Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์26 พฤษภาคม 2551
ไนกี้หวังใช้โอลิมปิกเกมส์ไต่เต้าสู่การก้าวกระโดด             
 


   
www resources

โฮมเพจ ไนกี้ จำกัด

   
search resources

Sports
ไนกี้ (ประเทศไทย), บจก.




ในขณะที่ทางการจีนพยายามกระตุ้นทั่วโลกให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของการนับถอยหลังเข้าสู่การแข่งขันโอลิมปิกในวันที่ 8 เดือน 8 ปี 2008 เพื่อหวังให้การแข่งขันครั้งนี้จารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของโอลิมปิกโลก ไนกี้กิจการชั้นนำของวงการรองเท้ากีฬาระดับโลกก็ดูเหมือนว่าจะพยายามถือโอกาสนี้โปรโมตกิจการ แบรนด์ และสินค้าให้มีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้ประเทศเจ้าภาพอย่างจีนเหมือนกัน เพียงแต่เกมทางธุรกิจของไนกี้มีตำแหน่งทางการตลาดในฐานะผู้ประกอบการอันดับ 1 ของโลกเป็นเดิมพัน แทนที่จะเป็นเหรียญทองของนักกีฬาอย่างการแข่งขันโอลิมปิกจริงๆ

จุดเด่นที่ชัดเจนอย่างแรกของการแข่งขันทางธุรกิจรองเท้ากีฬาและอุปกรณ์ของไนกี้ครั้งนี้อยู่ที่การทำให้สินค้าภายใต้แบรนด์ของไนกี้ขยายตัวออกไปอยู่ในความครอบครองของผู้บริโภคที่เป็นคนธรรมดา นอกเหนือจากกลุ่มคนรวยและไอโซจีนได้อย่างไร

จุดเปลี่ยนแปลงด้านที่สองของไนกี้ในสงครามทางธุรกิจครั้งนี้คือ การพัฒนาสิ่งแปลกใหม่แปลกตาที่จะสะท้อนความมีนวัตกรรมของไนกี้ที่สมกับการเป็นกิจการชั้นนำของโลก ด้วยการมีรองเท้ากีฬาให้ลูกค้าเลือกถึง 32 แบบ หรือมากกว่ารุ่นรองเท้าที่มีเมื่อ 4 ปีที่แล้วถึง 3 เท่าตัวทีเดียว เพื่อให้กระจายออกไปสู่ตลาดระดับมวลชนอย่างรวดเร็ว

ในการเลือกชนิดของรองเท้าก็เช่นกัน ไนกี้พยายามเอาใจตลาดในจีนด้วยการสร้างแคตตาล็อกของโมเดลรองเท้าที่นักกีฬาจีนเคยได้รับเหรียญรางวัลมาก่อนในอดีตเป็นหลัก อย่างเช่นกีฬายกน้ำหนัก ไปจนถึงกีฬาวูซู ซึ่งหากกลยุทธ์เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตามของไนกี้ครั้งนี้ได้ผลดี ก็จะทำให้ไนกี้แบรนด์มีโอกาสกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ที่น่าจดจำครั้งยิ่งใหญ่ของตลาดจีน นอกเหนือตลาดส่วนแบ่งตลาดขั้นพื้นฐานอย่างกีฬาบาสเกตบอลและฟุตบอลที่ได้ดำเนินการทางการตลาดอยู่แล้วก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ดูเหมือนว่าผู้บริหารของไนกี้จะใส่ใจเรื่องนี้ค่อนข้างมากเป็นพิเศษ เพราะเชื่อว่าเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับความเป็นผู้นำของไนกี้ในตลาดโลกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

สัญญาณที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนของไนกี้ในตลาดใหญ่อย่างจีน ไม่ใช่เพียงคนทั่วไปเท่านั้นที่มองเห็น หากแต่ยังรวมถึงคู่แข่งที่น่ากลัวอย่างอาดิดาสด้วย เพราะทีมงานการตลาดของอาดิดาสออกแคมเปญโต้ตอบทันที ด้วยสโลแกนเก๋ว่า “Together in 2008, Impossible is Noting”

ทั้งนี้เพราะตลาดจีนเป็นตลาดที่มีความสำคัญยิ่งกับทั้งไนกี้และอาดิดาส ในภาวะที่แนวโน้มการตลาดในสหรัฐฯ ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง จนต้องหาทางพึ่งพาตลาดนอกประเทศอย่างจีนซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่พอจะชดเชยยอดขายที่ลดลงในตลาดสหรัฐฯได้

โดยยอดจำหน่ายของสหรัฐฯ คาดว่าจะอยู่ในอัตราประมาณ 6.7% เป็น 313,800 ล้านดอลลาร์ในปี 2011 เทียบไม่ติดกับตลาดจีนที่คาดว่าจะมีอัตราเติบโตสูงกว่า 10 เท่าหรือราว 71% เป็น 184,800 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ประชากร 1,300 ล้านคนของจีนก็มีท่าทีเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคระดับรายได้ปานกลางในจีน

