|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เอไอเอสชิงความผู้นำเทคโนโลยี 3จี เปิดบริการ 3GSM advance ด้วยเทคโนโลยีเอชเอสพีเอรายแรกในประเทศไทย เชื่อมั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติรูปแบบการสื่อสารของคนไทยจากนี้ไป
ศึกความเป็นผู้นำในเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3จี ในประเทศไทย แต้มต่อตกเป็นของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส อีกครั้ง หลังจากที่เป็นได้เปรียบมาแล้วในเทคโนโลยี 2,75 จี
ล่าสุด ทางเอไอเอสได้ทำการเปิดตัว 3GSM advance บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยี เอชเอสพีเอหรือ HSPA บนคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ เป็นครั้งแรกในไทยกันที่จังหวัดเชียงใหม่
วิเชียร เมฆตระการ, กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามที่เอไอเอสได้ประกาศความพร้อมในการเปิดให้บริการ อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงและมือถือเห็นหน้าได้ด้วยเทคโนโลยีเอชเอสพีเอบนคลื่นความถี่ 900 เม็กกะเฮิร์ตซ เป็นรายแรกของประเทศไทย ภายใต้ชื่อ 3GSM advance ไปเมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่ผ่านมานั้น จากความพร้อมดังกล่าว ในวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา เราจึงได้เริ่มจำหน่ายเครื่องและเปิดให้ลูกค้าชาวเชียงใหม่ได้ใช้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจัดกิจกรรมเพื่อสร้างการรับรู้และจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่เอชเอสพีเอทั่วเมืองเชียงใหม่
บริการ 3GSM advance เป็นการนำเทคโนโลยีเอชเอสพีเอ หรือ High Speed Packet Access บนคลื่นความถี่ปัจจุบันที่ทางเอไอเอสให้บริการอยู่ มาพัฒนาเป็นบริการรูปแบบใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงได้อย่างสะดวกสบายบนมือถือ โดยเป็นการทำงานบนสัญญาที่รับสิทธิอยู่ภายใต้ความร่วมมือระหว่างบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กับเอไอเอสที่ได้ทำเอ็มโอยูร่วมกัน
โดยที่เอไอเอสได้รับสิทธิจากทีโอทีในการปรับปรุงโครงข่ายจากที่ได้ให้บริการอยู่ปัจจุบัน เพื่อที่จะใช้เทคโนโลยีใหม่บนความถี่เดิมให้เกิดประโยชน์สูงสุด
"ทีโอทีเองก็ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ให้ทำการปรับปรุงโครงข่ายโดยใช้เทคโนโลยีเอชเอสพีเอลบนคลื่นความถี่ 900 เมกกะเฮิร์ตซเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"
ทางด้านสรรค์ชัย เตียวประเสริฐกุล, หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด เอไอเอส กล่าวเสริมว่า 3GSM advance ถือเป็นบริการในเจนเนอเรชั่นที่ 3 บนมาตรฐาน WCDMA หรือ Wide Band CDMA ที่คลื่นความถี่ 900 เม็กกะเฮิรตซ์ หรือที่เรียกกันว่า 3จี สามารถรองรับการใช้งานรับ-ส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงขนาด 7200 กิโลบิทต่อวินาที แตกต่างจากเทคโนโลยีจีพีอาร์เอสหรือเอดจ์ปัจจุบัน ที่ให้ความเร็วเพียง 160 กิโลบิทต่อวินาที ต่างกันถึง 45 เท่า ดังนั้นจึงทำให้สามารถให้บริการต่างๆ ได้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก เช่น อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงบนมือถือ โทรศัพท์แบบเห็นหน้าหรือวิดีโอคอลล์ หรือบริการดาวน์โหลดข้อมูลขนาดใหญ่ในลักษณะของวิดีโอคลิป วิดีโอสตรีมมิ่ง ฟูลซอง มิวสิกวิดีโอ ซึ่งลูกค้าที่ใช้ 3GSM advance จะสามารถใช้บริการดังกล่าวได้ทั้งหมดด้วยหมายเลขเดิมในระบบ GSM advance
"สำหรับเหตุผลที่เลือก จ.เชียงใหม่เป็นพื้นที่เริ่มต้นในการให้บริการ เพราะถือเป็นจังหวัดอันดับ 2 ของประเทศไทยรองจากกรุงเทพมหานครที่มีความต้องการใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง และไลฟ์สไตล์ที่ไม่แตกต่างกัน ในขณะเดียวกันก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเอไอเอสในการให้บริการในจังหวัดอื่นๆที่ไม่ใช่เพียงกรุงเทพมหานครด้วย"
สรรค์ชัย กล่าวว่า ในอนาคตรูปแบบของบริการจะต้องสามารถตอบสนองได้ทั้งลูกค้าที่อยู่ในต่างจังหวัดและเขตกรุงเทพฯนั่นเอง ทั้งนี้ลูกค้าปัจจุบันของ GSM advance สามารถเปลี่ยนมาใช้ 3GSM advance ได้โดยใช้เบอร์เดิม เพียงซื้อเครื่องโทรศัพท์และเปลี่ยนเป็นซิม 3GSM advance โดยโปรโมชั่นวอยซ์คอลล์จะเป็นโปรโมชั่นเดิมที่ใช้งานอยู่ ส่วนโปรโมชั่นการใช้งานดาต้าจะคิดตามปริมาณข้อมูลที่ใช้งานจริง
"เราได้เตรียมงบประมาณในการเปิดให้บริการ 3GSM advance ไว้ราว 600 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบที่อยู่ในส่วนของการพัฒนาเครือข่ายปี 2551 ที่เตรียมไว้ราว 16,000 ล้านบาท สำหรับการเปิดตัวที่เชียงใหม่นี้เบื้องต้นมีสถานีฐานจำนวน 25 แห่ง ที่ครอบคลุมใจกลางเมืองเชียงใหม่ทั้งหมด ส่วนในกรุงเทพฯและพื้นที่อื่นๆนั้นจะทยอยให้บริการตามลำดับ โดยจะพิจารณาจากความต้องการในแต่ละพื้นที่ต่อไป ทั้งนี้เราเชื่อมั่นว่าจะมีลูกค้าสนใจและเริ่มใช้บริการได้ราว 70,000 - 80,000 รายภายในปี 2551"
|
|
|
|
|