่วเหลือง, ข้าวโพด และยางพารา ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากคาดว่าจะทำให้เกิดอุปสงค์ในระยะสั้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ส่วนโลหะที่มีการผลิตมากในเมืองเฉิงตู ได้แก่ สังกะสีและอลูมิเนียม คาดว่าจะไม่กระทบต่อราคาในตลาดโลกเนื่องจากมีปริมาณการผลิตไม่มาก
ในด้านพลังงาน คาดว่าจะได้รับผลกระทบในเชิงลบ โดยเฉพาะในส่วนของราคาน้ำมันดิบและถ่านหิน เนื่องจากโรงไฟฟ้า โรงกลั่น และโรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ในจีนมีการปิดทำการชั่วคราว ส่วนในระยะยาว คาดว่าสินค้าประเภทวัสดุก่อสร้างจะเป็นที่ต้องการมากขึ้นเพื่อใช้ซ่อมแซมความเสียหาย โดยคาดว่า ปูนซีเมนต์, ยางมะตอย, เหล็กเส้น, ไม้ และท่อ PVC จะมีความต้องการเพิ่มขึ้นในระยะสั้นเช่นกัน
ด้านผลกระทบตลาดหุ้นไทยและบริษัทจดทะเบียนคาดว่า ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสได้รับประโยชน์จากเงินทุนไหลเข้า หากดัชนีตลาดหุ้นจีนเกิดการปรับตัวลดลง แต่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์อาจได้รับผลกระทบจากมาตรการที่เข้มงวดขึ้นในการก่อสร้าง ส่วนผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน ส่วนใหญ่คาดว่าจะเป็นด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจอยู่กับจีนอยู่แล้วและมีแนวโน้มได้ประโยชน์ ได้แก่ บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์(TASCO), บมจ.น้ำมันพืชไทย (TVO), บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร ( CPF)
สำหรับบริษัทจดทะเบียนในตลาดที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์ ได้แก่ บมจ.ทาทา สตีล (ประเทศไทย)(TSTH), บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์(TASCO), บมจ.วนชัย กรุ๊ป (VNG), บมจ.วีนิไทย (VNT), บมจ.ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ (TPC), บมจ.น้ำมันพืชไทย (TVO), บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) และ บมจ.ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอเรชั่น(TRUBB)
สำหรับหุ้น TSTH ราคาเหล็กคาดจะยังอยู่ในช่วงขาขึ้นตามอุปสงค์การใช้งานที่เพิ่มขึ้น โดยหุ้น TPC และ VNT ซึ่งการปิดโรงไฟฟ้าชั่วคราวเป็นผลกระทบต่อเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวอาจจะส่งผลให้เกิดการขาดแคลนพีวีซีและจะกระทบต่อระดับราคาในอนาคต
ส่วนหุ้น TASCO มีโรงงานผลิตยางมะตอย (AE และ PMA) ที่กวางเจา ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ในทางกลับกันจะทำให้บริษัทสามารถรองรับความต้องการใช้ยางมะตอยที่เพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ฝ่ายวิจัยมองว่ากลุ่มสินค้าเทกองจะเป็นสินค้าหลักในการฟื้นฟูประเทศ ซึ่งจะทำให้อุปสงค์ในเรือเทกองมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นหลังเหตุการณ์สงบ โดยทั้งนี้สินค้าเทกองได้แก่ ซีเมนต์ ,ไม้ ,ถ่านหิน ,เมล็ดธัญพืช เป็นต้น โดย TTA วิ่งส่งสินค้าระหว่างจีน-ตะวันออกกลางในปี 2550 ถึง 32 เที่ยว หรือ 22% ของเที่ยวเรือแบบประจำเส้นทาง (Liner) ทั้งหมด 148 เที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์จากไม้และเหล็ก
นอกจากนี้การที่กองเรือของ บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) มีเรือในกลุ่มประจำเส้นทางไม่มากนักเพียง 1 ใน 3 ก็มีความเป็นไปได้ว่าเรือในกลุ่มนี้ จะถูกดึงไปส่งสินค้าเทกองสนับสนุนการฟื้นฟูประเทศ แม้ว่ามณฑลเสฉวนจะใช้การเชื่อมต่อโดยระบบรางในการขนถ่ายสินค้าก็ตาม ซึ่งฝ่ายวิจัยมองว่าแม้ในระยะสั้นการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนคาดจะใช้การขนส่ง ทางอากาศแทนระบบราง แต่ในระยะกลางเชื่อว่าการขนส่งทางทะเลจะเป็นอีกเครื่องจักรสำคัญในครั้งนี้ ซึ่งเรือเทกอง อย่าง TTA มีแนวโน้มจะได้ประโยชน์โดยตรง จากเรืออีกว่า 70% ยังมีอิสระในการเปลี่ยนเส้นทางไปสู่จีน
|