โบรกเกอร์มั่นใจ "น้ำประปาไทย" ซื้อขายวันแรกเหนือราคาจองที่หุ้นละ 4.20 บาท ประเมินราคาไว้ที่ 4.70-5.80 บาท ขณะที่ผู้บริหาร-ที่ปรึกษาทางการเงินยังอุบไต๋ ไม่กล้าฟันธงราคาเทรดวันแรก การันตีแค่ผลการดำเนินงานที่โดดเด่น และยอดจองที่มีเข้ามาล้นทะลักกว่า 5 เท่า
วันนี้ (22 พ.ค.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้อนุมัติรับหลักทรัพย์ของบริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TTW เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นวันแรก ประกอบด้วยหุ้นสามัญจำนวน 3,990 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญเดิม 3,250 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 740 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (ราคาพาร์) หุ้นละ 1 บาท เสนอขายให้ประชาชนทั่วไป (ไอพีโอ) ในราคาหุ้นละ 4.20 บาท
สำหรับการจัดสรรหุ้นสามัญจำนวน 740 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 40 ล้านหุ้น เสนอขายให้แก่กรรมการและพนักงานบริษัท ในราคาหุ้นละ 1.20 บาท และจำนวน 700 ล้านหุ้น เสนอขายไอพีโอในราคาหุ้นละ 4.20 บาท รวมมูลค่าระดมทุน 2,940 ล้านบาท โดยมีพีอี เรโช ในราคาไอพีโอที่ระดับ 13.8 เท่า
นายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ บมจ. น้ำประปาไทย หรือ TTW เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรกจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาทั้งการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) หรือการจองซื้อหุ้นไอพีโอที่นักลงทุนสถาบันและรายย่อยให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ประกอบกับมั่นใจในศักยภาพของบริษัทที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมกับธุรกิจที่ทำเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่จำเป็นในการดำรงชีวิตของคนทั่วไป
"ราคาวันเทรดวันแรกจะยืนเหนือจองที่ 4.20 บาทได้หรือไม่ ไม่สามารถตอบได้ ต้องขึ้นอยู่กับความสนใจของนักลงทุน และภาวะการลงทุนในประเทศและต่างประเทศ แต่ผมเชื่อว่าหุ้น TTW จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของบริษัท และการตอบรับจากนักลงทุนในช่วงที่ผ่านมา แต่ต้องติดตามดูราคาหุ้นอีกครั้ง"
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวน 4,500 ล้านบาท บริษัทจะนำไปชำระหนี้ระยะสั้นที่ครบกำหนดชำระหนี้ในเดือนมิถุนายนจำนวน 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ของบริษัทลดลง 1.2-1.3 เท่าจากปัจจุบันหนี้สินรวมทั้งสิ้น 11,000 ล้านบาท D/E อยู่ที่ 2.6 เท่า
ด้านผลการดำเนินงานประจำไตรมาสแรก สิ้นสุด 31 มีนาคม 2551 บริษัทมีกำไรสุทธิ 303.16 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.09 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 222.96 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.07 บาท หรือกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 80.20 ล้านบาท หรือคิดเป็น 35.97%
อันเดอร์ไรท์ยันธุรกิจโดดเด่น
นายวรวัจน์ สุวคนธ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.กสิกรไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบมจ.น้ำประปาไทย กล่าวว่า หุ้น TTW น่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี หลังจากมียอดจองของนักลงทุนสถาบันเข้ามาสูงถึง 5 เท่าของจำนวนหุ้นที่เสนอขาย ขณะที่รายย่อยเองได้แสดงความสนใจเป็นจำนวนมาก จนทำให้บริษัทต้องเพิ่มสัดส่วนเสนอขายให้รายย่อยจากเดิม 35% เป็น 40%
ขณะที่จุดเด่นของ TTW คือเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำ ดำเนินการเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่มีความจำเป็นในการดำรงชีวิต และจากปริมาณความต้องการใช้น้ำของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามจำนวนประชากรและการขยายตัวของอุตสาหกรรม ทำให้ธุรกิจมีแนวโน้มอัตราการขยายตัวอย่างมั่นคง
มั่นใจวันแรกเหนือจอง
