ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์โชว์ยอดจดทะเบียนที่อยู่อาศัยแนวราบ ช่วง 2 เดือนแรก วูบ 14% ทำเลทองยังเป็นลาดกระบัง ประเวศ หนองแขม บางใหญ่ นนทบุรี ลาดหลุมแก้ว ส่วนคอนโดฯทำเลฮอตพระโขนง ห้วยขวาง ราชเทวี ลาดพร้าว ยังแรงไม่เลิก

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยข้อมูลที่อยู?อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 5 จังหวัด ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ว่า มีจํานวนรวม 9,399 หน่วย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7% โดยในจำนวนนี้เป็นที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ในเขตกรุงเทพฯ จํานวน 5,505 หน่วย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1% ส่วนในเขตปริมณฑลมีจํานวน 3,894 หน่วย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 17%

สัมมา คีตสิน ผู้อํานวยการศูนย์ข้อมูลฯ กล่าวว่า ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล เป็นบ้านเดี่ยวสร้างเสร็จจดทะเบียน 5,834 หน่วย ห้องชุด 1,861 หน่วย มีทาวน์เฮาส์และอาคารพาณิชย์รวม 1,631 หน?วย และบ้านแฝด 73 หน่วย โดยในเขตปริมณฑล มีเพียงปทุมธานีจังหวัดเดียวเท่านั้น ที่มีที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 36% ซึ่งประเภทที่อยู่อาศัยที่มีการจดทะเบียนเพิ่มสูงสุด ได้แก่ ทาวน์เฮาส์และอาคารพาณิชย์ จำนวน 266 หน่วย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน102% ขณะที่บ้านเดี่ยว มีจำนวน 642 หน่วย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 20%

เมื่อรวมจํานวนที่อยู?อาศัยแนวราบทุกประเภทในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล คือบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์และอาคารพาณิชย์ มีจํานวนรวม 7,538 หน่วย ลดลงจากช่วง 2 เดือนแรกของปีก่อน 14% โดยโครงการบ้านจัดสรรแนวราบ ที่มีหน่วยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่มากที่สุด อยู่ในเขตลาดกระบัง เขตประเวศ เขตหนองแขม บางใหญ่ นนทบุรี และลาดหลุมแก้ว

สำหรับที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ประเภทอาคารชุด ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลรวมกันในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ มีจำนวน 1,861 หน่วย เพิ่มขึ้น 35% จากจำนวน 1,375 หน่วยในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยพื้นที่ที่มีจำนวนหน่วยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ มากที่สุด คือ พระโขนง ห้วยขวาง ราชเทวี และ ลาดพร้าว

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ประเมินว่า เนื่องจากมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอน การจดจำนอง และภาษีธุรกิจเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ เพิ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาและมีกำหนดสิ้นสุดในปลายเดือนมี.ค. 2552 จะเป็นปัจจัยให้ผู้ประกอบการเร่งงานพัฒนาโครงการที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ เพื่อขายและโอนได้ภายในสิ้นปีนี้ต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกปี 2552 แทนที่จะพัฒนาโครงการใหม่ซึ่งต้นทุนในการก่อสร้างกำลังปรับตัวสูงขึ้นมากจากราคาวัสดุก่อสร้างและราคาน้ำมัน โดยปัจจุบันมีโครงการบ้านจัดสรรที่อยู่ในระหว่างก่อสร้างในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลประมาณ 28,000 หน่วย และมีโครงการอาคารชุดที่ในระหว่างก่อสร้างในช่วงเวลาแล้วเสร็จต่างๆกันรวมประมาณ 36,000 หน่วย และคาดว่าที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ในปีนี้จะมี ประมาณ 75,000-78,000 หน่วย