หากไนกี้และอาดิดาสจับตลาดจีนได้เพิ่มขึ้นตามเป้าหมาย ตลาดระดับกลางในจีนก็คงจะยกระดับขึ้นมาครองตำแหน่งตลาดที่มียอดการจำหน่ายสูงกว่าญี่ปุ่น และมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกที่มียอดการจำหน่ายเฉพาะ 12 เดือนที่ผ่านมาเกินกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ อันเป็นยอดขายที่ดีเกินกว่าความคาดหมายมาก

อาดิดาสทำท่าจะไม่ยอมอ่อนข้อให้กับไนกี้ง่ายๆ เพราะเชื่อมั่นว่าแบรนด์อาดิดาสบวกกับแบรนด์รีบอก ซึ่งมีพรีเซนเตอร์ชาวจีนคนดังอย่างเหยาหมิงคอยช่วยสร้างเชื่อมั่นให้กับคนจีนที่คลั่งไคล้กีฬา น่าจะทำให้ยอดขายของกลุ่มอาดิดาสเกินกว่า 1,000 ล้านยูโรเช่นกัน

ผู้เชี่ยวชาญทางการตลาดบางคนประเมินสถานการณ์แข่งขันระหว่างไนกี้กับอาดิดาสว่า ความเป็นเจ้าตลาดโลกด้วยสัดส่วนครองตลาด 40% ของไนกี้ เทียบกับ 15% ของอาดิดาส ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะตัดสินใจความสำเร็จของไนกี้ในตลาดจีน เพราะมีความแตกต่างและยุ่งยากมากมายที่ไนกี้ยังต้องฝ่าฟันไปให้ได้

ในขณะที่ข้อมูลทางการตลาดของไนกี้อาจจะไม่เพียบพร้อมเหมือนตลาดอื่นๆ ที่ไนกี้เคยผ่านมาแล้วด้วยเหตุนี้งบประมาณการส่งเสริมการตลาดของไนกี้จึงไม่ใช่เพียงโฆษณาทางโทรทัศน์เท่านั้น หากแต่ยังต้องวางตำแหน่งให้ลึกถึงระดับรากหญ้า หรือการแข่งขันในกีฬาต่างๆ ระดับท้องถิ่นในตลาดใหม่ๆ ที่ยังไม่ค่อยรู้จักชื่อของไนกี้มากนัก

ช่องทางการตลาดของไนกี้ก็ต้องขยายออกไปสู่สถานที่ใหม่ๆ ด้วย อย่างเช่นร้านค้าของไนกี้เองที่เปิดได้เฉพาะเมืองใหญ่อย่างปักกิ่ง ควบคู่กับร้านค้าปลีกในอีก 900 จุดที่ทั้งตลาดจีน รวมกับจุดที่มีสินค้าของไนกี้จำหน่ายอยู่แล้ว จะมีเครือข่ายระดับค้าปลีกรวมกันราว 3,500 จุด ซึ่งน้อยกว่าโดยเปรียบเทียบกับเครือข่ายระดับขายปลีกของอาดิดาสที่มีกว่า 4,000 จุดและของแบรนด์รีบอกอีก 500 จุด สะท้อนว่าการวางรากฐานทางธุรกิจรองเท้ากีฬาของอาดิดาสและรีบอกในจีนแซงหน้าคู่แข่งอย่างไนกี้ไปไกลแล้ว ทำให้ส่วนครองตลาดของแบรนด์ทั้งสองไม่ได้แตกต่างกันมากเหมือนในตลาดสหรัฐฯ กล่าวคือ อาดิดาสมีส่วนแบ่งทางการตลาด 8.2% เทียบกับ 9.8% ในกรณีของไนกี้

อย่างไรก็ตาม หากประเมินความนิยมแบรนด์ต่างๆ ของรองเท้ากีฬาในกลุ่มผู้ใช้วัยรุ่นในจีน ต้องยอมรับว่าไนกี้อยู่อันดับ 1 แซงหน้าอาดิดาส พูม่า และแบรนด์ท้องถิ่นอย่างหลีหมิงอยู่ดี

การที่ไนกี้มีชัยในตลาดกลุ่มวัยรุ่นนี้ทำให้นักการตลาดบางคนต้องกลับมาประเมินสถานการณ์ของไนกี้ในจีนใหม่อีกครั้ง เพราะนักการตลาดจำนวนหนึ่งถือว่ากลุ่มลูกค้าวัยรุ่นเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญมากต่ออนาคตทางการตลาดของรองเท้าและเสื้อกีฬา เพราะวัยรุ่นเป็นผู้ซื้อที่ทรงอิทธิพลในการบริโภคสูงสุด และสั่งการอยู่เบื้องหลังพฤติกรรมการซื้อสินค้าหลายต่อหลายชนิดในจีน ทั้งนี้เพราะจีนอนุญาตให้แต่ละครอบครัวมีลูกได้เพียงคนเดียวเท่านั้น

นักการตลาดอีกส่วนหนึ่งยังไม่ฟันธง และเห็นว่าการตัดสินว่าแบรนด์ไนกี้จะมีชัยหรือไม่เวลานี้ออกจะเร็วเกินไป เพราะจีนเป็นตลาดใหญ่ ผู้คนมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างรวมเร็วและคาดหมายได้ยาก อาจจะต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่าที่ลูกค้าชาวจีนจะยอมรับและซูฮกให้กับแบรนด์ไนกี้อย่างจริงจัง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us