ด้านนายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. แอ๊ดคินซัน กล่าวว่า หุ้น TTW มีแนวโน้มการเติบโตดีต่อเนื่อง ความต้องการใช้น้ำที่มีสูงในอุตสาหกรรมทำให้ยอดขายมีแนวโน้มปรับขึ้นได้ในระยะยาว ส่วนผลประกอบการปี 2551 นี้ คาดว่ายอดขายที่สูงจะผลักดันให้กำไรปรับเพิ่มขึ้นอีก 50% อยู่ที่ 1,400 ล้านบาท
"ราคาหุ้นเทรดวันแรกมีโอกาสสูงมากที่จะปรับขึ้นเหนือราคาจอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากภาวะตลาดฯ สดใสโดยประเมินว่าราคาหุ้นอาจปรับขึ้นมาสู่ราคาเหมาะสมตามพื้นฐานที่ประเมินไว้ที่ระดับหุ้นละ 4.70 บาท จากราคาจองที่ 4.20 บาท"
ราคาเป้าหมาย 5.30- 5.80 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก จำกัด ประเมินว่า TTW ในปี 51-52 จะมีกำไรสุทธิโต 44% และ 27% ตามลำดับ จึงแนะนำให้ซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายปี 51 ที่หุ้นละ 5.80 บาท เนื่องจากในปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้จากการเข้าซื้อกิจการบริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด (PTW) บริษัทย่อย ทำให้รายได้และกำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 3,728 ล้านบาท และ 1,337 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% และ 44% ตามลำดับ
ส่วนปี 52 การเพิ่มกำลังการผลิตของ PTW อีก 1 แสน ลบ.ม./วัน และรับรู้รายได้จากปริมาณรับซื้อน้ำขั้นต่ำ (MOQ) ที่ กปภ.รับซื้อเพิ่มขึ้นจาก 2.5 แสน ลบ.ม./วัน เป็น 3 แสน ลบ.ม/วัน จะผลักดันให้ผลประกอบการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยคาดกำไรสุทธิปี 52 ประมาณ 1,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%
ด้าน บล. กรุงศรีอยุธยา หรือ AYS ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของ TTW อยู่ระหว่าง 4.00-5.30 บาท จากราคาไอพีโอ 4.20 บาท โดยมูลค่าพื้นฐานตามวิธี DCF Method อยู่ที่ 4.50 บาท หาก อิง P/E เฉลี่ยของหุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสาธารณูปโภค คือ EGCO RATCH GLOW EASTW เป้าหมายจะอยู่ที่ 4 บาท และหากคำนวณที่ PEG 0.6 เท่า มูลค่าพื้นฐานอยู่ที่ 5.30 บาท โดยผู้จองซื้อหุ้นจะได้รับเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2550 ที่คาดว่าจะจ่ายในไตรมาส 4/2551 ในอัตราหุ้นละ 1.50 บาท
ส่วนผลการดำเนินงานปี 2551 คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต 52% เป็น 1,399 ล้านบาท จากการเติบโตของรายได้ และรับรู้รายได้จาก PTW เต็มที่ สำหรับปี 2552 คาดกำไรเติบโต 32% เป็น 1,852 ล้านบาท จากอัตราเงินเฟ้อที่สูง และการลดลงของดอกเบี้ยจ่าย ส่วนผลประกอบการตลอดอายุสัมปทาน คาดว่ากำลังการผลิตของ TTW จะถูกใช้เต็มที่ในปี 2554 ส่วน PTW (รวมส่วนต่อขยาย) จะใช้เต็มที่ในปี 2556
ขณะที่ความเสี่ยงประกอบด้วยความไม่แน่นอนของคุณภาพน้ำดิบ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับน้ำดิบ สัญญาซื้อขายน้ำกับ กปภ. และความต้องการเงินทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตในอนาคตบริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TTW ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำประปาให้แก่การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เพื่อทดแทนการใช้น้ำบาดาลและเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำประปาให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ปัจจุบันมีกำลังการผลิตน้ำประปาสูงสุด 320,000 ลบ.ม.ต่อวัน และมีแผนขยายกำลังการผลิตเป็น 420,000 ลบ.ม.ต่อวันเพื่อรองรับความต้องการในอนาคต
สำหรับผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 อันดับแรก ได้แก่ บมจ. ช.การช่าง (CK) ถือหุ้น 35.26% บจก. มิตซุย วอเตอร์ โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) 25.88% และบมจ. ทางด่วนกรุงเทพ (BECL) 9.24% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลังไอพีโอ
|